เวียดนามเผยส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้ และประมง พุ่งสูงขึ้น 2.7% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 62

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ป่าไม้ และประมงของเวียดนามอยู่ที่ 30.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจากต่างประเทศกว่า 23.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปัจจัยที่ทำให้เวียดนามส่งออกเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากได้รับแรงหนุนของผลิตภัณฑ์ป่าไม้ และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ส่งออกที่มีมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ทำมาจากไม้ และไม้แปรรูป กาแฟ ข้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผักผลไม้ และกุ้ง เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/agroforestryfishery-exports-up-27-percent-in-nine-months-403952.vov

กัมพูชาต้องมีนวัตกรรมมากขึ้นเพื่อสร้างความปลอดภัยจากการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด

เนื่องจากมูลค่าการชำระเงินแบบไร้เงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 9.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ตามข้อมูลจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) โดยเชื่อว่าสามรถผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆจนทำให้กัมพูชากลายเป็นสังคมไร้เงินสดได้ แต่ผู้ประกอบการมองว่าหากไม่มีการช่วยเหลือจากรัฐบาลนวัตกรรมเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นและไม่ทันต่อการเติบโตของการเปลี่ยนแปลงภายในกัมพูชา ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว VISA ประกาศแผนการรักษาความปลอดภัยของพวกเขา สำหรับกัมพูชาได้วางรากฐานสำหรับชุดความก้าวหน้าทางโลกไซเบอร์ซึ่งมีแนวโน้มของข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและมีการดำเนินการป้องกันเพิ่มเติมสำหรับผู้ค้าและผู้บริโภค ซึ่งการรักษาความปลอดภัยของระบบนิเวศการค้าถือเป็นสิ่งที่สำคัญและมองว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างเครือข่ายการชำระเงินทั้ง ผู้บริโภค ภาคธนาคาร และภาครัฐ โดยหากอนาคตมีการใช้จ่ายแบบสังคมไร้เงินสดมากขึ้นแล้วจะสามารถสร้างความยืดหยุ่นระหว่างผู้ค้าและผู้บริโภคได้มากขึ้น รวมไปถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคชาวกัมพูชามากขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50647100/more-innovation-needed-to-protect-cashless-payments/

ธนาคารชาติแห่งกัมพูชาเรียกร้องนโยบายการเงินสีเขียว

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) ยังคงเรียกร้องให้สถาบันการเงินในกัมพูชาวางนโยบายเพื่อส่งเสริมด้านการเงินและการลงทุนที่เป็นมิตร โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศของสวิส (BIS) ได้เปิดตัวกองทุนเปิดสำหรับธนาคารกลางที่ลงทุนในพันธบัตรสีเขียว ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่เน้นลงทุนในโครงการที่สนับสนุนการลดสภาวะโลกร้อน โดย NBC ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการที่ปรึกษา BIS ได้แสดงจุดยืนการสนับสนุนสำหรับความคิดริเริ่มนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนถูกมองว่าเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่อาจจะสร้างความไม่แน่นอนสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางสังคม ซึ่ง NBC สนับสนุนให้กับสถาบันทางการเงินทุกแห่งที่ร่วมมืออย่างจริงจังเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมการเงินสีเขียว โดย ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมสมาคมธนาคารในประเทศกัมพูชาได้ลงนามสองฉบับเพื่อบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับ “ ความร่วมมือทางการเงินที่ยั่งยืน” เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือทางการเงินที่ยั่งยืนในภาคการธนาคาร

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/national-bank-cambodia-calls-green-finance-policies-105291

กระทรวงการวางแผนและการลงทุน หน่วยงานตรวจสอบของรัฐผลักดันความร่วมมือแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในสปป.ลาว

กระทรวงการวางแผนและการลงทุนและหน่วยงานตรวจสอบของรัฐกำลังดำเนินการเพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือที่ดีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายในการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาล ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามใน MOU ในเดือนมิ.ย.ที่จะทำงานร่วมกันและแบ่งปันข้อมูล ซึ่งการเจรจาครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือการจัดการการวางแผนและการลงทุนของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับงบประมาณของรัฐการบริหารจัดการทรัพย์สินของรัฐและการระดมทุนจากนักลงทุนเอกชนเพื่อการพัฒนาและการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ การทำงานร่วมกันนี้จะช่วยปรับปรุงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการพัฒนาในพื้นที่ชนบทและลดระดับความยากจน และผู้ช่วยรัฐมนตรีเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ ทำงานร่วมกันเพื่อดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงและจัดทำเอกสารที่จำเป็นสำหรับแผนพัฒนา

