การลงทุนในกัมพูชาโตกว่า 327%

กัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนกว่า 128 โครงการ ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 327 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 2.51 พันล้านดอลลาร์ โดยการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างพิธีเปิดงาน “งานแสดงสินค้าระหว่างประเทศกัมพูชา 2024” (Cambodia International Trade Fair 2024) ซึ่งจัดขึ้นโดยมีสมเด็จพระนางเจ้า Norodom Janna และ Cham Nimul รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (MoC) พร้อมด้วยนักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติ 2,500 คน จาก 16 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงาน ด้าน Vongsey Vissoth รองนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของงานแสดงสินค้านี้ ว่าเป็นเวทีให้นักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ สร้างเครือข่าย และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์ทางการค้า ซึ่งทางการกัมพูชาหวังว่างานแสดงสินค้านี้จะดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ เทคโนโลยี และความรู้ทางธุรกิจเข้าสู่กัมพูชา รวมถึงสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501487854/cambodia-sees-327-rise-in-investments/

‘ชาวเวียดนาม’ โดนโกงออนไลน์ สูญเงินกว่า 12.24 ล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารของเวียดนาม (MIC) รายงานว่าคดีฉ้อโกงออนไลน์ มีจำนวนทั้งสิ้น 17,500 คดี โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวเวียดนาม มีมูลค่าการสูญเสียเงินจากการฉ้อโกงมากกว่า 300 พันล้านด่อง หรือประมาณ 12.24 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ จากการประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการป้องกันการฉ้อโกงและการรับมือกับอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ พบว่าการฉ้อโกงทางไซเบอร์มีความซับซ้อนในเมื่อไม่นาน ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อองค์กรและบุคคลทั่วไป จึงจำเป็นที่จะต้องหาแนวทาการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาชญากรทางไซเบอร์ได้เปลี่ยนวิธีการและยุทธวิธีอย่างต่อเนื่อง หันมาใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการโจมดี แทรกซึมและฉ้อโกงในวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของสังคม และสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1655485/vietnamese-users-report-losses-of-more-than-12-24-million-due-to-online-fraud.html

‘เวียดนาม’ ยอดขายคอนโดเทล ไตรมาส 1 ต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ตามรายงานของ DKRA Group บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าโครงการคอนโดเทล 90% ไม่มียอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้ ในขณะที่คอนโดเทลที่เปิดขายอยู่มีจำนวน 4,800 ยูนิต แต่มีเพียง 64 ยูนิตที่ขายได้ คิดเป็นสัดส่วน 1.3% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด ถึงแม้ว่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเสนอโปรโมชั่น แต่ก็ไม่สามารถที่จะดึงดูดลูกค้าได้ สาเหตุสำคัญมาจากราคาขายสูง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านด่อง (6,000 เหรียญสหรัฐ) ต่อตารางเมตร

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ ไม่แน่ใจว่าจะลดราคา เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในโครงการระดับไฮเอนที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าฐานะร่ำรวย และเมื่อคาดการณ์จะพบว่าตลาดคอนโดเทลอาจต้องใช้ระยะเวลา 5-7 ปี ในการฟื้นตัว ทั้งจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและรายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1655491/condotel-sales-at-their-lowest-level-in-six-years-in-q1.html

รัฐบาล สปป.ลาว จัดให้คำปรึกษาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยคาร์บอนเครดิต

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (MoNRE) สปป.ลาว สถาบันการเติบโตสีเขียวระดับโลก (GGGI) และรัฐบาลออสเตรเลีย จัดการหารือร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายเกี่ยวกับร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยคาร์บอนเครดิตในประเทศลาว งานนี้เป็นการรวมตัวของผู้แทนพันธมิตรด้านการพัฒนา องค์กรพัฒนาเอกชน และหน่วยงานภาคเอกชนที่มีความสนใจในประโยชน์ของคาร์บอนเครดิตและตลาด เพื่อสนับสนุน สปป. ลาว ในการกำหนดการมีส่วนร่วมที่กำหนดในระดับชาติและความทะเยอทะยานด้านสภาพภูมิอากาศโลก รัฐบาล สปป.ลาว ได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 เพื่อเตรียมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยคาร์บอนเครดิต ตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรีในการควบคุมการจัดการและการค้าในลาว GGGI ให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคแก่รัฐบาล สปป.ลาว ภายใต้โครงการสำหรับตลาดคาร์บอนแบบเปิดและยั่งยืน ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลีย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_90_Government_y24.php

