เวียดนามนำเข้าชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานของกรมศุลกากร ระบุว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน เวียดนามนำเข้าชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ราว 195 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มูลค่าการนำเข้ารวมของกลุ่มสินค้าอยู่ที่ 3.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ต้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับปี 2562 ยอดการนำเข้าชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ยังคงลดลง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดนำเข้าของกลุ่มสินค้าดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากเอเชีย ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไทยและจีน นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน เวียดนามส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ 258.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตต่างประเทศ (CBU) จำนวน 6,227 คัน ด้วยมูลค่ารวม 135.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://vnexplorer.net/spending-us3-billion-on-importing-auto-components-and-spare-parts-a2020131688.html

เวียดนามทุบสถิติส่งออกไม้ในปีนี้

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน เวียดนามส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ มูลค่า 12.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 เมื่อเทียบปีต่อปี และส่งผลให้การเกินดุลการค้า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ นับว่าติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ของภาคการส่งออกป่าไม้ที่ยังคงมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ของเวียดนาม ส่วนใหญ่ส่งออกไปยังตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหภาพยุโรปและจีน นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท กล่าวว่าการส่งออกไม้และผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6 ของส่วนแบ่งการตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวได้ดี เนื่องจากการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีของเวียดนามกับประเทศต่างๆ อีกทั้ง อุตสาหกรรมดังกล่าว จะกวาดรายได้จากการส่งออก ประมาณ 14-14.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีหน้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 10-11 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกในปี 2568 ที่ 18-20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-wood-forestry-export-reaches-revenue-record-this-year-315103.html

ต้นปี 64 เมียนมาเริ่มส่งออกกาแฟ 100 ตันไปเอเชียตะวันออก

นาย U Ngwe Tun ผู้ก่อตั้ง Genius Coffee เผยเมียนมาจะส่งออกกาแฟ 100 ตันไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออก โดยกาแฟหกตู้มูลค่าประมาณ 850,000 ดอลลาร์สหรัฐจะถูกส่งออกไปยังเกาหลี ญี่ปุ่น และจีนซึ่งมีความสนใจในกาแฟที่มีการผลิตแบบออร์แกนิก Genius Coffee จะส่งออกเมล็ดกาแฟโดยร่วมมือกับอีก 2 บริษัท ซึ่งจะถูกส่งออกภายในเดือนมกราคม อีก 2 ตู้คอนเทนเนอร์ในเดือนมีนาคมและที่เหลือภายในต้นเดือนพฤษภาคม เป็นโอกาสที่เมียนมาจะได้แสดงคุณภาพของกาแฟสู่สายตาชาวโลก ปัจจุบันผู้ผลิตในท้องถิ่นสามารถผลิตกาแฟคั่วบดได้ประมาณหนึ่งตันต่อวัน ด้วยกำลังการผลิตที่มีอยู่จะใช้เวลาสองสัปดาห์เพื่อตอบสนองความต้องการที่เริ่มมากขึ้นจากตลาดต่างประเทศ ขณะนี้กาแฟเมียนมากำลังได้รับความนิยมหลังงานแสดงกาแฟนานาชาติที่ผ่านมา

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-export-100-tonnes-coffee-east-asia.html

UN special session : นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวเรียกร้องการเข้าถึงวัคซีนโควิด -19

ในการประชุมพิเศษของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติในการตอบสนองต่อการระบาดของ Covid-19 ที่จัดขึ้นทางออนไลน์นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว เรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติสนับสนุน COVAX ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่ดำเนินการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนโควิด -19 ทั่วโลกอย่างเท่าเทียมกัน นี่คือการทำให้วัคซีนโควิด -19 เป็นสินค้าสาธารณะระดับโลก ทั้งนี้ได้แสดงความคิดเห็นเนื่องจากบริษัทและหน่วยงานวิจัยหลายแห่งประกาศความสำเร็จครั้งแรกในการพัฒนาวัคซีน Covid-19 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมใช้งานในอนาคตอันใกล้นี้ ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 54 ล้านคนและมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.3 ล้านคน และไม่เพียงแต่เป็นการแพร่ระบาด แต่เป็นวิกฤตสุขภาพโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อ 75 ปีก่อน แต่ยังเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมเศรษฐกิจสังคมความมั่นคงและสิทธิมนุษยชนอีกด้วย มันอาจส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว กล่าวว่ารัฐบาลได้กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างเข้มงวดซึ่งทำให้สปป.ลาวมีผู้ติดเชื้อไวรัสเพียง 39 รายและไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งรัฐบาลได้ยกเลิกข้อจำกัดบางประการเพื่อลดผลกระทบจากการระบาดใหญ่ต่อเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_UN236.php

สถานีพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังผลิต 60 เมกะวัตต์แห่งใหม่ในกัมพูชา

สถานีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ขนาด 60 เมกะวัตต์ในเขตจังหวัดโพธิสัตว์ คาดจะสามารถผลิตไฟฟ้าให้สำหรับกริดแห่งชาติได้ภายในต้นปีหน้า ลงทุนโดย Schneitec Renewable Co., Ltd. โดยสถานีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครอบคลุมบนพื้นที่กว่า 135 เฮกตาร์ ซึ่งบริษัทได้ประกาศกรอบเวลาการผลิตไฟฟ้าระหว่างการเยี่ยมชมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานที่ได้เดินทางมายังโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้อนุมัติโครงการตั้งแต่ในปี 2019 โดยโครงการโรงไฟฟ้า 2 โครงการในจังหวัดโพธิสัตว์ เป็นโครงการพลังงานน้ำจากเขื่อนขนาด 80 เมกะวัตต์ และอีกโครงการหนึ่งเป็นโครงการสถานีพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 90 เมกะวัตต์ นอกจากโพธิสัตว์แล้วกัมพูชายังมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่อื่นๆ เช่นโซลาร์ฟาร์มขนาด 10 เมกะวัตต์ในจังหวัดสวายเหรียง สถานีพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 80 เมกะวัตต์ในจังหวัดกัมปงสปือ สถานีพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 60 เมกะวัตต์ในจังหวัดกำปงชนัง และสถานีพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดเล็กขนาด 5 เมกะวัตต์ในเมืองบาเว็ต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50788965/60-mw-solar-station-in-pursat-province-set-to-generate-power/

ADB คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2021

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับแนวโน้มระยะกลางสำหรับเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะหดตัวลงร้อยละ 4 ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งแนวโน้มก่อนหน้านี้ของ ADB ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตลดลงร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอันเป็นผลมาจากการระบาดของ Covid-19 อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานทางการเกษตรที่ดีขึ้นและปริมาณการผลิตที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลางดีขึ้น โดยกล่าวในระหว่างการนำเสนอการสัมมนาทางเว็บเรื่อง “On Road Map to Recovery? Cambodia’s Economic Outlook for 2021” ซึ่งจัดโดย EuroCham ซึ่ง ADB ระบุปัจจัยขับเคลื่อนพื้นฐาน 5 ประการ ในการรักษาอัตราการเติบโต ประการแรกคือการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายการค้า การพัฒนาทักษะ การศึกษาและการผ่อนคลายสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ ตัวขับเคลื่อนที่สองคือการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ประการที่สามคือการสร้างนวัตกรรมและดิจิทัลโดยเฉพาะในอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัล ตัวขับเคลื่อนที่สี่คือการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่คุณค่าในภูมิภาคและการเข้าถึงตลาด และอันดับที่สุดท้ายคือการขยายตัวของเมืองและชนชั้นกลางที่กำลังเติบโต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50788737/adb-projects-a-rebound-in-growth-for-2021/

ฮานอยติดอันดับที่ 3 เป็นเมืองน่าดึงดูดเม็ดเงินลงทุน FDI สูงที่สุด ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้

ตามรายงานของสำนักงานสถิติประจำเมือง ระบุว่ายอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไปยังกรุงฮานอย อยู่ที่ราว 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงพฤศจิกายน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.2 ของมูลค่าการลงทุนรวม FDI ที่จดทะเบียนในเวียดนามปีนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงกรุงฮานอยอยู่ในอันดับที่ 3 เป็นจุดหมายปลายทางของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ เดือนพฤศจิกายนในปีนี้ กรุงฮานอยมีจำนวน 26 โครงการที่ได้รับการจดทะเบียนใหม่ ด้วยมูลค่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึง 26 โครงการจากนักลงทุนต่างชาติและอีก 6 โครงการเพิ่มเติม ด้วยมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ 52 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังการร่วมลงทุนหรือซื้อหุ้นกิจการในประเทศ นอกจากนี้ ตั้งแต่ต้นปีนี้ กรุงฮานอยมีจำนวนธุรกิจที่จดทะเบียนใหม่ 24,600 แห่ง คิดเป็นมูลค่า 13.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการอีก 5,774 แห่ง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/hanoi-ranks-third-in-fdi-attraction-in-11-months/191424.vnp

อุตสาหกรรมการบินของเวียดนาม จำเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว มากกว่า 3 ปี

