การผลิตภาคอุตฯ ‘เวียดนาม’ เดือน ม.ค. ดีขึ้นต่อเนื่อง

ตามรายงานของ IHS Markit ได้เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนาม ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.7 ในเดือน ม.ค.65 จากระดับ 52.5 ในเดือน ธ.ค.64 สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของเวียดนามมีทิศทางที่ดีขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.64 ทั้งในด้านของผลผลิตและยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในเดือนแรกของปีนี้ เนื่องจากความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการดำเนินธุรกิจขององค์กรต่างประเทศ ด้วยอัตราการเติบโตสูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ย.61 ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวดีขึ้น บริษัทที่ตอบรับการสำรวจส่วนใหญ่ 60% คาดว่าผลผลิตในปีนี้จะเพิ่มขึ้น ตลอดจนการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค. เหตุจากบริษัทต่างๆ ต้องการพนักงานใหม่หลังจากการระบาดโควิด-19 “สายพันธุ์เดลตา” เมื่อปี 2564

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnams-manufacturing-industry-continues-improving-in-january-post923057.vov

‘ข้าวเวียดนาม’ กระแสตอบรับดีมากในตลาดยุโรป

กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานว่าปริมาณการส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังตลาดยุโรปไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับด้านราคาและมูลค่าเงินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 64 การส่งออกข้าวไปยังตลาดยุโรป มีปริมาณ 53,910 ตัน เพิ่มขึ้น 0.8%YoY คิดเป็นมูลค่า 38.07 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.6%YoY แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากข้อตกลง “EVFTA” อย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโรค รวมถึงค่าเฟรตพุ่งสูงขึ้นมากและการนำเข้าข้าวลดลงในปีก่อน ทั้งนี้ สำนักงานสถิติสหภาพยุโรป (Eurostat) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้ว การนำเข้าข้าวของยุโรป ลดลง 10.9% ในแง่ของปริมาณ และ 9.3% ในแง่ของมูลค่า อย่างไรก็ดี สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) คาดการณ์ว่าการส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรปจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะคุณภาพข้าวของเวียดนามที่มีการพัฒนา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ข้าวหอมมะลิที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวยุโรป

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1143078/vietnamese-rice-well-received-in-europe.html

‘เวียดนาม’ แม่เหล็กดึงดูดนวัตกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การผลักดันสตาร์ทอัพของเวียดนามและสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการทำงานด้านนวัตกรรม เป็นผลมาจากความพยายามของรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติเวียดนาม (NIC)

คุณ Nguyễn Thị Ngọc Dung ตัวแทนจากศูนย์ฯ กล่าวกับสำนักข่าวเวียดนาม (VNA) ว่ากิจการในประเทศตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรม เมื่อเผชิญกับการแพร่ระบาด โดยศูนย์ดังกล่าวได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญชาวเวียดนามกว่า 1 พันคนที่อยู่ในวงการการศึกษาและวิจัยที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น “Genetica” สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ (Medtech) ในสหรัฐฯ ซึ่งมีการให้บริการส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อเดือน ต.ค.64 ธุรกิจประกาศว่าได้พัฒนาศูนย์การศึกษาการหาลำดับคู่เบสในสาย DNA ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ตั้งอยู่ในศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติเวียดนาม ด้วยกำลังการผลิต 500,000 จีโนมต่อปี

ทั้งนี้ ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ “Genetica” ชักชวนให้บริษัทหันมาเปิดสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม ประกอบกับนาย Nguyễn Chí Dũng รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนาม ได้ให้คำมั่นว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1142897/viet-nam-working-to-become-innovation-magnet-in-southeast-asia.html

