รับมือโรคระบาดดี เศรษฐกิจเติบโตสุดในอาเซียน ความสำเร็จของเวียดนามท่ามกลางวิกฤติโควิด-19

ในขณะที่หลายประเทศในกลุ่มอาเซียนประสบกับภาวะถดถอยกันทั่วหน้า อันเนื่องมาจากการระบาดของโรคร้ายโควิด-19 และบางประเทศถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาทางการเมืองภายใน แต่เวียดนามกลับกลายเป็นประเทศที่โดดเด่นที่สุดในสถานการณ์โลกและภูมิภาคนี้เผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ รายงานเศรษฐกิจประจำปี 2021 ของธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย ซึ่งออกมาเมื่อวันที่ 28 เมษายน เปิดเผยว่า แม้ว่าเศรษฐกิจของหลายประเทศจะอยู่ในภาวะติดลบ แต่เวียดนามกลับมีความเติบโตทางเศรษฐกิจถึง 2.9% เมื่อปี 2020 และคาดการณ์ว่าในปีนี้เศรษฐกิจของเวียดนามจะเติบโตมากถึง 6.7 เปอร์เซ็นต์ จัดได้ว่าสูงที่สุดในกลุ่มอาเซียน รองลงมาได้แก่สิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของทั้งคู่จะอยู่ที่ 6% เท่ากัน

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2083880?utm_source=PANORAMA_TOPIC

เวียดนามเผยราคาวัสดุก่อสร้างฟื้นตัว

ราคาวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็ก อิฐและทราบ กลับมาฟื้นตัวหลังได้รับผลกระทบของโควิด-19 ที่มีผลต่อกำไรของผู้รับเหมา ทางด้านคุณ Cao Van Hong ผู้รับเหมารายหนึ่งกล่าวกับหนังสือพิมพ์ Thanh Nien ว่าราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ รองศาสตราจารย์ Ngo Tri Long อดีตอธิการบดีของกระทวงการคลังและศูนย์วิจัยการตลาด กล่าวว่าราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นราว 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ ทรายก่อสร้าง เริ่มหายากในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งซัพพลายเออร์ที่สำคัญของประเทศ ผู้ซื้อมีความต้องการอย่างมากและจะจ่ายเงินมากกว่าราคาที่เสนอไว้ในตอนแรก ทั้งนี้ ประธานสมาคมผู้รับเหมาก่อสร้างเวียดนาม กล่าวว่าผู้รับเหมาหลายรายลงนามสัญญาแบบราคาคงที่ ทำให้ได้รับผลกระทบเมื่อต้นทุนสูงขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/construction-material-prices-recover/200947.vnp

Q1 กัมพูชาส่งออกเสื้อผ้ามูลค่ารวม 2.4 พันล้านดอลลาร์

การส่งออกผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าของกัมพูชาหดตัวในไตรมาสแรก เป็นผลมาจากโรงงานหลายร้อยแห่งยังคงหยุดดำเนินการเป็นการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเขตพื้นที่จังหวัดพนมเปญและจังหวัดกันดาล โดยการส่งออกเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าด้านการเดินทางของกัมพูชามีมูลค่าการส่งออกรวม 2.4 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกของปี 2021 ซึ่งลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามตัวเลขของกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน โดยรัฐบาลคาดว่าห่วงโซ่การผลิตจะกลับมาเป็นปกติเมื่อสถานการณ์ โควิด-19 ดีขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันจำเป็นต้องปฏิบัติตามแนวทางมาตรการด้านสุขภาพของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50850644/q1-garment-exports-valued-at-2-4-billion/

