สมัชชาแห่งชาติกัมพูชา อนุมัติข้อตกลงการค้าเสรี RCEP

สมัชชาแห่งชาติกัมพูชาได้อนุมัติความตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งกัมพูชาได้เตรียมขั้นตอนสำหรับการเข้าร่วมข้อตกลงที่จะมีผลบังคับใช้ภายในต้นปีหน้า โดยการเข้าร่วม RCEP ของกัมพูชา ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาตลาดระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกผู้ลงนามในข้อตกลง RCEP สร้าง ด้วยการกำหนดกรอบความร่วมมือระหว่างกันที่จะให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการขยายห่วงโซ่อุปทานการค้าและการลงทุนระดับภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจกัมพูชาและภูมิภาคฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากวิกฤตโควิด-19 โดย RCEP ถูกกำหนดให้เป็นข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเริ่มแรกประกอบด้วยประเทศสมาชิก 16 ประเทศ คิดเป็นกลุ่มประชากรรวมกว่า 3.6 พันล้านคน หรือร้อยละ 48.1 ของประชากรโลก ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศสมาชิก RCEP รวมกันอยู่ที่ 28.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2019 คิดเป็นร้อยละ 32.7 ของ GDP ทั่วโลก โดยการค้ารวมของประเทศที่ลงนามมีมูลค่าเกิน 11.2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือร้อยละ 29.5 ของมูลค่าการค้าโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50878878/assembly-approves-rcep-trade-agreement/

เวียดนามวางแผนส่งเสริมการค้าข้ามพรหมแดนระหว่างกัมพูชา

อานซาง ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งของเวียดนามในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการค้าผ่านชายแดนขึ้นร้อยละ 15 ในปี 2021-2025 สู่ 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจังหวัดอานซางมีพรมแดนติดกับจังหวัดตาแก้วและจังหวัดกันดาลของกัมพูชา รวมระยะทางเกือบ 100 กม. ซึ่งมีประตูชายแดนข้ามระหว่างกัมพูชาอยู่ 2 แห่ง โดยวางแผนที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการค้าผ่านชายแดนระหว่างกัน ควบคู่ไปกับการไหลเวียนของสินค้า ความเชื่อมโยงระดับภูมิภาค และการรวมกลุ่มระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำมาตรการทางด้านภาษีและค่าธรรมเนียมมาช่วยให้ภาคธุรกิจฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาษีในปัจจุบัน รวมถึงช่วยแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าและการฉ้อโกงทางการค้าข้ามพรหมแดนอีกด้วย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50877301/an-giang-province-seeks-to-foster-cross-border-exports-with-kandal-takeo-international-border-gates/

กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 8 หมื่นคน ในช่วง 4 เดือนแรก

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังกัมพูชาลดลงถึงร้อยละ 92.9 ในช่วง 4 เดือนของปีนี้ เหลือเพียง 82,839 คน ตามรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยว คิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 41,794 คน หรือร้อยละ 50 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในช่วงตั้งแต่มกราคมถึงเมษายน ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนและเวียดนามอยู่ในอันดับที่สองและสามด้วยจำนวน 25,986 และ 4,814 ตามลำดับ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวในกัมพูชาลดลงเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามกระทรวงการท่องเที่ยวและกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการตามแผนเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนสามารถเดินทางมาเยือนกัมพูชาได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ภายใต้แผนการต้อนรับนักท่องเที่ยวของรัฐบาลกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50875825/cambodia-received-only-82839-foreign-visitors-in-first-four-months/

ธนาคารโลกชี้ เศรษฐกิจกัมพูชากำลังฟื้นตัวแต่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่

ธนาคารโลกรายงานถึงเศรษฐกิจของกัมพูชาที่ค่อยๆ ฟื้นตัว และคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4 ในปี 2021 หลังจากหดตัวร้อยละ 3.1 ในปี 2020 แต่อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวยังคงมีความไม่แน่นอน อันเนื่องมาจากการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ภายในประเทศอีกครั้งเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 โดยภาคอุตสาหกรรมการเกษตรค่อนข้างยืดหยุ่นปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันได้ดีที่สุด เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชาและจีน ส่วนภาคการผลิตค่อยๆ ฟื้นตัวจากการปรับตัวตามสภาวะภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป และในด้านธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกก็กำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ในทางกลับกัน ภาคบริการบางส่วน เช่น ที่พัก ร้านอาหาร และการคมนาคมขนส่ง ยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศและต่างประเทศ ส่วนในด้านของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังคงทรงตัวอยู่ในระดับปกติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50876332/world-bank-says-cambodias-economy-recovering-but-uncertainties-remain/

