เทศกาลผักผลไม้เวียดนามในฮานอย

งานเทศกาลผักผลไม้เวียดนาม – ภายในงานมีผลไม้และสินค้าเกษตรอื่นๆหลากหลายด้วยกันที่มาจากฟาร์มชนบท เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ณ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีทังลอง กรุงฮานอย งานนี้เปิดตัววันที่ 30 พฤษภาคม ถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในเมืองหลวงปีนี้ โดยวัตถุประสงค์ของงานเทศกาล เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคและเพื่อสร้างโอกาสให้ตัวแทนจังหวัดและเมืองกว่า 17 แห่ง ร่วมเป็นพันธมิตรกับบิ๊กซีและเครือขายค้าปลีกอื่นๆ  ซึ่งภายในงานเน้นผลผลิตจำหน่าย ได้แก่ ลิ้นจี่ มะม่วง พลัม องุ่นและสัตว์น้ำ พร้อด้วยผักต่างๆที่ปลูกในชนบท ทั้งนี้ รองผู้อำนวยการกรมอุสาหกรรมและการค้าฮานอย กล่าวว่าในปัจจุยันผลผลิตสินค้าเกษตรอยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ดังนั้น สัปดาห์นี้จะเป็นผลดีต่อชาวเกษตรกรท้องถิ่น ในการโฆษณาและกระตุ้นยอดขายหลังจากสิ้นสุดโควิด-19 และเป็นโอกาสที่ดีต่อธุรกิจท้องถิ่น ที่จะเรียนรู้ภถึงวิธีการจัดจำหน่ายผ่านระบบซูเปอร์มาร์เก็ต

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fruit-farm-produce-week-underway-in-hanoi/174141.vnp

MOEE เดินหน้าประมูลน้ำมันและก๊าซในปีนี้

เมียนมาประมูลการสำรวจน้ำมันและก๊าซรอบใหม่ที่สำคัญในปีนี้ จะมีการเปิดบล็อกเปิดสำหรับการเสนอราคาระหว่างประเทศ นี่เป็นการประมูลระหว่างประเทศครั้งแรกภายใต้รัฐบาลของนางอองซานซูจี กระทรวงให้คำมั่นที่จะเปิด 33 บล็อกใหม่สำหรับการประมูลต่างประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว แต่มีความล่าช้าเนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องการร่างกฎหมายปิโตรเลียม หากร่างกฎหมายไม่ได้แก้ไขอาจทำให้นักลงทุนไม่สนใจที่จะลงทุน นักวิเคราะห์เตือนว่าเนื่องจากราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะอยู่ต่ำกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐ และอาจดิ่งลงไปที่ 20 ดอลลาร์สหรัฐ เมียนมาอาจจำเป็นต้องเสนอส่วนลดเพื่อดึงดูด ภาคน้ำมันและก๊าซมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาวะการคลัง ในปี 2560-2561 การขนส่งก๊าซธรรมชาติคิดเป็นมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้การส่งออกทั้งหมดของประเทศ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/moee-go-ahead-oil-and-gas-bidding-round-year.html

เงินบาทไทยแข็งค่ารั้งอันดับ 2 รองจากรูเปียห์อินโดนีเซีย

ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวที่ระดับ 31.70-32.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เกาะติดปัญหาความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน การประชุมอีซีบี ระบุเดือนพ.ค.บาทไทยแข็งค่ารั้งอันดับ 2 ในภูมิภาค  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าคาดว่าเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.70-32.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยแนวโน้มแข็งค่า เนื่องจากธนาคารกลางยุโรปจะออกมาตรการการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม  หลังจากเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิดทำให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นและมีแรงเทขายดอลลาร์สหรัฐกดดันให้ดอลลาร์ฯอ่อนค่าลง ด้านการเคลื่อนไหวของค่าเงินในภูมิภาค.พบว่า รูเปียห์-อินโดนีเซียแข็ง 1.86 % บาท-ไทยแข็งค่า 1.72% เยน-ญี่ปุ่นทรงตัว 0%  ส่วนสกุลอื่นอ่อนค่า เช่น  ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.1 % เปโซ-ฟิลิปปินส์  0.37% รูปี-อินเดีย 0.68%  ริงกิต-มาเลเซีย 0.96 % หยวน-จีน 1.07 % วอน -เกาหลีใต้1.6%  อย่างไรก็ตาม ทิศทางค่าเงินบาทผันผวนจากปัจจัยภายนอกประเทศและในประเทศ ดังนั้นผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าขาย