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/planning-state-inspection-teamwork-targets-socio-economic-development-plans-laos-105281

ธนาคารต่างๆให้การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการลงทุนในแม่น้ำโขง – ล้านช้าง

ธนาคารพาณิชย์ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการลงทุนในภูมิภาคแม่น้ำโขง – ล้านช้างเพื่อให้เกิดโครงการเส้นทางสายไหม ผู้จัดการทั่วไปของธนาคาร ICBC สาขาเวียงจันทน์ กล่าวว่าโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งธนาคารได้ร่วมมือกับธนาคารอื่นๆ เพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนในภูมิภาคแม่น้ำโขง รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินสำหรับภาคพลังงานในสปป.ลาว อีกทั้งผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจของกระทรวงการต่างประเทศสปป.ลาวกล่าวว่าสปป.ลาวให้ความสำคัญกับความร่วมมือในแม่น้ำโขง-ล้านช้างและโครงการเส้นทางสายไหม กลุ่มอื่น ๆ รถไฟสปป.ลาว – ​​จีนและทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างกำลังดำเนินการภายใต้โครงการเส้นทางสายไหม เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ จะช่วยประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงให้บรรลุตามแผนแม่บทการเชื่อมต่อของอาเซียนในปี 68 ในฐานะที่เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลการปรับปรุงการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะเชื่อมโยงทางบกและบูรณาการกับภูมิภาคได้ดีขึ้น ตัวแทนจากสถานทูตจีนประจำประเทศ สปป.ลาวกล่าวว่าผู้นำของสปป.ลาวและจีนเห็นด้วยที่จะเดินหน้าต่อไปด้วยการตระหนักถึงความมุ่งมั่นของโครงการเส้นทางสายไหม รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือในภาคการเงิน

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/banks-commit-financial-support-investment-mekong-lancang-105282

ค้าชายแดนลดลง 1,240 ล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์ชี้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 61-62 มูลค่าการค้าชายแดนทั้งหมดอยู่ที่ 6,866 ล้านเหรียญสหรัฐลดลง 1,240 ล้านเหรียญสหรัฐแบ่งเป็นด่านมูเซ มูลค่า 6057.786 ล้านเหรียญสหรัฐ ด่านลแวแจ 224.692 ล้านเหรียญสหรัฐ ด่านชินฉ่วยโอ 441. และด่าน Kanpiketi 142.943 ล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค 61 ถึง 20 ก.ย. 62 มูลค่าการค้าที่ด่านมูเซ 4668.146 ล้านเหรียญสหรัฐ ด่านลแวแจ 143.582 ล้านเหรียญสหรัฐ ด่านชินฉ่วยโอ 518.383 ล้านเหรียญสหรัฐ และด่าน Kanpiketi 292.735 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ด่านมูเซ 105 ไมล์และด่านชินฉ่วยโอ มีมูลค่าประมาณหกล้านเหรียญสหรัฐก่อนเหตุการณ์ปะทะกันของกลุ่มชาติพันธ์ การซื้อขายลดลงเหลือประมาณ 700,000 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 19 ส.ค.จาก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งส่งผลกระทบต่อการนำเข้าและส่งออก ก่อนการปะทะกันด่านชินชเวามีมูลค่า 1.2 – 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงประมาณ 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐในวันที่ 15 ส.ค.และ 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐในวันที่ 16 – ต่อมาวันที่ 17 ส.ค.การค้าชายแดนได้หยุดทำการค้าลงชั่วคราว

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/border-trade-declines-by-over-1240-m-usd

ถนนสี่เลนไปติละวาจะแล้วเสร็จในธันวาคมนี้

เพื่อความปลอดภัยในการขนส่งถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา การก่อสร้างถนนสี่เลนจากย่างกุ้งที่เชื่อมโยงจากสะพานตันลยินไปยังติละวาจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมจากสำนักงาน JICA ของเมียนมา และกำลังก่อสร้างสะพานตันลยินหมายเลข 3 (ข้ามแม่น้ำบาโก) การก่อสร้างได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากรัฐบาลญี่ปุ่น เมื่อถนนสี่เลนและสะพานเสร็จสมบูรณ์การเดินทางจากย่างกุ้งไปยังติละวาจะใช้เวลาสั้นลง ต้นทุนในการก่อสร้างคาดว่าจะสูงกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐจากเงินกู้ของญี่ปุ่นซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ช่วง บริษัทก่อสร้างของญี่ปุ่นจะรับผิดชอบในการสร้างสะพานในภาคต่าง ๆ สะพานหมายตันลยินหมายเลข 3 จะสร้างขึ้นเป็นระยะ 125 เมตรจากสะพานตันลยินหมายเลข 1 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน สะพานใหม่แห่งนี้คาดว่าจะมีความยาว 1,928 เมตร เป็นการออกแบบสายเคเบิลเหล็กที่เชื่อมต่อย่างกุ้ง เมืองธาเกตาและตันลยิน