สำนักงานการบิน ‘เวียดนาม’ เชื่อมั่นจะฟื้นตัวกลับมาอย่างเข็มแข็งอีกครั้งในปีนี้

สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนาม (CAAV) เปิดเผยว่าปริมาณเที่ยวบินที่ให้บริการในประเทศ รวมทั้งสิ้น 126,280 เที่ยวบินในปี 2564 หดตัว 41.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และส่วนใหญ่ราว 60% อยู่ในช่วงก่อนที่เกิดการแพร่ระบาด โดยเที่ยวบินระหว่างประเทศยกเลิกการบินเมื่อตั้งแต่การระบาดระลอกแรก ยกเว้นกรณีเที่ยวบินที่นำชาวเวียดนามที่อยู่ในต่างประเทศกลับมายังประเทศแม่ (เวียดนาม) หรือผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ

ทั้งนี้ คุณ Pham Viet Dung ประธานสมาคมธุรกิจการบินเวียดนาม (VABA) กล่าวว่าสายการบินเวียดนามมีรายได้ลดลง 80-90% อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากสายการบินเวียดนาม กล่าวว่าส่วนแบ่งการตลาดของสายการบินและรายได้จากการขนส่งยังเป็นผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีมูลค่ากว่า 8 ล้านล้านดองในปี 2564 เพิ่มขึ้น 60% จากปี 2560

ที่มา : https://en.nhandan.vn/business/item/11143502-vietnam%E2%80%99s-aviation-expected-to-strongly-rebound-this-year.html

สปป.ลาวอนุญาตให้บริษัทเอกชนศึกษาการสร้างสายส่งไฟฟ้าไปเวียดนาม

รัฐบาลสปป.ลาวได้ให้ไฟเขียวสำหรับบริษัทเอกชนสองแห่งในการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าขนาด 220kV ซึ่งจะนำไฟฟ้าจากเขื่อน 5 แห่งทางตอนเหนือของสปป.ลาวไปยังเวียดนาม หากการศึกษาได้รับการอนุมัติ สายการผลิตจะส่งกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำอู๋ที่ 3, 4, 5, 6 และ 7 ผ่านจังหวัดหลวงพระบางและจังหวัดพงสาลีไปยังเวียดนาม การศึกษาความเป็นไปได้จะใช้เวลา 18 เดือน และหากผลลัพธ์เป็นบวก การก่อสร้างในสายการผลิตจะเริ่มทันทีหลังจากนั้น การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในบริบทที่สปป.ลาวต้องการเพิ่มการส่งออกไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของเวียดนาม ปัจจุบันสปป.ลาวส่งออกไฟฟ้ามากกว่า 6,423MW ส่วนใหญ่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงเวียดนาม

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/laos-allows-private-firms-to-study-building-power-line-to-vietnam-post922950.vov

Vietnam Economic Factsheet : 2564

FACTSHEET VIETNAM ปี 2564

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม ปี 2564 ขยายตัว 2.58% ซึ่งชะลอลงจากการขยายตัว 2.9% ในปี 2563 (หากเทียบตามไตรมาสแล้ว GDP ในไตรมาสแรก ขยายตัว 4.72%YoY ในไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 6.73%YoY ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 6.02%YoY และในไตรมาสที่ 4 ขยายตัว 5.22%YoY ตามลำดับ) เนื่องจากโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3/64 หลายพื้นที่ดำเนินใช้มาตรการ “เว้นระยะห่างทางสังคม” (Social Distancing) เป็นระยะเวลายาวนาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โครงสร้างทางเศรษฐกิจ ปี 2564  พบว่าภาคเกษตร ป่าไม้และประมง คิดเป็นสัดส่วน 12.36% ของ GDP, ภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง (37.86% of GDP), ภาคบริการ (40.95% of GDP) และภาษีเงินอุดหนุน (8.83% of GDP)

ด้านการใช้จ่าย ปี 2564 พบว่าการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้าย ขยายตัว 2.09%, การสะสมสินทรัพย์ ขยายตัว 3.96%, การส่งออกสินค้าและบริการ ขยายตัว 14.01% และการนำเข้าสินค้าและบริการ ขยายตัว 16.16%