อัตราอ้างอิงการขายส่งน้ำมันปาล์มของ YGN ทรงตัวเป็นเวลาสามสัปดาห์ติดต่อกัน

ตามการระบุของคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายน้ำมันบริโภค  ระบุว่าอัตราอ้างอิงราคาขายส่งน้ำมันปาล์มสำหรับตลาดย่างกุ้งในสัปดาห์นี้ ตั้งไว้ที่ 5,220 จ๊าดต่อviss มีผลตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงสองสัปดาห์ก่อนหน้า โดยที่อัตราอ้างอิงยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมาติดต่อกัน ด้านคณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าและจำหน่ายน้ำมันบริโภคภายใต้กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามราคา FOB ในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด โดยเพิ่มค่าขนส่ง ภาษี และบริการทางธนาคาร เพื่อกำหนดอัตราอ้างอิงตลาดค้าส่งสำหรับน้ำมันบริโภคเป็นรายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาน้ำมันปาล์มในตลาดจะสูงกว่าราคาอ้างอิง กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ยังคงควบคุมเรื่องของการขายสินค้าเกินราคาในตลาดเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้ กระทรวงกำลังทำงานร่วมกับสมาคมผู้ค้าน้ำมันเมียนมา และบริษัทนำเข้าน้ำมันปรุงอาหาร เพื่อเพิ่มช่องทางการซื้อน้ำมันปาล์มนำเข้าในราคาที่ไม่แพงให้กับผู้บริโภคด้วย

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/ygn-palm-oil-wholesale-reference-rate-flat-for-three-straight-weeks/#article-title

การส่งออกของกัมพูชาเพิ่มขึ้น 15% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี

มูลค่าการส่งออกของกัมพูชาในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 8 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นการขยายตัวถึงร้อยละ 15.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของกัมพูชา รองลงมาคือเวียดนามและจีน โดยยอดการค้าระหว่างกัมพูชาและคู่ค้าทางการค้าทั้งหมด อยู่ที่ 16.67 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จากการมีอยู่ของความตกลงการค้าเสรีระหว่างกัมพูชา-จีน และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ช่วยส่งเสริมการเติบโตด้านการส่งออกของกัมพูชา อีกทั้งกัมพูชาได้ลงนามความตกลงการค้าเสรีกับจีน เกาหลีใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งคาดว่าช่วยส่งเสริมการส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ด้านนายกรัฐมนตรีกัมพูชาตั้งเป้าหมายที่จะเปลี่ยนกัมพูชาให้เป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบ พร้อมทั้งมีความสามารถในการผลิตสินค้าสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูป เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างรายได้ให้กับภาคประชาชนต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501487228/cambodias-exports-rise-15-in-four-months/

บริษัทจีนสนใจเข้าลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตน้ำสะอาดในกัมพูชา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (MISTI) Hem Vanndy ได้หารือกับตัวแทนจากบริษัท Hainan Litree Purifying Technology Co., Ltd. ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับความสนใจของบริษัทที่จะขยายการลงทุนในภาคการประปาสะอาดของกัมพูชา โดย Hainan Litree Purifying Technology ถือเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเมมเบรน ซึ่งบริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์บำบัดน้ำที่มีชื่อเสียงภายใต้แบรนด์ Litree โดยใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในระบบประปาของเมือง ในการนำน้ำเสียกลับมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม และเครื่องกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เมมเบรน UF ของ Litree ถูกนำไปใช้ในหลายจังหวัดและเมืองของกัมพูชา ช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำดื่มได้กว่า 11,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดย Hainan Litree วางแผนที่จะลงทุนราว 50-100 ล้านดอลลาร์ ในอุตสาหกรรมการผลิตน้ำประปาในกัมพูชาภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ด้านรัฐมนตรี Vanndy ยินดีที่บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายการลงทุนในระบบประปาของกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ที่ขาดแคลนระบบประปาของรัฐหรือเอกชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501487224/investment-boost-for-kingdoms-clean-water-sector/