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/construction-of-four-lane-road-to-thilawa-will-complete-in-december

รอบเอเชีย: กัมพูชา

กระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาได้เปิดตัวระบบออนไลน์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของใบรับรองในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ระบบ e-certificate มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างคุณภาพการให้บริการโดยการต่อสู้กับใบรับรอง “ปลอม” ที่ใช้ในการโกงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนกัมพูชา โดย Khmer Times ได้รายงานว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับการฝึกอบรมจากกระทรวงการท่องเที่ยวจังหวัดหรือโรงเรียนฝึกอบรมที่ลงทะเบียนจะได้รับใบรับรองพร้อมรหัส QR

ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยวเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในสปป.ลาว: ADB

รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากขึ้นจนถึงสิ้นปีนี้ด้วยสิ่งจูงใจมากมายแคมเปญการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการขายและการอัปเดตนโยบาย การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการคาดการณ์ล่าสุดของ ADB  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 62 และ 63 ของประเทศยังคงอยู่ในระดับปานกลาง ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารสาธารณะของ ADB สปป.ลาว กล่าวว่าการท่องเที่ยวถือเป็นปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจการเจริญเติบโต องค์ประกอบสำคัญหลายอย่างจำเป็นสำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุน การรณรงค์การท่องเที่ยวและการควบคุมค่าธรรมเนียมแรกเข้าที่สถานที่ท่องเที่ยว สปป.ลาวมีศักยภาพสำหรับการท่องเที่ยวทางธรรมชาติวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ แต่เพื่อใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้รัฐบาลจำเป็นต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานส่งเสริมการท่องเที่ยวและจัดการค่าธรรมเนียมการเข้าชมเว็บไซต์ท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม สิ่งสำคัญที่สุดคือรัฐบาลต้องการแคมเปญการตลาดผ่านสื่อที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ที่มา : http://annx.asianews.network/content/infrastructure-development-tourism-key-economic-growth-laos-adb-105204

การประชุมเชิงปฏิบัติการในสปป.ลาวจัดการกับห่วงโซ่คุณค่าโลก บริการ และการเปิดเสรี ทางเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่ของรัฐจากหลายองค์กรเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการการเสริมสร้างศักยภาพในห่วงโซ่คุณค่าการผลิตทั่วโลก บริการและการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจในประเทศพัฒนาน้อยที่สุดในอาเซียน การรวมตัวทางเศรษฐกิจ สปป.ลาวกับระบบระดับภูมิภาคและระดับโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้รัฐบาลมีโอกาสใหม่ ๆ รวมถึงเทคนิคและเทคโนโลยีที่ดีกว่าที่จำเป็นสำหรับการพัฒนา หัวข้อสำหรับการอภิปรายและแลกเปลี่ยนความรู้ รวมถึงความสำคัญของการค้าบริการเพื่อการพัฒนา LDC, แนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ในโลกาภิวัตน์, ห่วงโซ่คุณค่าการผลิตทั่วโลกและการค้าบริการในอาเซียนและเอเชียตะวันออก, การเปิดเสรีบริการและห่วงโซ่คุณค่าการผลิตทั่วโลก การเจริญเติบโตการพัฒนาทุนมนุษย์ เทคโนโลยีและอุตสาหกรรม 4.0 ผู้เข้าร่วมยังได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนา SMEs และการเติบโตของการท่องเที่ยวบริการด้านการเกษตร การขนส่ง นโยบายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การพัฒนาภาคบริการโลกาภิวัตน์และเขตการค้าเสรี ซึ่งศาสตราจารย์จากประเทศออสเตรเลียเป็นผู้นำเข้าร่วมกับกรณีศึกษาการอภิปรายกลุ่มแบบทดสอบและการนำเสนอกลุ่ม

ที่มา : http://annx.asianews.network/content/workshop-laos-tackles-global-value-chains-services-economic-liberalisation-105283