“เวียดนาม-รัสเซีย” ลงนาม MOU ที่ประชุม SPIEF 2023

บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ‘Rosseti’ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับบริษัท National Power Transmission Corporation (EVNNPT) ซึ่งเป็นบริษัทรองของกลุ่มการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) เพื่อกลับมาดำเนินกลยุทธ์ระยะยาว หลังจากหยุดการดำเนินงานชั่วคราวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทั้งสองบริษัทตกลงที่จะพัฒนาโครงการร่วมกันตามศักยภาพของแต่ละฝ่าย ตลอดจนแลกเปลี่ยนทางเทคโนโลยีและดิจิทัล การฝึกอบรมบุคลากรและความปลอดภัยในการทำงาน นอกจากนี้ บริษัทพลังงานรัสเซีย จะช่วยเหลือบริษัทพลังงานเวียดนามในการปรับปรุงสายส่งไฟฟ้าและการเชื่อมต่อไฟฟ้าแรงสูงข้ามชาติจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnamese-russian-power-companies-sign-mou-at-spief-2023/254854.vnp

ผู้เชี่ยวชาญ UN ชี้กองทัพเมียนมานำเข้าอาวุธจากจีน-รัสเซีย 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่รัฐประหาร

กองทัพเมียนมานำเข้าอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ อย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในเดือน ก.พ. 2564 ผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ (UN) กล่าวตามรายงานฉบับใหม่ที่เรียกร้องให้รัสเซียและจีนทำการช่วยเหลือฝ่ายต่อต้านที่เผชิญกับรัฐบาลทหารของเมียนมา ทั้งนี้ ทอม แอนดรูวส์ ผู้สื่อข่าวพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา เปิดเผยว่า เฮลิคอปเตอร์ Mi-35, เครื่องบินรบไอพ่น MiG-29 และเครื่องบินแบบเบา Yak-130 ที่ผลิตในรัสเซีย และเครื่องบินไอพ่น K-8 ของจีน ถูกนำมาใช้ในการโจมตีทางอากาศที่โรงเรียน สถานพยาบาลและสิ่งก่อสร้างของพลเรือนหลายแห่ง นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญของยูเอ็น ยังเปิดเผยข้อมูลการค้าว่ามีการถ่ายโอนของอาวุธกองทัพและสินค้าอื่นๆ รวมถึงวัตถุดิบที่กองทัพเมียนมาใช้ในการผลิต นับตั้งแต่มีการรัฐประหารพบว่ามีการถ่ายโอนอาวุธจากรัสเซียเป็นมูลค่ากว่า 406 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากจีน 267 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://www.scmp.com/news/asia/southeast-asia/article/3220940/un-expert-says-myanmar-military-imported-us1-billion-weapons-china-russia-and-others-coup

รัสเซียอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว 6 เดือน สำหรับพลเมืองเมียนมา

กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมา เปิดเผยว่า สหพันธรัฐรัสเซียอนุมัติวีซ่าท่องเที่ยว 6 เดือนสำหรับพลเมืองของ 19 ประเทศ รวมไปถึงเมียนมา โดยเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 นายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสตินของรัสเซียได้ลงนามในกฤษฎีกาของรัฐบาลสหพันธรัฐรัสเซียฉบับที่ 372-r ที่ระบุว่าพลเมืองของ 19 ประเทศที่ได้อนุมัติวีซ่าท่องเที่ยวจะมีระยะเวลานานถึง 6 เดือน โดยประเทศที่ได้รับการอนุมัติวีซ่า ได้แก่ บาห์เรน บรูไน อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน กัมพูชา จีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี คูเวต สปป.ลาว มาเลเซีย เม็กซิโก เมียนมา โอมาน ซาอุดีอาระเบีย เซอร์เบีย ไทย เตอร์กิเย และฟิลิปปินส์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/russia-approves-6-month-tourist-visa-for-citizens-of-19-countries-including-myanmar/