ที่มา : General Statistics Office of Vietnam, CEIC Data, International Monetary Fund, Ministry of Finance of Vietnam

10 อันดับตลาดนำเข้ายางพารารายใหญ่ ของ ‘เวียดนาม’

จากข้อมูลของศูนย์พาณิชยกรรมระหว่างประเทศ (ITC) เปิดเผยว่าภาวะการนำเข้ายางพารา (Rubber) ของตลาดสำคัญในปี 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะตลาดที่มีมูลค่าการนำเข้าสูง ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย ตุรกี บราซิลและสหรัฐฯ ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2564 จีนยังคงเป็นตลาดนำเข้ายางพาราใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่า 11.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.2%YoY โดยเวียดนามมีส่วนแบ่งการตลาดยางพารา 17.7% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดจากจีนในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 15.5%YoY ในขณะที่ตลาดยางพาราของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วน 9.4% ของมูลค่าการนำเข้ายางพาราทั้งหมดจากกลุ่มประเทศในอาเซียน เพิ่มขึ้น 6.9%YoY นอกจากนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการนำเข้ายางพาราของเวียดนามจาก 10 ตลาดนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้งหมด มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2563

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/10-biggest-rubber-import-markets-increase-purchase-of-vietnamese-rubber-post922643.vov

‘Fitch Ratings’ ประเมินเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปี 65

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Ratings เปิดเผยรายงานพบว่าระดับการฉีดวัคซีนในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงที่การระบาดจะมีผลต่อการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอนาคต อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยังคงอยู่ในความไม่แน่นอน โดยเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2564 ขยายตัว 2.6% ซึ่งเติบโตต่ำกว่าที่สถาบันฯคาดการณ์ไว้ที่ 7% เมื่อเดือนเม.ย.64 รวมถึงได้ประกาศอันดับเครดิตของเวียดนามที่ ‘BB’ และมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวม ทั้งนี้ สถาบันฯ Fitch มองว่าปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า GDP Q3/64 หดตัวลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เป็นผลมาจากรัฐฯ ควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดไม่ให้เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเมื่อตั้งแต่ครั้งก่อน โดยภาครัฐได้ปรับแนวนโยบายจาก “ZERO COVID” ให้ทำการปรับแบบยืดหยุ่น เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-economy-to-recover-fast-in-2022-fitch-ratings/221688.vnp

‘เวียดนาม’ เผย 1-3 ก.พ. ส่งออกสินค้าเกษตรไปยังจีน 287 ตัน ทะลุชายแดนหล่าวกาย

เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตรไปยังจีน ปริมาณกว่า 287 ตัน ผ่านด่านชายแดน Kim Thanh ในจังหวัดหล่าวกาย (Lao Cai) ที่มีพรมแดนติดกับจีน เมื่อเทศกาลตรุษจีน (1-3 ก.พ.) ปริมาณดังกล่าว มีจำนวนแก้วมังกร 38 ตัน, แตงโม 66 ตัน และกล้วย 183 ตัน ในขณะเดียวกัน ผลผลิตทางการเกษตรของจีน ปริมาณราว 877 ตันที่นำเข้ามายังเวียดนาม โดยในช่วงเวลาดังกล่าว มีผู้ขนส่งและผู้ช่วยขับรถมากกว่า 200 คน เกิดหยุดชะงักที่ประตูชายแดน Kim Thanh ส่วนใหญ่ขนส่งสินค้าเกษตรจากจังหวัดในภาคใต้

อย่างไรก็ตาม ตามรายงานทางสถิติของกรมศุลกากร เปิดเผยว่ามูลค่าการนำเข้าและส่งออกรวมทั้งสิ้นที่ผ่านด่านชายแดน อยู่ที่ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว รายได้จากการส่งออก 768,000 เหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-exports-287-tonnes-of-farm-produce-to-china-through-lao-cai-from-feb1-3-post922349.vov