ส่องตลาด ‘Data Center’ ในเวียดนาม ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

จากรายงานการตลาดของบริษัทวิจัย JLL ได้จัดทำข้อมูลภาพรวมของตลาดศูนย์ข้อมูล (Data Center) เปิดเผยว่าตลาดศูนย์ข้อมูลของเวียดนามในปัจุบัน ถูกครอบงำโดยธุรกิจโทรคมนาคมของท้องถิ่น ได้แก่ VNPT, Viettel IDC, FPT Telecom และ CMC Telecom จากการเติบโตอย่างมากทั้งในด้านการให้บริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างชาติและผู้ดำเนินการในต่างประเทศ เล็งเข้าสู่ตลาดแห่งนี้ ซึ่งรวมถึงโครงการต่างๆ เช่น โรงงาน ขนาด 20MW ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม Saigon Hi-Tech Park  ตามมาด้วยโรงงาน ขนาด 30MW ของสิงคโปร์ และโครงการจากความร่วมมือของบริษัทเอ็นทีที (NTT) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะบริษัทอาลีบาบาที่ได้ประกาศว่าจะสร้างศูนย์ข้อมูลในเวียดนาม แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของตลาดนี้ว่ามีความต้องการมากขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1655440/viet-nam-s-data-centre-sector-is-attractive-to-foreign-investors.html

ประธานาธิบดี สปป.ลาว-รัสเซีย จัดการเจรจาความสัมพันธ์ทวิภาคี

ประธานาธิบดีทองลุน แห่ง สปป.ลาว พร้อมคณะทำงาน ตอบรับคำเชิญของประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย โดยได้เดินทางเยือนรัสเซียในวันที่ 8-10 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้นำ สปป.ลาว ได้เข้าร่วมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะที่จัดขึ้นในกรุงมอสโก โดยประธานาธิบดีปูติน ได้กล่าวยกย่องผู้นำ สปป.ลาว ว่า “ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบท่านในกรุงมอสโก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องในโอกาสวันแห่งชัยชนะ ซึ่งเป็นชัยชนะของชาวโซเวียตในมหาสงครามแห่งมิตรภาพระหว่างสองประเทศ”

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_89_Lao_Russian_y24.php

‘เวียดนาม’ เผยภาคธุรกิจและประชาชน หวังให้มีการขยายเวลาลด VAT

จากการยื่นมติเรื่องการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 10% เหลือ 8% ตามมติที่ 110/2023/QH15 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2567 เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนแก่ภาคธุรกิจและกระตุ้นการบริโภคในประเทศ รวมถึงผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ภาคธุรกิจและประชาชน หวังว่าจะได้รับข้อเสนอและพิจารณาจากการมติของรัฐสภาในการขยายเวลาลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม

ทั้งนี้ จากการสอบถามประชาชนที่อยู่ในเมืองฮานอย กล่าวว่าตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน การลดภาษีมูลค่าเพิ่มลงเหลือ 8% ช่วยประหยัดการใช้จ่ายซื้อสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต

นอกจากนี้ ดร. Lê Đăng Doanh นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่าการขยายเวลาลดภาษีมูลค่าเพิ่ม จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและยังช่วยกระตุ้นการบริโภค สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างมาก นอกเหนือจากการลงทุนและการส่งออกแล้ว การบริโภคในประเทศยังเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1655414/businesses-and-people-expect-vat-cut-extension-to-be-approved.html