ที่มา: https://www.dailynews.co.th/economic/777448

พาณิชย์ เผยยอดขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทางออนไลน์โต 20% ช่วงโควิด-19 ระบาด

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระตุ้นให้การขอใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Form D) เพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.63 ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงในภูมิภาคอาเซียน ทำให้มีผู้ประกอบการขอรับบริการ e-Form D จากกรมการค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 20% จากช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.63 สำหรับ e-Form D เป็นหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียนที่ ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้ให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า e-Form D อย่างเต็มรูปแบบ (Live Operation) กับสมาชิกอาเซียน ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.63อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสดควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่กรมฯ ยังคงตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้รับบริการด้วยการเดินหน้ายกระดับการให้บริการด้วยนวัตกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง โดยการผลักดันให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ e-Form D มากขึ้น เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการนำเข้า-ส่งออก

ที่มา : https://www.ryt9.com/s/iq03/3128621

เวียดนามจับมือสหรัฐฯ ส่งเสริมการค้ารองเท้า หลังโควิด-19

วอชิงตัน (VNA) – การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ‘ส่งเสริมการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐอเมริกา รองเท้าหลังโควิด-19’ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. เพื่อเชื่อมต่อผู้ผลิตเวียดนามและผู้จัดจำหน่ายสหรัฐฯ ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม สำนักงานส่งเสริมการค้า (Vietrade) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนามในสหรัฐฯ, ผู้จัดจำหน่ายรองเท้าและผู้ค้าปลีกสหรัฐฯ (FDRA), สมาคมหนัง รองเท้า และกระเป๋าถือแห่งประเทศเวียดนาม (Lefaso) และหน่วยงานส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นต้น เพื่อกระตุ้นการส่งออกรองเท้า นับว่าเป็นการประชุมทางไกลครั้งแรกที่ทำให้ภาคการผลิตรองเท้าเวียดนามและตลาดต่างประเทศรวมตัวกัน ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว บริษัทเวียดนามได้อัพเดทถึงสถานการณ์ของตลาดรองเท้าในสหรัฐฯ และวิธีการรับมือจากไวรัสโควิด-19 ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ ยังให้คำแนะนำแก่ผู้ผลิตรองเท้าเวียดนามให้เจาะกลุ่มตลาดเฉพาะทาง และวิธีการยกระดับการแข่งขัน รวมถึงการเข้าถึงตลาดสหรัฐฯ อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-us-promote-footwear-trade-postpandemic/174044.vnp

เวียดนามปรับขึ้นราคาน้ำมันสูงอย่างต่อเนื่อง

จากคำแถลงของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากับกระทรวงการคลัง ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ราคาเบนซินอ็อกเทน 92 จำหน่ายใหม่ที่ 12,402 ด่ง (0.53 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร, เบนซินอ็อกเทน 95 ปรับขึ้นอยู่ที่ 13,125 ด่ง (0.56 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร, ดีเซล (0.05%S) และน้ำมันก๊าดอยู่ที่ 10,749 ด่งและ 8,757 ด่งต่อลิตร ปรับตัวขึ้น 892 ด่ง และ 875 ด่งต่อลิตร ตามลำดับ ทั้งนี้ สองกระทรวงข้างต้นทำการตรวจสอบราคาน้ำมันทุกๆ 15 วัน และจะปรับราคาเชื้อเพลิงตามความผันผวนในตลาดโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แสดงให้เห็นว่ามีการผ่อนคลายมาหลายประเทศ และเริ่มดำเนินการผลิตต่อ รวมถึงกิจกรรมทางธุรกิจ ส่งผลให้มีความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นและการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันและเชื้อเพลิง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/petrol-prices-continue-to-rise-in-latest-adjustment/174029.vnp

MAI พร้อมแล้วกับการขนส่งสินค้าทางอากาศ

Myanmar Airways International (MAI) ซึ่งให้บริการเที่ยวบินเส้นทางอินชอน – ย่างกุ้งตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2562 จะพัฒนาขีดความสามารถด้านการขนส่งโดยการบรรทุกสินค้าของห้องโดยสารเครื่องบินภายในประเทศหรือเส้นทางจีนบางเส้นทาง โดยบริการเที่ยวบินที่ไม่มีผู้โดยสารแต่มีเพียง cargos ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการขนส่งในอนาคต MAI เป็นกลุ่มสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมาพร้อมด้วยสายการบินน้องอย่าง KBZ ถือได้ว่าเป็นสายการบินที่มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งโดยมี 15 จุดหมายปลายทางในประเทศ ได้แก่ Heho, Bagan, Mandalay และ Nay Pyi Taw และจะเพิ่มการเข้าถึงสันทางเมียนมาจากเกาหลีอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-airways-international-continue-cargo-transportation.html

กระทรวงการลงทุนเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่แหล่งฐานข้อมูลด้านเศรษฐกิจสปปป.ลาว

กระทรวงการวางแผนและการลงทุนได้เปิดตัวเว็บไซต์เวอร์ชั่นใหม่ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่สำคัญได้ง่ายขึ้น เว็บไซต์ www.investlao.gov.la ซึ่งบริหารงานโดยกรมส่งเสริมการลงทุนของกระทรวงจะเป็นช่องทางสำหรับให้ข้อมูลที่จำเป็นและครบถ้วนแก่นักลงทุนเพื่อเริ่มธุรกิจในสปป.ลาว โดยข้อมูลจะเกี่ยวข้องกับสถิติที่ธุรกิ ดัชนีชี้วัดด้านเศรษฐกิจและยังรวมถึงข้อมูลด้านการลงทุนเฉพาะเจาะจงในแต่ละจังหวัดไม่เพียงแค่เป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูลแต่ยังเป็นเว็บไซต์สำหรับการลงทะเบียนเพื่อขออนุญาตประกอบกิจการหรือการลงทุนในเว็บเดียวซึ่งแตกต่างจากอดีตที่การขอใบอนุญาตมีหลายขั้นตอนและต้องแยกดำเนินการทำให้ ภาคธุรกิจค่อนข้างลำบากในการเริ่มธุรกิจแต่ละครั้ง ดังนั้นการพัฒนาระบบเว็บไซต์ดังกล่าวจะช่วยปรับปรุงบรรยากาศทางธุรกิจช่วยส่งเสริมให้มีการลงทุนและดำเนินการธุรกิจที่มากขึ้นจะนำมาซึ่งการขยายของเศรษฐกิจสปป.ลาว

ที่มา: http://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Investment_102.php

ธนาคาร ACLEDA ในกัมพูชารายงานกำไรสุทธิประจำปี

ธนาคาร ACLEDA ซึ่งถือเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา มีกำไรสุทธิเกือบ 120 ล้านดอลลาร์ในปี 2562 เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับปี 2561 ตามรายงานประจำปีของทางธนาคาร โดยรายงานดังกล่าวระบุว่ารายได้รวมของธนาคารอยู่ที่ 550 ล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้วและกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 153 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีอยู่ที่ 120 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสินทรัพย์รวมของธนาคารอยู่ที่ 6.17 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2562 เทียบกับ 5.68 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2561 ซึ่งมีสินเชื่อรวมมูลค่า 3.84 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2562 เพิ่มขึ้นประมาณ 7% จาก 3.59 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2561 เงินฝากเพิ่มขึ้น 13% เป็น 4.36 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 13.09% จาก 852.84 ล้านดอลลาร์ เป็น 964.46 ล้านดอลลาร์ โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ร้อยละ 1.24 และธนาคารมีสำนักงาน 316 แห่งทั่วประเทศกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50727935/acleda-bank-posts-120m-annual-net-profit/

กระทรวงฯเรียกร้องให้มีการปรับปรุงเครือข่ายโทรศัพท์

กระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคม (MPTC) ได้เรียกผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหมดเพื่อปรับปรุงสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ในกัมพูชาเนื่องจากมีปริมาณผู้ใช้ที่เติบโตเป็นอย่างมาก โดย MPTC ระบุว่ามีสัญญาณเซลลูลาร์มีอาการ ขาดๆ หายๆ ในบางพื้นที่และได้มอบหมายให้ Telecommunication Regulator ของกัมพูชา (TRC) ทำการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ซึ่งกระทรวงยังกระตุ้นให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นและเสาสัญญาณเพิ่มเติมที่จำเป็นในการปรับปรุงสัญญาณภายในประเทศ โดยตั้งข้อสังเกตว่าความต้องการใช้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโรงเรียนการเรียนรู้ออนไลน์ในช่วงการระบาดของ Covid-19 ซึ่งจากข้อมูลของ TRC ในปี 2562 มีซิมการ์ดลงทะเบียนในกัมพูชาจำนวน 21.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50727793/calls-for-cellular-improvement/