อสังหาฯชะลอฉุดตลาดลิฟท์ ‘ฮิตาชิ’หันรุกซีแอลเอ็มวี

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (กัมพูชา) จำกัด ผู้ผลิตและให้บริการลิฟต์และบันไดเลื่อนฮิตาชิ กล่าวว่า ปีนี้ตลาดลิฟต์ในประเทศไทยทรงตัว เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่ไม่ลงทุนโครงการตึกสูง ทำให้ภาพรวมตลาดลิฟท์ทุกยี่ห้อ มีความต้องการลดลง จากปัจจุบันมีดีมานด์ปีละ7,000-8,000 ยูนิต ขณะที่ตลาดลิฟต์ในกลุ่ม CLMV เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องเพราะเป็นตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะช่วง 5 ปีที่ผ่านมา GDP ของประเทศกัมพูชาโต 6-7% เนื่องจากนักลงทุนรายใหญ่จากจีนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอสังหาฯ ส่งผลให้ความต้องการใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อนเติบโตต่อเนื่องปีละ 10% จากดีมานด์ที่มีอยู่ 1,500 ยูนิต  กลยุทธ์การทำตลาดจะเน้นการหาลูกค้า ที่เป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ของกัมพูชา และจะใช้วิธีการมัดจำก่อนล่วงหน้า 60% ที่เหลือ 40% ลูกค้าต้องชำระหลังจากติดตั้งเสร็จเพื่อลดความเสี่ยง สำหรับตลาดลิฟต์ในกัมพูชา แบ่งออก 2 ตลาด ตลาดอินเตอร์แบรนด์จาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ถือว่าเป็นสินค้าคุณภาพ ราคาสูง ส่วนตลาดโลคัล ส่วนใหญ่สินค้าผลิตมาจากจีน มีราคาต่ำกว่า 20-50%  เนื่องจากตลาดลิฟต์ในกัมพูชาเป็นตลาดเปิดยังไม่มีกฎหมายหรือข้อกำหนดมาตรฐาน ควบคุมการซื้อ ขายติดตั้ง ลิฟต์ และบันไดเลื่อน ดังนั้นการนำเข้าจากประเทศต่างๆ สามารถนำเข้ามาขายได้อย่างเสรี รวมถึงสามารถสั่งซื้อตรงได้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน และเวียดนาม ซึ่งมีราคาถูกมาก

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/850176

เวียดนามดำเนินขอรับใบอนุญาตส่งออกอะโวคาโดไปยังสหรัฐฯ

จากข้อมูลของสำนักงานการค้าเวียดนาม สาขาซานฟรานซิสโก (สหรัฐอเมริกา) เปิดเผยว่าอะโวคาโดส่วนมากที่จำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้น ดังนั้น ผู้จัดจำหน่ายต้องควบคุมขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่ายสินค้า ในขณะที่ ผู้ส่งออกต้องมีใบรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ สำหรับการจะเข้าตลาดสหรัฐฯ ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดขั้นต่ำตามข้อบังคับว่าด้วยการกำหนดระดับความสุก, สี, น้ำหนัก, สะอาด และปราศจากแมลง เป็นต้น ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กมักจะประสบปัญหาในการเข้าถึงตลาดดังกล่าวอย่างมาก เป็นผลมาจากขาดประสบการณ์ในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ สำหรับสินค้าทางการเกษตร เช่น มะม่วง เวียดนามจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินรับใบอนุญาต 10 ปี ถึงจะสามารถส่งออกมะม่วงไปยังสหรัฐฯได้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/536540/viet-nam-trying-to-get-us-export-licence-for-avocados.html#GO48zrRXQqiBzJqc.97

เวียดนามเผยปริมาณการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น แต่ยอดมูลค่ากลับลดลง

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562  เวียดนามส่งออกข้าวกว่า 5.2 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 2.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 แต่มูลค่ากลับลดลงร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งประเทศฟิลิปปินส์เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีการบริโภคข้าวเกือบ 1.76 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 720 ล้าน ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ ราคาข้าวเฉลี่ยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 13.8 คิดเป็นราคาอยู่ที่ 435 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และทางหน่วยงานเกษตรกรรมฟิลิปปินส์มีการเสนอให้ใช้ภาษีนำเข้าข้าวในการปกป้องผู้ประกอบการในประเทศ โดยมีอัตราภาษีนำเข้าข้าวอยู่ที่ร้อยละ 30-65 ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกข้าวเวียดนามในอนาคตข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ตลาดญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะนำเข้าข้าวในกลุ่มประเทศสมาชิก CPTPP เช่น เวียดนาม นอกจากนี้ เวียดนามเล็งเห็นโอกาสในการขยายตลาดไปยังแอฟริกาและตะวันออกกลางอีกด้วย

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/536522/rice-export-volume-up-but-value-falls.html#m6XyQo0ATOuAqIYj.97

