บังคลาเทศและเมียนมาลงนามสัญญาซื้อขายข้าว G2G ครั้งที่ 4

สัญญาข้าวระหว่างรัฐบาลครั้งที่ 4 ระหว่างบังกลาเทศและเมียนมาได้ลงนามในเดือนธันวาคม 2567 โดยเรือลำแรกที่บรรทุกข้าว Aemahta คุณภาพดีของเมียนมาจำนวน 22,000 เมตริกตัน (ข้าวหัก 5 เปอร์เซ็นต์) ได้เดินทางมาถึงท่าเรือบังกลาเทศและเริ่มขนถ่ายข้าวออกไป ตามรายงานของสหพันธ์ข้าวเมียนมา บังกลาเทศและเมียนมาได้ร่วมมือกันในภาคส่วนข้าวตั้งแต่ปี 2560 สัญญาแรกคือ 100,000 เมตริกตันในปี 2560 สัญญาที่สองคือ 100,000 เมตริกตันเริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน 2564 สัญญาที่สามคือ 200,000 เมตริกตันในปีงบประมาณ 2565-2566 และนี่คือสัญญาที่สี่คือ 100,000 เมตริกตันและจะแล้วเสร็จระหว่างเ ดือนมกราคม ถึงกุมภาพันธ์ 2568 ข้าวบนเรือ MV Golden Star จากท่าเรือย่างกุ้งมาถึงท่าเรือเมื่อเวลา 22.12 น. ของวันพฤหัสบดี และจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือหมายเลข 9 ของ GCB ในเช้าวันศุกร์ (17 มกราคม) Seven Seas Shipping Lines ซึ่งเป็นตัวแทนจัดส่งของเรือ MV Golden Star ยืนยันการมาถึงดังกล่าวตามมาตรฐานธุรกิจที่โพสต์ในบังกลาเทศเมื่อวันจันทร์ ฝั่งเมียนมา ซึ่งการส่งออกดำเนินการโดยบริษัทส่งออก 35 แห่งซึ่งนำโดยสหพันธ์ข้าวเมียนมา สำหรับฝั่งบังคลาเทศ การซื้อและการจัดจำหน่ายดำเนินการโดยกรมอาหาร

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/bangladesh-myanmar-ink-fourth-g-to-g-rice-contract/

ไทย-เมียนมา ร่วมมือกันปราบปรามแก๊งฉ้อโกงออนไลน์

ประเทศไทย และเมียนมาได้ตกลงที่จะร่วมมือกันในการปราบปรามกลุ่มฉ้อโกงออนไลน์ โดย ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของสหภาพเมียนมา พลเอกเมียร์ ตุน อู และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัลและกิจการสังคมของไทยได้พบกันเมื่อวันที่ 16 มกราคม ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีดิจิทัลอาเซียน พลเอกเมียนมากล่าวว่าการฉ้อโกงออนไลน์กำลังเพิ่มขึ้นในประเทศอาเซียน รวมถึงเมียนมา และเรียกร้องให้มีการร่วมมือกันมากขึ้นในการปราบปรามการหลอกลวงออนไลน์ นอกจากนี้ เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่าการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจะต้องขึ้นอยู่กับความปลอดภัย นวัตกรรม และการรวมเอาทุกฝ่ายเข้าไว้ด้วยกัน และเน้นย้ำถึงการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความไว้วางใจในหมู่ผู้ใช้บริการดิจิทัล และมุ่งเน้นไปที่โปรแกรมการรู้หนังสือทางดิจิทัลเพื่อให้ผู้คนและธุรกิจต่างๆ สามารถใช้บริการดิจิทัลได้อย่างมีความหมายเพื่อให้บรรลุถึงการเชื่อมต่อทางดิจิทัลที่ครอบคลุม

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/thailand-and-myanmar-agree-to-cooperate-to-combat-online-fraud-gangs/

‘เวียดนาม’ ส่งออกข้าวไปยังสิงคโปร์ พุ่ง 25.45%

เวียดนามยังคงเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ในตลาดสิงคโปร์ ด้วยมูลค่าการส่งออก 128.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 28.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 และคิดเป็นสัดส่วน 28.25% ของตลาดข้าวสิงคโปร์ ทั้งนี้ อินเดียและไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุด ทำรายได้จากการส่งออกราว 148.19 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (32.48%) และ 137.75 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (30.19%) ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาผู้ส่งออกรายใหญ่ 3 ราย รวมกัน คิดเป็นสัดส่วน 90.93% ของตลาดข้าวในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากนี้ จากการประเมินชนิดของข้าวเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าข้าวเวียดนามหลายชนิดมีการเติบโตอย่างโดดเด่น ได้แก่ ข้าวเหนียว (14.25 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.6 เท่า) ข้าวหัก (2.6 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 113.63%) และข้าวกล้อง (44.89 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 65.73%) อย่างไรก็ดี ข้าวขาว เป็นกลุ่มข้าวหลักของเวียดนามในตลาดสิงคโปร์ แต่มีการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 0.24% คิดเป็นมูลค่า 64.67 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnams-rice-exports-to-singapore-post-strong-growth-post143582.html

‘ผลสำรวจ’ ชี้บริษัทญี่ปุ่น 56% เล็งขยายการลงทุนในเวียดนาม

องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น เปิดเผยผลการสำรวจในประเด็นที่เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นในต่างประเทศ พบว่าอุปสงค์ในประเทศและอัตรากำไรที่มีการขยายตัวดีขึ้น เป็นแรงผลักดันให้บริษัทญี่ปุ่นยังคงขยายการดำเนินธุรกิจในเวียดนามต่อไป โดยผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ 56.1% ต้องการขยายธุรกิจและขยายการลงทุนในเวียดนาม อีก 1-2 ปีข้างหน้า ถือว่าเป็นอัตราสูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน และ 64.1% มองว่าในปั 2567 จะทำกำไรได้ ซึ่งเป็นครั้งแรกจากการสำรวจในรอบ 5 ปีที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ตอบเกินกว่า 60% ขึ้นไป

