การส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง

การส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯในปี 2020 ยังคงแข็งแกร่งแม้จะเกิดวิกฤตการระบาดของโควิด-19 แต่ถึงอย่างไรการส่งออกของกัมพูชาไปยังคู่ค้าหลักอื่น ๆ ก็ยังคงลดลง จากตัวเลขของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่ารวมกว่า 6.577 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.8 เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยกัมพูชานำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่ารวมอยู่ที่ 343 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับตัวเลขของปี 2019 ซึ่งการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 6.921 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.8 จากปีก่อน โดยสินค้าส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า และผลิตภัณฑ์สำหรับการเดินทาง เป็นหลัก ส่วนกัมพูชานำเข้าสินค้าสำคัญจากสหรัฐฯ ได้แก่ ยานพาหนะ อาหารสัตว์ และเครื่องจักร เป็นสำคัญ ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯดำเนินการภายใต้ระบบ Generalized System of Preferences (GSP) เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่ถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯในรูปแบบปลอดภาษี (เฉพาะสินค้าที่กำหนด)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50811365/cambodian-exports-to-us-show-strength-in-2020/

ระบบบำบัดน้ำเสียบนเนื้อที่สีหนุวิลล์ในกัมพูชาใกล้แล้วเสร็จ

กระทรวงโยธาธิการกล่าวถึงการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียในสีหนุวิลล์เสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 93 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการกล่าวระหว่างการตรวจเยี่ยมความคืบหน้าของโครงการโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของจังหวัด รวมถึงเพื่อการท่องเที่ยวและเพื่อดึงดูดการลงทุนในอนาคต โดยการเพิ่มขีดความสามารถของโรงบำบัดน้ำและการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียในจังหวัดพระสีหนุเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำเสียไหลลงสู่ทะเลและเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เมื่อเปิดดำเนินการแล้วโรงงานจะสามารถบำบัดน้ำเสียได้ถึง 30,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันก่อนปล่อยสู่ทะเล ซึ่งรัฐบาลได้อัดฉีดเงินทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับจังหวัดให้เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สุดในประเทศ โดยใช้เงินลงทุนถึง 300 ล้านดอลลาร์ ในการสร้างถนน 34 สาย ในจังหวัดและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50811473/sihanoukville-wastewater-facility-nearly-complete/

รัฐบาลกัมพูชาร่วมกับหอการค้ายุโรป ส่งเสริม SME ผ่านเทคโนโลยีสีเขียว

กัมพูชาและสหภาพยุโรป (EU) มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันในการส่งเสริมการพัฒนา SME ผ่านเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมสีเขียวในกัมพูชา โดยคำมั่นสัญญาดังกล่าวถูกกล่าวขึ้นในการประชุมระหว่างรัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมกับประธานหอการค้ายุโรปในกัมพูชา (EuroCham) ซึ่งได้กำหนดขอบเขตความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนาเทคโนโลยีการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ด้วยเทคโนโลยีสีเขียว และการปรับปรุงทรัพยากรมนุษย์ ทั้งยังยืนยันการหารือก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับร่างกฎหมายการลงทุน ในการแก้ไขการทับซ้อนกันในการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ทรัพย์สินทางปัญญา และนวัตกรรม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50811281/cambodia-eurocham-to-boost-sme-technology-science-and-green-industry/

CDC อนุมัติโครงการลงทุนในกัมพูชาอีก 5 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 50 ล้านดอลลาร์

บริษัท 5 แห่งได้รับใบอนุญาตการลงทุนจากสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) เพื่อลงทุนในจังหวัดตาแก้ว, กัมปงสปือ, กัมปงชนัง, กันดาลและสเวย์เหรียง ด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 50.5 ล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าโครงการที่ได้รับอนุมัติใหม่จะสร้างงานให้กับท้องถื่นได้ประมาณ 2,230 ตำแหน่ง ซึ่งโครงการใหม่ทั้ง 5 โครงการครอบคลุมถึงการผลิตเฟอร์นิเจอร์ ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ อะไหล่ของเครื่องจักร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเสื้อผ้า ตั้งแต่ต้นเดือนโดยตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ CDC ได้อนุมัติโครงการลงทุนไปแล้วกว่า 10 โครงการ ซึ่งรวมถึงโครงการข้างต้นด้วยเงินลงทุนรวมประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ สร้างโอกาสในการหางานรวมประมาณ 6,580 ตำแหน่ง และมองว่าการลงทุนดังกล่าวท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมของกัมพูชาแม้ว่าจะถูกคุกคามจากการระบาดในปัจจุบัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50811151/cdc-approves-5-more-investments-worth-more-than-50-million-in-investment-capital/