สปป.ลาว รัสเซีย จับมือเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศ

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 นาย Ounthuang Khaophanh รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงข้อมูล วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ร่วมหารือกับนาย Alexander Radkov ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมของรัสเซียประจำสปป.ลาว ถึงความเป็นไปได้ในการเปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเวียงจันทน์และเมืองวลาดีวอสตอค ซึ่งเป็นเมืองบนชายฝั่งตะวันออกของรัสเซีย เพื่อเอื้อประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่อยากมาท่องเที่ยวสปป.ลาว โดย สปป.ลาวก็ถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเข้ามาเยือน ซึ่งนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ระบุว่าสปป.ลาวเป็นหนึ่งใน 25 ประเทศอันน่าทึ่งที่แนะนำสำหรับผู้ที่จะมาเยือนในปี 2566 นอกจากนี้ นิตยสารท่องเที่ยว Wanderlust ของสหราชอาณาจักรยังจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 20 ประเทศที่น่าท่องเที่ยวที่สุด หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลง มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่รัฐบาลเปิดประเทศในเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน 2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสปป.ลาวมากกว่าหนึ่งล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา: https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten211_Laorusia.php

เมียนมา จับมือ รัสเซีย หารือความร่วมมือด้านการธนาคาร

ธนาคารกลางของรัสเซียและธนาคารกลางแห่งเมียนมา (CBM) ดำเนินการประชุมความร่วมมือด้านการให้บริการของธนาคารครั้งที่ 2 ผ่านลิงก์วิดีโอเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2565 เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้บริการของประชาชน และหารือด้านนโยบายการเงิน การพัฒนาธนาคารให้มีเสถียรภาพ ทั้งนี้ยังขอความร่วมมือกับธนาคารทั่วประเทศปฏิบัติตามกฎระเบียบ คำสั่ง กฎและขั้นตอนที่ออกโดย CBM อย่างเคร่งครัด

ที่มา: https://elevenmyanmar.com/news/myanmar-russia-discuss-banking-cooperation

“ธุรกิจเวียดนาม” ยืนหยัดท่ามกลางความปั่นป่วนเศรษฐกิจรัสเซีย

มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรง ทำให้เศรษฐกิจรัสเซียเกิดการสั่นครอน แต่ว่าโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่งอย่าง “Ruviteks” มอสโก ประเทศรัสเซีย เจ้าของคนเวียดนาม คุณ Phan Manh Hùng กล่าวกับสำนักข่าวเวียดนามว่าก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้ามีแรงงานมากกว่า 100 คน แต่ปัจจุบันมีจำนวนแรงงานราว 40 คน อย่างไรก็ดีภาพรวมของกิจการยังอยู่ในระดับเสถียรภาพและสามารถจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานได้ ถึงแม้ว่าวัตถุดิบส่วนใหญ่ของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าในรัสเซียจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศและได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้องค์กรข้ามปัญหาอุปสรรคได้คือ การรักษาเสียรภาพการผลิต คำนึงผลประโยชน์ของแรงงานและการจัดหาสินค้าเข้าสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1252225/vietnamese-enterprises-stay-firm-in-face-of-economic-turmoil-in-russia.html

สปป.ลาว รัสเซีย เร่งกระชับสัมพันธ์การท่องเที่ยว

รัสเซียหวังที่จะกระชับความร่วมมือกับสปป.ลาวในด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนสามารถเยี่ยมชมประเทศของกันและกันได้ง่ายขึ้น เอกอัครราชทูตรัสเซียขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวสปป.ลาวรวมภาษารัสเซียไว้ในเว็บไซต์การท่องเที่ยวสปป.ลาว และแนะนำให้รัสเซียเพิ่มภาษาลาวลงในเว็บไซต์การท่องเที่ยวของตน เพื่อให้ประชาชนในทั้งสองประเทศสามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวได้ สิ่งนี้จะกระตุ้นความสนใจในการเดินทางและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศผ่านการท่องเที่ยว ในปี 2559 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาลาวมากกว่า 4.2 ล้านคน ซึ่งมากกว่า 3 ล้านคนมาจากกลุ่มประเทศอาเซียน และอย่างน้อย 13,000 คนมาจากรัสเซีย ทั้งนี้การร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการกระชบความสัมพันธ์ระหว่างสปปลาวและรัสเซียด้านการท่องเที่ยวไม่เพียงแค่นี้ยังครอบคลุมด้านการค้าและการลงทุน พลังงานและเหมืองแร่ เทคโนโลยีโทรคมนาคมและการสื่อสาร วิทยาศาสตร์และการศึกษา สุขภาพ วัฒนธรรม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laosr.php

‘รัสเซีย’ ตั้งเป้าฟาร์มแปรรูปเนื้อสุกร 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในเวียดนาม

คณะกรรมการประชาชนจังหวัดทัญฮว้า ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ AVG Capital Partners เพื่อสร้างฟาร์มแปรรูปเนื้อสุกรในเขตเศรษฐกิจ ‘Nghi Son’ ด้วยมูลค่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในจังหวัดทัญฮว้า รวมถึงฟาร์มเลี้ยงสุกร 5 ล้านตัวต่อปี ซึ่งมีฟาร์มเลี้ยงสุกรเชิงพาณิชย์ 43 แห่ง และฟาร์มเลี้ยงสุกรลูกผสม 3 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีการสร้างโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ด้วยกำลังการผลิต 2 ล้านตันต่อปี ประกอบกับโรงฆ่าสัตว์และโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยตัวแทนของบริษัท AVG ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างประโยชน์แก่ท้องถิ่น เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ งบประมาณ การสร้างงาน ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารตามหลักมาตรฐานสากล

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/russian-firm-plans-to-build-us-14-billion-pork-processing-complex-in-vietnam-27671.html

เวียดนามนำเข้าตุ๊กตาล้มลุกจากรัสเซีย มูลค่ากว่า 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

บริษัท Au Viet My Import-Export Trading Company เปิดเผยว่ายอดนำเข้าตุ๊กตาล้มลุกจากรัสเซีย ด้วยมูลค่าอยู่ที่ 100 ล้านรูเบิลรัสเซีย (ประมาณ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยตกลงสัญญากับบริษัทสัญชาติรัสเซีย Kotovsky Tumblers นับว่าเป็นการทำสัญญาส่งออกครั้งแรกที่เกี่ยวกับสินค้าอย่างตุ๊กตารัสเซียแบบดั้งเดิมไปยังตลาดเวียดนาม ทั้งนี้ สำนักข่าวรัสเซีย ‘Interfax’ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าว คุณ Dmitry Fedorov ผู้อำนวยการทั่วไปบริษัทฯ กล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าวจะดำเนินการออกเป็นช่วงๆ และทำจนเสร็จในเดือนมิ.ย.2564 ซึ่งเฟสแรกจะส่งตุ๊กตาล้มลุก 308 ตัว ไปยังเวียดนามในเดือนหน้า นอกจากนี้ ความร่วมมือทางการค้าระหว่างรัสเซียและเวียดนาม ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยธุรกิจเวียดนามส่วนใหญ่กำลังมองหาซัพพลายเออร์ชาวรัสเซียในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอาหาร กระดาษ โลหะและปิโตรเคมี

ที่มา : https://english.vov.vn/economy/russia-to-ship-tumblers-worth-over-13-million-usd-to-vietnam-413785.vov

กัมพูชาและรัสเซียวางแผนส่งเสริมการค้าทวิภาคีผ่าน FTA

รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้พบกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ โดยกัมพูชาและรัสเซียให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการค้าและการลงทุนทวิภาคี เนื่องจากกัมพูชามีเป้าหมายที่จะกระจายตลาดผ่านการลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพเศรษฐกิจเอเชีย (EAEU) ซึ่งรัสเซียเป็นสมาชิกร่วมกับอาร์เมเนีย  เบลารุส คาซัคสถานและคีร์กีซสถานมีขนาดประชากรถึง 183 ล้านคน โดยมูลค่ารวม GDP อยู่ที่ 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วการค้าทวิภาคีมีมูลค่าสูงถึง 55.39 ล้านเหรียญสหรัฐและกัมพูชาหวังว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขณะนี้กัมพูชากำลังเจรจาเรื่องบันทึกความเข้าใจ (MoU) ครั้งที่ 14 โดยคาดว่าจะได้รับการลงนามในไม่ช้า สิ่งเหล่านี้จะเน้นไปที่การท่องเที่ยว การศึกษา กฎหมายและการพัฒนาเยาวชนเป็นหลัก ซึ่งในปี 2559 กัมพูชาและ EAEU ได้ลงนามใน MoU เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า อย่างไรก็ตามเนื่องจากกัมพูชายังคงอยู่ในการจัดอันดับประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด ผลิตภัณฑ์ของกัมพูชา 46 รายการ สามารถเข้าสู่ตลาดปลอดภาษี EAEU ได้ภายในสามปีถัดไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50705867/cambodia-russia-to-boost-bilateral-trade-looking-at-fta/