ภาคอสังหาริมทรัพย์กัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายในกัมพูชากำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นนักลงทุนต่างชาติลดลงอย่างมาก โดย www.Realestate.com.kh กล่าวว่าตลาดได้เปลี่ยนจากผู้ซื้อชาวต่างประเทศและชาวกัมพูชากลุ่มชนชั้นกลางไปจนถึงระดับสูงไปสู่กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำมากขึ้น จากการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างกว่า 2,000 ราย ซึ่งเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจ (ร้อยละ 47) กล่าวว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงในช่วงวิกฤตโควิด-19 เกือบร้อยละ 60 โดยราคากลับมาอยู่ในช่วงที่สามารถจับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไป ในส่วนของตลาดการเช่าอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จนนำไปสู่ราคาค่าเช่าลดลงมาเหลือ 2 ใน 3 ของราคาค่าเช่า

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50875164/real-estate-sector-turning-away-from-foreign-buyers-survey-finds/

กัมพูชาเตรียมจัดตั้งสหพันธ์อุตสาหกรรมการเกษตร

กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรภายในกัมพูชาเตรียมจัดตั้งสหพันธ์ขึ้น เพื่อส่งเสริมการเติบโตภายในอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาลในการเพิ่มการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรในอนาคต โดยคาดว่าสมาพันธ์จะมีบทบาทในการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรในกัมพูชาอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ครอบคลุมพืชผลและภูมิศาสตร์ทุกประเภททั่วประเทศในอนาคตอันใกล้ ซึ่งกัมพูชาส่งออกพืชเศรษฐกิจสำคัญ 6 อย่างรวม 8.55 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.32 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50875165/cambodia-agro-industry-federation-to-be-established/

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ CLMVIP : ความเหมือนที่แตกต่าง

โดย ศูนย์วิจัยกรุงศรี

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) ทำให้เศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ (ในที่นี้จะเรียกโดยย่อว่า “CLMVIP”) ได้รับผลกระทบอย่างหนักในปี 2020 อย่างไรก็ดี ในปี 2021 หลายประเทศในกลุ่มนี้ มีแนวโน้มเติบโตในอัตราสูงราวร้อยละ 4-7 ปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของประเทศ CLMVIP ที่สำคัญ 3 ประการ คือ (i) ผลของมาตรการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากทั้งนโยบายการเงินและการคลัง โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (ii) การส่งออกที่ได้อานิสงส์จากวัฏจักรการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และ (iii) กระแสการรวมตัวกันภายในภูมิภาค (Regionalization) ที่เข้มแข็งขึ้น แม้ว่าประเทศในกลุ่ม CLMVIP จะมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตที่คล้ายคลึงกัน ในรายประเทศอาจมีลำดับการฟื้นตัวที่แตกต่าง เวียดนาม มีโอกาสฟื้นตัวโดดเด่นด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจในประเทศที่แข็งแกร่ง และรายรับจากภาคต่างประเทศที่ขยายตัวดี ผนวกกับข้อได้เปรียบจากความตกลงการค้าเสรีสำคัญ อาทิ ความตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม (EVFTA) ความตกลงการค้าเสรีสหราชอาณาจักร-เวียดนาม (UKVFTA) รวมทั้งยังมีการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดี

ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ใน CLMVIP มีระดับการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปกว่าด้วยข้อจำกัดที่แตกต่างกัน โดยอินโดนีเซียและกัมพูชา อาจฟื้นตัวเป็นลำดับถัดจากเวียดนาม แม้อินโดนีเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง แต่คาดว่าภาคส่งออกจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อีกทั้งยังได้ผลบวกจากแผนการขยายมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ รวมถึงแผนการฉีดวัคซีนและแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กัมพูชาอาจได้แรงสนับสนุนจากการส่งออก นำโดยตลาดจีนและสหรัฐฯ ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบจากการถูกระงับสิทธิพิเศษทางภาษีบางส่วนจากสหภาพยุโรป ฟิลิปปินส์ แม้มีปัจจัยหนุนจากขนาดวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐมากถึงร้อยละ 4 ของ GDP   แต่การเบิกจ่ายยังเป็นไปอย่างล่าช้า และสถานการณ์การระบาดในประเทศค่อนข้างรุนแรง ส่งผลให้ตลาดแรงงานยังอ่อนแอ และกระทบต่อการฟื้นตัวของการใช้จ่ายเพื่อบริโภคในประเทศ สปป.ลาว มีโครงสร้างเศรษฐกิจที่ค่อนข้างอ่อนแอ อีกทั้งขนาดการกระตุ้นเศรษฐกิจค่อนข้างจำกัด ผลกระทบจากโควิด-19 จึงทำให้ฟื้นตัวล่าช้า ขณะที่เมียนมา เผชิญประเด็นด้านเสถียรภาพทางการเมืองหลังจากผู้นำทางทหารของเมียนมาเข้ายึดอำนาจและประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งส่งผลฉุดรั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนและคู่ค้าในระยะนับจากนี้ และอาจมีผลให้พัฒนาการทางเศรษฐกิจของเมียนมาในระยะยาวหยุดชะงักลงไปได้

อ่านต่อ : https://www.krungsri.com/th/research/research-intelligence/regional-recovery-2021