โรงไฟฟ้า 2 แห่งในสปป.ลาวมีแผนที่จะขายไฟฟ้าให้กัมพูชา

การก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 แห่งจะเริ่มในปลายปีนี้ในแขวงเซกองทางตะวันออกเฉียงใต้ของสปป.ลาวซึ่งโรงไฟฟ้าแห่งแรกจะสร้างโดย บริษัท โฟนแซคกรุ๊ป จำกัด มีกำลังผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 1,800 เมกะวัตต์ โรงงานดังกล่าวบริษัท โฟนแซคกรุ๊ป จำกัด จะลงทุนประมาณ 3-4 พันล้านเหรียญสหรัฐในโรงไฟฟ้ารวมถึงการสร้างสายไฟเพื่อส่งกระแสไฟฟ้าไปยังกัมพูชา ส่วนโรงไฟฟ้าแห่งที่สองจะสร้างโดยบริษัทจากจีน มีแผนจะลงทุนมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ไม่ได้สร้างสายกระแสไฟฟ้าแต่ซึ่งจะร่วมมือกับElectricite du Laos (EDL) ในการส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปยังกัมพูชา โดยโรงงานแห่งที่สองมีกำลังผลิตไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ กระแสไฟฟ้ากว่า 600 เมกะวัตต์ จะถูกส่งออกไปยังกัมพูชา เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ กล่าวว่าโรงงานเหล่านี้จะเปิดดำเนินการและเริ่มส่งกระแสไฟฟ้าไปยังกัมพูชาในปี 2568 ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในแขวงและภาพเศรษฐกิจของประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Two25.php

ปริมาณการส่งออกสินค้าจากมาเลเซียมายังกัมพูชาลดลงกว่าร้อยละ 42

การนำเข้าของกัมพูชาจากมาเลเซียลดลงในปี 2020 สู่ตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2016 ตามรายงานของกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรม (MITI) ของมาเลเซีย โดยการส่งออกของมาเลเซียในปี 2020 มายังกัมพูชาลดลงกว่าร้อยละ 42 เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 368.5 ล้านดอลลาร์ จากผลกระทบของการระบาดในปัจจุบัน ก่อให้เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่โดยตรงต่อซัพพลายเชนทั่วโลก โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการ ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการผลิตอย่างรุนแรง ซึ่งการนำเข้าส่วนใหญ่ของกัมพูชาจากมาเลเซีย ได้แก่เชื้อเพลิงจากแร่ จำพวกถ่านหิน ปิโตรเลียม และก๊าซธรรมชาติ มูลค่ารวมมากกว่า 207 ล้านดอลลาร์ ในปี 2019 และจากตัวเลขของ MITI การส่งออกปิโตรเลียมในปี 2020 ลดลงกว่าร้อยละ 22 เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50810440/malaysian-exports-to-cambodia-down-42-percent/

SCG รายงานผลการดำเนินการในกัมพูชา ประจำปี 2020

เครือซิเมนต์ไทย (SCG) ประจำประเทศกัมพูชา รายงานผลการดำเนินการโดยมีรายรับจากการขายภายในประเทศกัมพูชากว่า 252 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 ตามรายงานประจำปีของบริษัท โดยรายรับในไตรมาสที่4 ของปี 2020 ลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ 59.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรายงานถึงสินทรัพย์รวมของบริษัทในกัมพูชาอยู่ที่ 409 ล้านดอลลาร์ เป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยในไตรมาสที่ 4 ปี 2020 เศรษฐกิจโดยภาพรวมของกัมพูชาได้รับผลกระทบทั้งจากอุทกภัยครั้งใหญ่และการระบาดของ COVID-19 ซึ่งบริษัทเองกล่าวเพิ่มเติมว่าเหตุการณ์น้ำท่วมส่งผลทำให้ถนนหลายสายเสียหายและขาดการเชื่อมต่อ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ของบริษัท ทั้งยังประสบกับปัญหาการหยุดชะงักในการก่อสร้าง จากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในท้องถิ่น ทำให้โครงการก่อสร้างหลายแห่งในพนมเปญหยุดชะงัก สอดคล้องกับรายงานจากธนาคารแห่งชาติกัมพูชาระบุว่าภาคการก่อสร้างลดลงที่ร้อยละ 3 ในปี 2020 การนำเข้าวัสดุก่อสร้างลดลงร้อยละ 10.8

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50810439/scg-reports-healthy-annual-revenue-despite-2020s-trials/