เวียงจันทน์เข้าสู่การปิดกั้นหลังจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวประกาศปิดนครหลวงเวียงจันทน์เป็นเวลา 14 วันเนื่องจากหลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 20 รายในวันนี้ (20 เมษายน 64) คาดการณ์ว่ามีจุดเริ่มต้นในช่วงวันหยุดปีใหม่ของสปป.ลาวขณะ โดยรายละเอียดในประกาศเป็นมาตรการที่เข้มงวดสูงสุดเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อาทิ การให้พนักงานรัฐทำงานที่บ้าน ห้ามเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปยังจังหวัดอื่นและจากจังหวัดอื่นเข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์ยกเว้นผู้ที่อาศัยอยู่ถาวร ห้ามพ่อค้าและเจ้าของร้านค้ากักตุนสินค้า การชุมนุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมและศาสนาต้องมีคนไม่เกิน 20 คน จุดตรวจและจุดผ่านแดนระหว่างประเทศและแบบดั้งเดิมทั้งหมดจะยังคงปิดอย่างเข้มงวดในอีก 14 วัน มาตรการดังกล่าวทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องชะงักอีกครั้ง ภายหลังจากคลี่คลายจาการระบาดระบาดแรก

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/04/21/vientiane-enters-lockdown-following-covid-19-outbreak/

ประธานาธิบดีเรียกร้องให้นานาประเทศเสริมสร้างเอกภาพเพื่อรับมือกับความท้าทาย

ประธานาธิบดีสปป.ลาว Thongloun Sisoulith ได้เรียกร้องให้ประเทศที่เป็นมิตรในภูมิภาคและทั่วโลกเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงการเสริมสร้างธรรมาภิบาลระดับโลกและสร้างอนาคตที่ดีในทางเศรษฐกิจเละสังคมให้กับโลกในงานประชุม Boao Forum for Asia Annual Conference 2021 การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่น รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้นำในภูมิภาคเอเชียหารือเกี่ยวกับแผนการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด -19และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว งานประชุมนี้มีความสำคัญต่อสปป.ลาวอย่างยิ่งจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำระดับภูมิภาค นักวิจัยและผู้กำหนดนโยบายอื่น ๆ เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาคและเพิ่มความร่วมมือในประเด็นต่างๆ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการก้าวผ่านวิกฤตของโลกในปีนี้และอนาคตที่ยังไม่แน่นอนเกี่ยวกรระบาดของโควิด-19

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_President_75.php

ครึ่งปีแรกการค้าทางทะเลเมียนมา ลดฮวบ 4.3 พันล้านดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์เผยมูลค่าการค้าทางทะเลของเมียนมาในช่วงครึ่งปีแรก (1 ต.ค. -2 เม.ย. ) ของปีงบประมาณ 63-64 เหลือ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐลดลงอย่างมากถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันมูลค่าการค้าชายแดนอยู่ที่ 5.6 พันล้านดอลลาร์ลดลง 264 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นผลจากการระบาดของ COVID-19 ที่ประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มความเข้มงวดมาตรการป้องกันตลอดชายแดน สำหรับการค้าทางทะเลหยุดชะงักในภาคโลจิสติกส์การหยุดเดินเรือบางส่วนและการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์รวมถึงการขาดเงินหมุนเวียนเนื่องจากการปิดธนาคารเอกชน โดยการค้าภายโดยรวมของประเทศแตะระดับต่ำที่ 15.78 พันล้านดอลลาร์งลดลง 20.36 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งการค้าทางทะเลสร้างรายได้ 26,000 ล้านดอลลาร์จากมูลค่าการค้าโดยรวมที่ 36,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงปีงบประมาณ 62-63 เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร สินค้าประมง แร่ธาตุ ปศุสัตว์ สินค้าจากป่า สินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในขณะเดียวกันก็นำเข้าได้แก่สินค้าทุน สินค้าอุปโภคบริโภค และวัตถุดิบทางอุตสาหกรรม

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/maritime-trade-drops-by-4-3-bln-in-h1/

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ คาด GDP เวียดนามโต 6.3% ปี 64

สถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์และนโยบายเวียดนาม (VEPR) เผยตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัว หลังได้รับผลกระทบในเชิงลบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 6-6.3% ในปีนี้ โดยเป้าหมายดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสามารถบรรลุได้ เนื่องจากเวียดนามรับมือกับการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มผ่อนคลายในหลายๆ ประเทศ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 4.48% สาเหตุหลักมาจากการที่รัฐบาลควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เศรษฐกิจอยู่ในระดับเสถียรภาพ ในขณะเดียวกัน แนวโน้มทางเศรษฐกิจดีขึ้น จากข้อตกลงการค้าเสรีและความตกลงคุ้มครองการลงทุน ระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีมุมมองเชิงบวก แต่เวียดนามยังเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง อาทิ สภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน การกลับมาระบาดของเชื้อไวรัส รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/economic-institute-forecasts-63-gdp-for-vietnam-in-2021-851682.vov

กัมพูชาคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงกว่าร้อยละ 70 ในปีนี้

กัมพูชาคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวทั่วโลกที่จะเดินทางมายังกัมพูชาในปี 2021 จะลดลงอีกไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากผลกระทบอย่างต่อเนื่องของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงดำเนินอยู่ในปัจจุบัน โดยกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชาระบุในรายงานประจำปี 2021 เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาจะชะลอตัวลงจากผลกระทบของโควิด-19 ที่กินระยะเวลามาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชาคาดว่าจะหดตัวอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ครั้งก่อนประมาณร้อยละ 60 สู่การหดตัวมาอยู่ที่ร้อยละ 70 หลังจากมีการปรับปรุงข้อมูล ซึ่งแถลงการณ์ระบุว่าประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกรวมเหลือเพียง 1.31 ล้านคน ในปี 2020 ลดลงกว่าร้อยละ 80 จากจำนวน 6.61 ล้านคน ในปี 2019

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50841600/cambodia-predicts-70-percent-drop-in-global-tourist-arrivals/

ภาคอสังหาริมทรัพย์กัมพูชามีแนวโน้มดีขึ้น แม้อยู่ในสถานการณ์ของโควิด-19

สถานการณ์ด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศกัมพูชาดูสดใสขึ้น แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงในบางภาคส่วนของอุตสาหกรรมมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง จากความต้องการภายในประเทศ โดยนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่าหากกัมพูชาต้องการที่จะสร้างความได้เปรียบเพื่อยกระดับภาคอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศ จำเป็นต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพ รวมถึงมีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นสูงไปในทุกพื้นที่ทั่วกัมพูชา เช่น การพัฒนาถนนและเส้นทางทางด่วนที่เชื่อมต่อจุดสำคัญที่น่าสนใจ นอกจากนี้การพัฒนาอย่างรวดเร็วของวงแหวนรอบที่สามรอบกรุงพนมเปญ ถือว่าเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่สำคัญของการพัฒนาที่เกิดขึ้น สะท้อนจากราคาที่ดินในเขตพื้นที่ที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะเป็นที่สนใจของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แสดงให้เห็นว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของกัมพูชายังคงมีโอกาสเติบโตได้ในระยะถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50841583/real-estate-investments-looking-up/

ยอดตั้งบริษัทใหม่พุ่ง13% คนมั่นใจเศรษฐกิจฟื้น

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า สถิติการจดทะเบียนนิติบุคคลเดือนก.พ.2564 มีจำนวน 7,265 ราย เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.2564 ลดลง 0.3% เทียบกับก.พ.2563 เพิ่มขึ้น 13% มีทุนจดทะเบียน 19,717.90 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจปลูกข้าวเจ้า ซึ่งเป็นธุรกิจที่ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 หลังจากที่ไม่เคยติดอันดับมาก่อนหน้านี้ เป็นเพราะการสนับสนุนให้วิสาหกิจชุมชนหันมาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ  ส่วนยอดรวมบริษัทตั้งใหม่ 2 เดือนปี 2563 (ม.ค.-ก.พ.) มีจำนวน 14,548 ราย เพิ่มขึ้น 9% มีทุนจดทะเบียน 50,648.04 ล้านบาท นอกจากนี้ “การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่สูงเกิน 7,000 ราย 2 เดือนติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการทำธุรกิจ เพราะคนมั่นใจเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น มั่นใจในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเริ่มมีการฉีดวัคซีน และยังมาตรสนับสนุนของรัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอี รวมทั้งจะมีการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยว ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวฟื้นตัว”นายทศพลกล่าว

ที่มา : https://www.thansettakij.com/content/Macro_econ/474012