‘เวียดนาม’ ขยายเวลาลดภาษี VAT เหลือ 8% จนถึงสิ้นปี 67
เว็บไซต์ข่าว ‘Tuoi Tre’ เปิดเผยว่ารัฐบาลเวียดนามเสนอขยายเวลาภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เหลือ 8% จนถึงสิ้นปี 2567 และเน้นย้ำว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการดังกล่าวจากภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทางด้านภาษี ค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งนี้ จากการประเมิน พบว่าการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 8% จะส่งผลทำให้รายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มของภาครัฐ ลดลงเหลือ 23,488 พันล้านด่องในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และจากการขยายระยะเวลาจนถึงสิ้นปีนี้ คาดว่าจะทำให้รายได้ภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหมด ลดลงเหลือ 47,488 พันล้านด่องในปี 2567 นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายทางการเงิน การช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชน มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตไปข้างหน้า
ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/govt-proposes-extending-8-vat-until-end-2024/
‘เวียดนาม’ หวังเป็นแหล่งตลาดอีคอมเมิร์ซชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หนังสือพิมพ์ Nikkei Asian ของญี่ปุ่น รายงานว่า TikTok Vietnam ชี้ว่าจำนวนผู้ค้าและยอดขายเฉลี่ยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพิ่มขึ้น 3 เท่าในปีที่แล้ว ในขณะที่บริษัทวิเคราะห์ Metric เปืดเผยว่าแพลตฟอร์ม ByteDance ของจีน อยู่ในอันดับที่ 2 ของตลาดซื้อขายของออนไลน์ในเวียดนาม รองจากช้อปปี้ (Shopee) โดยมีผู้ค้าทำรายได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สำนักงานอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัล รายงานว่ารายได้การขายผลิตภัณฑ์จากธุรกิจค้าปลีกไปสู่ผู้บริโภค (B2C) ในรูปแบบออนไลน์ เพิ่มขึ้นมาจาก 10.8 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 ขึ้นมาอยู่ที่ 20.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ e-Conomy SEA รายงานว่าเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตของอีคอมเมิร์ซสูงที่สุด และคาดว่าจะทำรายได้และปริมาณการขายแบบ B2C สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ 5 แพลตฟอร์ม จะทำรายได้ราว 310 ล้านล้านด่องในปี 2567 ขยายตัว 35% เมื่อเทียบเป็นรายปี
‘เวียดนาม’ กลายเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลโตเร็วสุดในอาเซียน
อแมนดา เมอร์ฟี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคาร HSBC เปิดเผยว่าเวียดนามจะกลายมาเป็นตลาดชั้นนำของอุตสาหกรรมดิจิทัลทั้งธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ จากการประเมินชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามเติบโตได้อย่างโดดเด่น โดยในปี 2566 มูลค่าของเศรษฐกิจดิจิทัล มีสัดส่วน 16.5% ต่อ GDP และมีบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลมากกว่า 1,500 แห่ง ทำรายได้จากตลาดต่างประเทศ เพิ่มขึ้นมากกว่า 7% เมื่อเทียบกับปี 2565
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 60% วางแผนที่จะลงทุนในเทคโนโลยีและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่ระบบการชำระเงินดิจิทัล อีคอมเมิร์ซและปัญญาประดิษฐ์ (AI)
นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์พบว่ากลุ่มประเทศในอาเซียน มีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสูงที่สุดแห่งเดียวในโลก ในขณะเดียวกันรายได้จากอีคอมเมิร์ซ มีมูลค่าเกินกว่า 100 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว
ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-emerges-as-fastest-growing-digital-economy-in-asean-2274332.html
‘เวียดนาม’ คงรักษาอัตราเงินเฟ้อต่ำ ปี 67
จากการประชุมของรัฐบาลที่เมืองฮานอย โดยมีรองนายกรัฐมนตรี เล มินห์ ไค เป็นประธาน ทางกระทรวงการคลังกล่าวในที่ประชุมว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเวียดนาม มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.26 -0.39% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ 4.0-4.5% ในปี 2567 และยังได้กล่าวชี้ให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงดิ้นร้นฟื้นตัวและความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์โลก รวมถึงความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงานและทองคำ
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.31%YoY เดือน ม.ค. และ 1.04%YoY เดือน ก.พ. ขณะที่เดือน มี.ค. ลดลง 0.23% ทำให้ดัชนี CPI เฉลี่ยในไตรมาสแรกของปี เพิ่มขึ้น 3.77%YoY
อย่างไรก็ดี รองนายกรัฐมนตรี เล มินห์ ไค ได้สั่งให้กระทรวงและหน่วยงานของรัฐฯ ติดตามสถานการณ์ตลาดและเตรียมแนวทางแก้ไข เพื่อเข้าแทรกแซงเมื่อจำเป็นเพื่อรักษาระดับเงินเฟ้อ
ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1654489/keeping-cpi-low-key-to-inflation-control-this-year.html
‘ธนาคารโลก’ คาด GDP เวียดนามปี 67 โต 5.5%
ธนาคารโลก (WB) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 5.5% ในปีนี้ และเศรษฐกิจจะค่อยๆ ขยายตัว 6% ในปี 2568 และ 6.5% ในปี 2569 จากการหนุนของอุปสงค์ต่างประเทศและการลงทุนของภาคเอกชนที่กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น โดยเป็นการตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าการส่งออกภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวในระดับปานกลางในปีนี้ ส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4/66 ขยายตัว 8.5%YoY และเศรษฐกิจจะขยายตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ 17.2%YoY
ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจาก 3.2% ในปี 2566 ขึ้นมาอยู่ที่ 3.5% ในปีนี้ เนื่องมาจากต้นทุนทางด้านการศึกษาและค่าบริการด้านสุขภาพ
อย่างไรก็ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีความขัดแย้งทางการทหารในยูเครนและตะวันออกกลาง แต่ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์กลับจะทยอยลดลง ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดว่าจะอยู่ที่ 3% ในปี 2568 และปี 2569 โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่มีเสถียรภาพ
ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-gdp-to-grow-5-5-this-year-wb/