เครื่องบิน ATR ลำใหม่ของ MNA

สายการบินประจำชาติแห่งเมียนมา (MNA) ได้รับเครื่องบินซีรี่ส์ใหม่ ATR 72-600 จาก บริษัท ATR ของฝรั่งเศส MNA จำนวน 10 ลำ ประกอบด้วย ATR 72-600 series และเครื่องบิน ATR 72-500 Series โดยเครื่องบินใหม่จะถูกเพิ่มในเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศ เครื่องบินดังกล่าวบินมาจากตูลูสประเทศฝรั่งเศสและใช้เวลาสามคืนในสนามบินกรีซ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินเดียก่อนบินไปย่างกุ้ง โดยสายการบินได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อเครื่องบิน ATR 72-600 series จำนวน 6 ลำจาก ได้เปิดศูนย์ซ่อมบำรุงที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้งซึ่งได้รับการยอมรับจากสำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งยุโรป (EASA) ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารวมถึงการตรวจสอบ 8 ปีมีมูลค่าสูงกว่า 700,000 เหรียญสหรัฐสำหรับเครื่องบิน ATR รุ่นปี 2007 และมากกว่า 400,000 เหรียญสหรัฐสำหรับรุ่นปี 2010 ของสิงคโปร์ การบำรุงรักษาของมาเลเซียจะมีราคาสูงกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐสำหรับเครื่องบิน ATR รุ่นปี 2012 ส่วนของเมียนมาจะอยู่ที่ 100,000 เหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/mna-receives-new-atr-plane

ผู้ผลิตรถยนต์ในเมียนมากำลังเจอความท้าทาย

ผู้ผลิตรถยนต์ในเมียนมาได้เพิ่มการผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น บริษัท ซูซูกิเมียนมาร์มอเตอร์ จำกัด ผลิตรถยนต์ 15,000 คันเมื่อเทียบกับ 12,000 คันในปี 61 หรือเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบเป็นรายปีและเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวาในปีนี้โดยมีออเดอร์การผลิต 60% ของความต้องการในประเทศ ที่ผ่านมา Suzuki Myanmar เปิดโรงงานในเมือง South Dagon ของย่างกุ้งในปี 56 และย้ายโรงงานไปที่เขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา เพื่อรองรับปริมาณการผลิตที่สูงขึ้น แต่คำเตือนของฟิทช์โซลูชั่นส์ระบุว่าการเติบโตอาจเจออุปสรรค เช่น ระบบธนาคารที่ด้อยพัฒนา การเข้าถึงเครดิตของผู้บริโภคและเส้นทางคมนาคมที่ล้าหลัง จากการคาดการณ์เมียนมามีรถ 26.5 คันต่อประชากร 1,000 คนในปี 62 ซึ่งต่ำกว่าไทยที่ 290 คันต่อประชากร 1,000 คน ในปี 61 ยอดขายรถยนต์ใหม่ 18,000 คัน ซึ่งมากกว่า 2.1 เท่าของปีที่แล้ว ภายในปี 63 มีการประเมินว่าจะมีรถใหม่มากกว่า 2 ล้านคัน โตโยต้ามอเตอร์คอร์ปอเรชั่น (โตโยต้า) ได้ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกขึ้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา ซึ่งจะผลิต Toyota Hilux ตั้งแต่เดือนก.พ. 64 เป็นต้นไป โรงงานแห่งใหม่มูลค่า 53 ล้านเหรียญสหรัฐใช้ประกอบรถ Hilux ได้ 2,500 คัน โดยใช้วิธี Semi Knocked Down (SKD)

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/car-makers-local-production-despite-challenges.html

สปป.ลาวพยายามหาวิธีหนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

หน่วยงานภาครัฐและเอกชนจะร่วมมือกันเพื่อจัดการกับปัญหาที่ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลในการสนับสนุนการขยายตัวของภาคบริการเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติสปป.ลาว จัดประชุมพิเศษซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นเวทีเปิดสำหรับทั้งภาครัฐและเอกชนในการหารือเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวตลอดจนหาแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว จัดการกับอุปสรรคและหาวิธีใหม่ ๆ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้ในภาคบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อีกทั้งจำนวนนักเดินทางทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในทศวรรษหน้าเนื่องจากภูมิภาคอาเซียนเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตนี้ ดังนั้นแผนงานการพัฒนาการท่องเที่ยวของสปป.ลาวจะกลับมาสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ระหว่างการประชุมมีการนำเสนอสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์และการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างชาญฉลาดและนักธุรกิจท้องถิ่นได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการท่องเที่ยวในสปป.ลาว

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/laos-seeks-ways-bolster-tourism-industry-105757

