Taskforce สั่งให้ดำเนินการที่เข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิดที่ทวีความรุนแรงขึ้น

หน่วยงานแห่งชาติด้านการป้องกันและควบคุมโควิด -19 ได้แจ้งให้หน่วยงานในเต่ละแขวงเร่งดำเนินการเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เวียงจันทน์และกว่า17 แขวงทั่วประเทศได้กำหนดให้มีการปิดล็อกและมาตรการรับมือกับสถานการณ์การแพรระบาดของโควิด-19 ที่เลวร้ายขึ้น จากตัวเลขผู้ติดเชื่อสะสมที่672 ราย ณ วันที่ 29 เมษายน โดยเพิ่มขึ้นล่าสุดที่วันละ 68 ราย ซึ่งถือเป็นการระบาดระลอกที่รุนแรงที่สุดของสปป.ลาว เป็นเรื่องน่ากังวลหากรัฐบาลสปป.ลาวไม่สามารถควบคุมจะทำให้สปป.ลาวเข้าสู่วิกฤตทางเศรษฐกิจและระบบสาธารณสุขจองประเทศ จึงเป็นสิ่งที่หน่วยงานแห่งชาติด้านการป้องกันและควบคุมโควิด -19 เน้นย้ำถึงมาตรกรป้องที่เข้มกับหน่วยงานทั่วประเทศและขอความร่วมมือทุกส่วนในการสนับสนุนกันและกัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Taskforce82.php

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) มองเศรษฐกิจลาวสามารถเติบโตท่ามกลางวิกฤตโควิด -19

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) มองเศรษฐกิจลาวสามารถเติบโตท่ามกลางวิกฤตโควิด -19 และมาตรการปิดกั้นที่ส่งต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตามรายงงานแนวโน้มการพัฒนาเอเชียจัดทำโดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ในรายงานคาดว่าสปป.ลาวจะเติบโตได้ที่ร้อย 4.0 ในปี 2564 และร้อยละ 4.5 ในปี 2565 ADB ให้เหตุว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป.ลาวได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของภาคการเกษตรโดยเฉพาะปศุสัตว์ การเติบโตของอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงหนุนจากการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เหมืองแร่และทรัพย์สินในเมืองคาดว่าในปี 2564 และ 2565 จะสร้างงานและกำลังซื้อของครัวเรือนจะสูงขึ้นภาคบริการในปีนี้จะได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวหลังจากโครงการทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียงแล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการบริการในประเทศอย่างไรก็ตามสปป.ลาวยังมคามท้าทายด้านสถานะการคลังที่ย่ำแย่สิ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้การเติบโตไม่เป็นไปตามกรอบที่วางไว้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_ADB81.php

EDL-Generation Plc (EDL-Gen ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่สปป.ลาว กำลังมองหาพันธมิตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ

บริษัทใหญ่ EDL-Generation Plc (EDL-Gen) ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของสปป.ลาว กำลังมองหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรวม 25% เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2,435 เมกะวัตต์ภายในปี 2572 จาก 1,949 เมกะวัตต์ในปัจจุบัน EDL-Generation Plc (EDL-Gen) มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายของรัฐบาลสปป.ลาวในการเป็น “แบตเตอรี่แห่งเอเชีย” ผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำซึ่งสามารถผลิตได้มากถึง 30,000 เมกะวัตต์ทั่วประเทศอีกทั้งบริษัท กำลังส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ มาเลเซียและสิงคโปร์ซึ่งเป็นตลาดใหม่ของสปป.ลาวผ่านโครงการ “Asean Power Grid” EDL-Gen ไม่เพียงแค่สริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในอาเซียน แต่ยังมุ่งมันที่จะพัฒนาพลังงานควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมที่ดีอีกด้วยตามแนวทางของรัฐบาลที่วางไว้

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/2106631/lao-power-generation-firm-seeking-partners-to-boost-capacity