นอกจากนี้ เมื่อประเมินถึงแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตจากญี่ปุ่นและจีนไปยังเวียดนาม เห็นได้ว่ามีทิศทางเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยตั้งแต่ปี 2562 บริษัทญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นที่จะขยายกำลังการผลิตไปยังอาเซียน และเวียดนามถือเป็นจุดหมายสำคัญของธุรกิจ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/over-56-of-japanese-firms-looking-to-expand-investment-in-vietnam-survey-post308754.vnp

สปป.ลาว ได้รับรางวัล ASEAN Tourism Standard Awards 19 รางวัล

ภาคการท่องเที่ยวใน สปป.ลาว ได้รับรางวัลมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน 19 รางวัลในงาน ASEAN Tourism Forum ที่ประเทศมาเลเซีย โดยรางวัลนี้ได้รับการยกย่องในด้านความเป็นเลิศด้านโฮมสเตย์ การท่องเที่ยวชุมชน บริการสปา และมาตรฐานห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งสถานที่ที่ได้รับรางวัลเด่น ได้แก่ บ้านนาด้วง บ้านดอนโข และสปาของโรงแรมอมันตากา อย่างไรก็ดี รางวัลเหล่านี้ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชน โดย สปป.ลาว จะได้รับรางวัลเพิ่มเติมอีก 10 รางวัลในเดือนกุมภาพันธ์ 2025

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_015_Laobusinesses_y25.php

นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าฯ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว

นายกรัฐมนตรี สอนไซ สีพันดอน เดินทางเยือนญี่ปุ่นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง สปป.ลาว และญี่ปุ่น เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูต โดยเขาได้เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท มกุฎราชกุมารอากิชิโนะและหารือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างเวียงจันทน์และโตเกียว นายกฯ ขอบคุณญี่ปุ่นสำหรับความช่วยเหลือด้านการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (ODA) และเน้นความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และโครงสร้างพื้นฐาน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_015_PM_y25.php

จังหวัดเซกอง เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาลดอัตราการลาออกจากโรงเรียนที่เพิ่มขึ้น

จังหวัดเซกอง กำลังแก้ไขปัญหาอัตราการลาออกจากโรงเรียนที่เพิ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นการปฏิรูปการศึกษาและบังคับใช้กฎหมายให้เด็กอยู่ในระบบการศึกษา โครงการนี้รวมถึงการสร้างความตระหนักในชุมชน การพัฒนาสาธารณูปโภค และการสนับสนุนด้านการเงินสำหรับนักเรียนยากจน โดยปัจจุบันมีเพียง 35% ของโรงเรียนที่ให้บริการอาหารกลางวัน ซึ่งทางจังหวัดวางแผนที่จะขยายโครงการนี้ โดยให้ความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายการศึกษาที่สำคัญ 15 ประการ และลดอัตราการลาออกจากโรงเรียน

ที่มา : https://laotiantimes.com/2025/01/21/xekong-province-takes-action-to-combat-growing-school-dropout-rates/

กระทรวงพลังงานฯ ประเมินโครงการลงทุนและเสริมมาตรการบริหารจัดการสำหรับปี 2025

กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของ สปป.ลาว ได้ประเมินความก้าวหน้าและปัญหาในโครงการเหมืองแร่ปี 2024 พร้อมทั้งหารือแผนงานสำหรับปี 2025 โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพการลงทุนและประสิทธิภาพการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม การประชุมยังหารือถึงความท้าทาย เช่น แรงกดดันทางเศรษฐกิจ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และความล่าช้าของโครงการ เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปี 2040 และยุทธศาสตร์พัฒนาแร่ธาตุปี 2030 อีกทั้ง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_014_Mines_y25.php

ประธานาธิบดี เสนอแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส่งเสริมการพัฒนาชุมชน จังหวัดสาละวัน

ประธานาธิบดีทองลุน สีสุลิด เดินทางเยือนจังหวัดสาละวัน เพื่อเรียกร้องให้ผู้นำแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พัฒนาการศึกษา และปรับปรุงวิธีการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิต อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีได้ชื่นชมความก้าวหน้าในโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของจังหวัด พร้อมเน้นการแก้ปัญหาเด็กออกจากระบบการศึกษากลางคัน ยกระดับการดูแลสุขภาพ และส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ-สังคม อีกทั้งยังได้เยี่ยมชมโรงสีข้าวสมัยใหม่ พร้อมเน้นการอนุรักษ์ป่า การต่อต้านยาเสพติด และการพัฒนาในจังหวัดอื่นๆ อีกด้วย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_013_President_y25.php

LBC นำนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวอินทรีย์

บริษัท Lao Brewery Company (LBC) ได้ใช้เทคโนโลยีโดรนในโครงการเกษตรกรรมข้าวแบบยั่งยืน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวอินทรีย์ โดยมีเป้าหมายเพิ่มผลผลิต ลดแรงงาน และส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน โดยโครงการนี้ครอบคลุมพื้นที่ 340 เฮกตาร์ สนับสนุนครอบครัวเกษตรกรกว่า 200 ครอบครัว และวางแผนขยายพื้นที่ถึง 1,000 เฮกตาร์ภายในปี 2025 อีกทั้ง ข้าวจากโครงการยังถูกนำไปใช้ในการผลิตเบียร์ สปป.ลาว อีกด้วย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_013_LBC_y25.php