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) ระบุว่าอุตสาหกรรมการบินของเวียดนามจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี ในการกลับมาฟื้นตัวสู่ระดับปกติ ซึ่งทางองค์การบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้จำลองสถานการณ์ 2 ลักษณะของอุตสาหกรรมการบินโลกไว้ โดยสถานการณ์แรกนั้น อุตสาหกรรมการบินจะกลับมาฟื้นตัวเป็นรูปตัววี “V” และสถานการณ์สอง จะเป็นการฟื้นตัวเป็นรูปตัวยู “U” ชี้ให้เห็นถึงอุตสาหกรรมดิ่งลงสู่ระดับต่ำที่สุด ใช้ระยะเวลา 3-5 เดือน พร้อมกับเศรษฐกิจตกต่ำ ด้วยเหตุนี้ ตลาดการบินจะปรับตัวลดลงร้อยละ 48-71 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ คุณ Pham Van Hao รองผู้อำนวยการ CAAV มองว่าอุตสาหกรรมการบินของเวียดนามมีแนวโน้มอยู่ในสถานการณ์แรก อย่างไรก็ตาม เวียดนามจะกำหนดเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศแก่รัฐบาลอีกครั้ง นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการบินของเวียดนามสูญเสียรายได้ประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-aviation-industry-needs-more-3-years-to-recover-315090.html

ปี 64 เมียนมาพร้อมเปิดตัวระบบเงินชดเชยจากการว่างงาน

กรมสวัสดิการสังคม กระทรวงแรงงานการเข้าเมืองและประชากรเผยเมียนมาจะเริ่มระบบเงินชดเชยจากการว่างงานในปีงบประมาณ 63-64 แม้ว่าสิทธิประโยชน์การว่างงานถูกกำหนดไว้แล้วภายใต้กฎหมายประกันสังคมปี 55 แต่ยังไม่มีการบังคับใช้ ซึ่งกระทรวงจะเริ่มดำเนินการโดยได้รับความช่วยเหลือจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และสหภาพยุโรป จากการประกันภัย 6 ประเภทภายใต้กฎหมายประกันสังคม พ.ศ. 55 มีการบังคับใช้เฉพาะการประกันสุขภาพและเงินชดเชยจากการบาดเจ็บในการทำงานเท่านั้น การประกันภัยประเภทอื่น ๆ อีกสี่ประเภทที่ยังคงต้องดำเนินการ ได้แก่ การประกันความช่วยเหลือครอบครัว ผลประโยชน์จากการว่างงาน การประกันความทุพพลภาพ เงินอุดหนุนและผลประโยชน์ของผู้รอดชีวิตตลอดจนความช่วยเหลือด้านประกันสังคม ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณหนึ่งล้านคนที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมและเป็นสมาชิกสวัสดิการสังคมในเขตย่างกุ้ง ตามกฎหมายเงินสมทบประกันสังคมคือ 5% – 2% จากเงินเดือนของพนักงานและเงินสมทบจากนายจ้างอีก 3% ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายประกันสังคม 60% ใช้สำหรับการดูแลสุขภาพของพนักงานส่วนที่เหลืออีก 40 % .ใช้สำหรับการลงทุน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/myanmar-introduce-unemployment-benefits-system-2021.html

การเปิดใช้ทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียงอาจล่าช้าออกไป

เจ้าหน้าที่ได้เลื่อนการเปิดใช้ทางด่วนเวียงจันทน์-วังเวียงที่มีระยะทางรวม 113.50 กิโลเมตรที่ สาเหตุของความล่าช้ามาจากงานในโครงการบางส่วนยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ผิดแผนไปจากเดิมที่จะมีการเปิดจราจรในวันชาติสปป.ลาว นายขัตติยศักดิ์ ไชยวงศ์หัวหน้าคณะกรรมการบริหารทางพิเศษกล่าวกับเวียงจันทน์ไทม์สเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “งานเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วร้อยละ 99.9 และมีแผนจะเปิดในเดือนนี้ แต่ตอนนี้กำหนดการเปิดตัวคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปีนี้” ถนนทางพิเศษดังกล่าวซึ่งมีอุโมงค์คู่ผ่านภูเขาจะทำให้เส้นทางสั้นลงจากเดิมถึง 43 กม. โครงการทางพิเศษนี้ได้รับการลงทุนจากนักลงทุนจีนซึ่งจะดำเนินการภายใต้สัญญาสัมปทาน 50 ปีโดยมีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลสปป.ลาวถือหุ้นร้อยละ 5 ในโครงการ  โครงการทางด่วนพิเศษเป็นการตอกย่ำถึงความประสงค์ของสปป.ลาวที่จะนำพาตัวเองไปสู่ประเทศที่เชื่อมต่อกับนานาประเทศ “Land lock Land link” ซึ่จะนำพาสปป.ลาวสู่ประเทศที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตจากปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Opening235.php