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง ส่งผลต่อเศรษฐกิจ CLMV ได้รับอานิสงส์แตกต่างกัน

โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกต่อพัฒนาการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2564 ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งหลังวิกฤติโควิดอันสะท้อนผ่านประมาณการเศรษฐกิจของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 2564 เป็น 6.0% จากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 5.5% นำโดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจขนาดใหญ่โดยเฉพาะสหรัฐฯ และจีน ซึ่งน่าจะส่งผลบวกต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอินโดจีน (CLMV) ที่มีการพึ่งพิงภาคต่างประเทศสูง อย่างไรก็ดี ภาพการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่สดใสอาจส่งผลบวกต่อพัฒนาการของเศรษฐกิจอินโดจีน (CLMV) ในระดับที่แตกต่างกัน ตามความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ การส่งออก รายได้ส่งกลับของแรงงานในต่างประเทศ การลงทุนทางตรง (FDI) และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ปัจจัยเฉพาะในประเทศก็มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน ทำให้เศรษฐกิจ CLMV ในภาพรวมจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ไม่เท่ากัน

เวียดนามเป็นเศรษฐกิจใน CLMV ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จากโครงสร้างการผลิตและส่งออกที่มีสัดส่วนของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สูง นอกจากภาคการส่งออกแล้ว การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามยังได้รับอานิสงส์จากรายได้นำส่งกลับของแรงงาน ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 5.8 ของจีดีพี เนื่องจากแรงงานเวียดนามที่ส่วนใหญ่กระจายอยู่ในไต้หวัน เกาหลีใต้และญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระดับสูง ขณะที่กัมพูชาอาจเป็นอีกเศรษฐกิจที่ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเช่นกันเนื่องจากการส่งออกของกัมพูชามีตลาดหลักอยู่ในสหรัฐฯ จีน และยุโรปซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ การลงทุนในกัมพูชาส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative : BRI) ซึ่งภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่งย่อมส่งผลให้โครงการดังกล่าวยังเดินหน้าต่อไป ในส่วนของเศรษฐกิจสปป.ลาว คงจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่จำกัดในส่วนของการลงทุนตรงจากจีนเป็นหลัก ขณะที่ภาคการส่งออกอาจได้รับอานิสงส์จำกัด ขณะที่เมียนมา ปัจจัยการเมืองในประเทศคงเป็นปัจจัยที่มีผลในการลดทอนผลบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก​

ที่มา : https://kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/economy/Pages/CLMV-z3213.aspx

รัฐบาลสั่งให้เตรียมการสำหรับสถานการณ์โควิด-19 ที่เลวร้ายลง

รัฐบาลสปป.ลาว ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนและจัดทำแผนในการรับมือกับการระบาดของโรคโควิด -19 เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมาสำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศขอให้หน่วยงานป้องกันและควบคุมโควิด -19 ทุกระดับรวบรวมรายการทรัพยากรที่จำเป็นรวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ยาและเงินเพื่อใช้เป็นทุนในการยับยั้งการระบาด โดยรัฐบาลจะมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และอาสาสมัครที่ทำงานในศูนย์บำบัดทุกแห่งเพื่อให้ผู้ป่วยทุกคนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังสั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนชายแดนเพื่อป้องกันผู้ที่เดินทางเข้าสปป.ลาวโดยผิดกฎหมายเพราะอาจนำมาซึ่งการแพร่ระบาดที่ยับยั้งไม่ได้ ในการฉีดวัคซีน รัฐบาลอนุมัติให้เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีน เพื่อนำมาฉีดให้กับพนักงานของตนได้เพื่อเป็นอีกช่องทางในการเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_orders_79.php