BCEL,EV Lao เป็นพันธมิตรในการผลิตสมาร์ทการ์ดเพื่อชำระค่าใช้จ่ายการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ธนาคารการค้าต่างประเทศลาว และ บริษัท อีวีลาว จำกัด เป็นพันธมิตรในการผลิตสมาร์ทการ์ดเพื่อชำระค่าใช้จ่ายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทการ์ดที่เสนอสำหรับการชำระค่าใช้จ่ายในการชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะเชื่อมโยงระบบสมาร์ทการ์ดของ BCEL และระบบ EVBox ของ EV Lao นอกจากนี้กำลังร่วมมือกันในโครงการนำร่องที่จะเห็นการติดตั้งสถานีชาร์จ 20 แห่งสำหรับยานพาหนะไฟฟ้าในเวียงจันทน์  โครงการยังวางแผนที่จะติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 100 คันในเวียงจันทน์และตามถนนสายหลักทั่วประเทศ ความร่วมมือครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าในสปป.ลาวและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของรัฐบาลเพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลให้น้อยที่สุด

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/bcel-ev-lao-produce-smart-card-electric-vehicle-charging-payments-105755

ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีการลงทุนในคลังสินค้าและโรงงานในกัมพูชา

ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์กำลังเรียกร้องให้มีการลงทุนในภาคบริการของกัมพูชาทั้งการให้บริการคลังสินค้าและการเช่าโรงงานเนื่องจากความต้องการสูง แต่ขาดตลาด โดย Sear Rithy ประธานกลุ่ม WorldBridge และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงกล่าวในงานแสดงภาคอสังหาริมทรัพย์ครั้งที่ 5 ที่จัดขึ้นโดย realestate.com.kh เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่านักลงทุนจำนวนมากต่างพากันหลั่งไหลเข้าสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น โดยแนะให้นักลงทุนเห็นถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจโรงแรม คาสิโน โรงงานและคลังสินค้า ที่มีความน่าสนใจให้สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ภาคการขนส่ง และตอบรับต่อความต้องการที่จะเกิดขึ้นภายในประเทศ ทั้งภาคการผลิตของจีนที่มีการย้ายฐานการผลิตมายังกัมพูชาที่มีความต้องการโรงงานและคลังสินค้าในการผลิตและจัดเก็บสินค้า โดยมองว่าคลังสินค้าหรือโรงงานที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งรัฐบาลมีส่วนร่วมในการขอให้นักลงทุนสร้างโรงงานในแถบชานเมืองที่มีราคาที่ดินยังไม่สูงมาก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648875/experts-urge-investment-in-warehouses-and-factories/

บิ๊กซีจากประเทศไทยเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกในกัมพูชา

บิ๊กซีห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่จากประเทศไทยเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกในกัมพูชาในจังหวัดปอยเปต โดยได้ลงทุนไปกว่า 6.8 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำด้วยสินค้าที่หลากหลายราคาไม่แพง ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีในกัมพูชา คาดว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้จะช่วยสร้างงานกว่า 1,200 ตำแหน่ง และนำความก้าวหน้ามาสู่กัมพูชา โดยจังหวัดปอยเปตมีประชากรกว่า 200,000 คนระหว่างชายแดนไทยกัมพูชาและเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้จังหวัดกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งจากไทย จีน และจากประเทศอื่นๆอย่างมาก โดยเมืองนี้มีโครงการที่จะสร้างคาสิโนในโรงแรม ศูนย์การค้า และการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับการร่วมมือจากทางภาครัฐและภาคเอกชนกำลังร่วมกันเพื่อสร้างสนามบินพาณิชย์แห่งแรกในปอยเปตอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50648873/thailands-big-c-opens-first-supermarket-in-cambodia/

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการคิดกลไกในการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำ

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมกำลังทำงานร่วมกับสหพันธ์กรรมกรสปป.ลาวและผู้แทนภาคแรงงานในการร่างข้อเสนอแนะสำหรับการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ การกำหนดและการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มรายได้และปรับปรุงสวัสดิการของคนงานในระดับขั้นที่ต่ำที่สุด และยังลดความไม่เท่าเทียมกันและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางสังคม ระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการไตรภาคีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้เข้าร่วมประชุมหารือกันถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มขึ้นในค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำเป็นประเด็นสำคัญ การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของคนงานและบรรเทาความยากลำบาก ท่ามกลางค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นทุกเดือนและทุกปี อีกทั้งค่าแรงขั้นต่ำในสปป.ลาวต่ำกว่าที่จ่ายให้แรงงานในเมียนมา กัมพูชาและไทย มีการสำรวจทั่วประเทศเพื่อพิจารณาว่าค่าแรงขั้นต่ำที่มีอยู่เพียงพอสำหรับค่าครองชีพและพบว่าไม่ตรงกับสถานการณ์ปัจจุบัน โรงงานและบริษัทหลายแห่งมีตำแหน่งงานว่าง แต่มีคนเพียงไม่กี่คนที่สนใจทำงานเพื่อรับค่าแรงต่ำ ผลักดันให้คนจำนวนมากข้ามพรมแดนไปหางานทำในประเทศไทยที่ค่าแรงสูงขึ้น  ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมัติการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แต่ไม่สามารถป้องกันการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/labour-ministry-mulls-mechanisms-setting-minimum-wage-105664