นายกฯ สปป.ลาว – จีนจัดการเจรจาความสัมพันธ์ทวิภาคี

สปป.ลาวและจีนฉลองครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตและมิตรภาพลาว – ​​จีนในปี พ.ศ. 2564ในโอกาศนี้นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวและจีนได้พูดคุยทางโทรศัพท์เพื่อทำงานร่วมกันในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีหกทศวรรษระหว่างสองประเทศ ทั้งสองมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมสปป.ลาว – จีน ในด้านการค้า การลงทุนและด้านสาธารณะสุขที่เป็นด้านที่สำคัญที่ทางการจีนให้การช่วยเหลือสปป.ลาวมาโดยตลอด ในการพูดคุยพวกเขายังยกย่องความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือทวิภาคีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งรวมถึงทางด่วนที่เชื่อมระหว่างเวียงจันทน์ไปยังโบเตนในแขวงหลวงน้ำทาที่ติดชายแดนจีน ทั้งหมดนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่บ่งบอกถึงความสำเร็จของจีนและสปป.ลาวในการช่วยเหลือสนับสนุนเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Lao_chinese_78.php

สปป.ลาว Lockdown เวียงจันทร์และปิดพรมแดนสกัด COVID-19 ที่เชื่อมโยงกับไทย

สปป.ลาว Lockdown เวียงจันทร์และปิดพรมแดนระหว่างประเทศในทุกด่าน หลังพบผู้ป่วยรายใหม่ 28 ราย(22.04.64) ซึ่งมีคามเชื่อมโยงมาจากไทย สร้างผลกระทบต่อด้านการค้าและกิจกรรมทางเศรษฐกิจบริเวณด้านชายแดน นายยกรัฐมนตรีได้มีลงนามมีคำสั่งประกาศให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงเวียงจันทน์ไม่ให้ออกจากเมืองและบุคคลภายนอกจะต้องได้รับอนุญาตในการเข้าไปด้านพรมแดนระหว่างประเทศถูกปิดยกเว้นรถบรรทุกที่บรรทุกสินค้าที่ยังสามารถขนส่งได้แต่อาจมีความล่าช้าจากมาตรการตรวจที่เข้มงวดอาจส่งผลกระทบต่อความล่าช้าด้านการขนส่งและคุณภาพของสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค อย่างรก็ตามรัฐบาทมุ่งมั่นที่จะจำกัดหรือหยดการแพร่เชื่อระลอกใหม่ให้ได้ตามระยะเวลาที่ประกาศ เพื่อป้องกันไม่ให้สปป.ลาวเข้าสู่วิกฤตด้านสาธารณสุขหากมีการระบาดจำนวนมาก

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/news/asia/covid-19-laos-lockdown-capital-vientiane-outbreak-tied-thailand-14672574

เวียงจันทน์เข้าสู่การปิดกั้นหลังจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาวประกาศปิดนครหลวงเวียงจันทน์เป็นเวลา 14 วันเนื่องจากหลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 20 รายในวันนี้ (20 เมษายน 64) คาดการณ์ว่ามีจุดเริ่มต้นในช่วงวันหยุดปีใหม่ของสปป.ลาวขณะ โดยรายละเอียดในประกาศเป็นมาตรการที่เข้มงวดสูงสุดเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อาทิ การให้พนักงานรัฐทำงานที่บ้าน ห้ามเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปยังจังหวัดอื่นและจากจังหวัดอื่นเข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์ยกเว้นผู้ที่อาศัยอยู่ถาวร ห้ามพ่อค้าและเจ้าของร้านค้ากักตุนสินค้า การชุมนุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมและศาสนาต้องมีคนไม่เกิน 20 คน จุดตรวจและจุดผ่านแดนระหว่างประเทศและแบบดั้งเดิมทั้งหมดจะยังคงปิดอย่างเข้มงวดในอีก 14 วัน มาตรการดังกล่าวทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องชะงักอีกครั้ง ภายหลังจากคลี่คลายจาการระบาดระบาดแรก

ที่มา : https://laotiantimes.com/2021/04/21/vientiane-enters-lockdown-following-covid-19-outbreak/