ราคาน้ำมันเบนซินในกัมพูชาปรับตัวสูงขึ้น 8.64% ในเดือนที่แล้ว

ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 92 (EA92) ในตลาดภายในประเทศพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 8.64 แตะ 4,400 เรียล หรือ 1.07 ดอลลาร์ต่อลิตร ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (21 ม.ค.) เทียบกับราคา 4,050 เรียลในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งราคาน้ำมันเบนซิน 92 ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 104.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เดือน ม.ค. ปีนี้ จาก 90.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 96.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือประมาณ 0.6 ดอลลาร์ต่อลิตร ขณะที่ The IEA Oil Market Report (OMR) ได้รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันโลก ประจำเดือน ม.ค. 2022 คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวันใน 2023 โดยอัตราเงินเฟ้อของกัมพูชาในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7.85 ณ เดือน มิ.ย. 2022 ขยายตัวจากร้อยละ 7.17 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสูงที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501223911/domestic-gasoline-price-rises-8-64-in-the-last-month/

“คลัง” ชง ครม.ลดภาษีดีเซลอีก 3 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 ม.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้ขยายเวลามาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกไปอีก 2-3 เดือน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชน และภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมาตรการเดิมจะสิ้นสุดลงวันที่ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นการต่ออายุมาตรการเป็นรอบที่ 6 โดยเบื้องต้นคาดว่าจะลดภาษีให้อีกลิตรละ 3-5 บาท เป็นเวลา 2-3 เดือน เริ่มตั้งแต่ 21 ม.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้กรมสรรพสามิต สูญเสียรายได้การจัดเก็บงบประมาณอีกไม่เกิน 20,000 ล้านบาท สำหรับการขยายเวลาปรับลดภาษีดีเซลครั้งนี้ จะต้องพิจารณารายละเอียดว่าจะปรับลดลงเท่าไร โดยจะปรับลดเหมือนกับครั้งแรก คือ ลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน หรือจะลิตรละ 5 บาท เป็นเวลา 2 เดือน เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ราคาพลังงานได้เริ่มผ่อนคลายลง ประกอบกับขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีทางเลือกในการบริหารสภาพคล่องได้มากขึ้น.

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/oil/2603673

ไทยเล็งร่วมผลิตปิโตรเลียมกับกัมพูชา

คณะรัฐมนตรีของไทยจัดการหารืออย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (3 ม.ค.) เกี่ยวกับการร่วมมือในการผลิตปิโตรเลียมในอ่าว กัมพูชา-ไทย ภายใต้การบูรณาการร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งการหารือนำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กับ Suy Sem รัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์ในการพิจารณาความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานในภูมิภาค ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นจังหวะที่ดีในการรื้อฟื้นข้อตกลงการผลิตปิโตรเลียม บนพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน (OCA) ของทั้งสองประเทศ โดยทั้งสองประเทศกำลังเร่งเจรจากันเกี่ยวกับพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน (OCA) 26,000 ตร.กม. ซึ่งคาดว่าจะมีทรัพยากรธรรมชาติทั้งน้ำมันและก๊าซใต้พื้นทะเลมากถึง 500 ล้านบาร์เรล ขณะที่กัมพูชายังมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากราคาน้ำมันและก๊าซในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้นหลังเกิดสงครามยูเครน ซึ่งความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในกัมพูชาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.8 ล้านตันในปี 2030 เพิ่มขึ้นจาก 2.8 ล้านตันในปี 2020

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501214065/thailand-keen-on-joint-petroleum-production-with-cambodia/

ไทยผ่ามรสุมส่งออกปี 66 เร่งเปิดตลาดใหม่พยุงเป้าโต3%

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.คาดการณ์การแนวโน้มภาพรวมการส่งออกไทยปี 2566 จะขยายตัว 2-3% โดยประเมินจากการส่งออกปี 2565 ที่การส่งออกเชิงปริมาณไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดูจากจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ขนส่งปี 2565 ใกล้เคียงปี 2564 หากแต่เป็นราคาสินค้าจากวัตถุดิบและน้ำมันที่ปรับขึ้นและอานิสงค์ของค่าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าค่าเงินของคู่แข่งในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ ปี 2566 ราคาน้ำมันประเมินต่ำกว่าปี 2565 โดยอยู่ระดับ 75-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และค่าเงินบาทจะอยู่ 33-35 บาทต่อดอลลาร์ โดยอาจแข็งค่ากว่าค่าเงินของคู่แข่งทำให้ปี 2566 จะได้รับแรงกดดันจากราคาที่มีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมันและวัตถุดิบ

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1045692

ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในเมียนมาปรับตัวลดลง 2 วันติด

ราคาขายน้ำมัน ณ เมืองย่างกุ้งที่ขายในวันที่ 9 กันยายน 2565 ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2  โดยราคาน้ำมันเบ็นซิน 92 ลดลงเหลือ 2,310 จัตต่อลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาลดลงเลือ 2,485 จัตต่อลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซินลดลงมากกว่า 100 จัตต่อลิตร ในขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงเพียง 10 จัตต่อลิตร ซึ่งราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงภายหลังมีข่าวว่าธนาคารกลางเมียนมาจัดหาเงิน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพยุงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศประมาณร้อยละ 90 เพื่อบริโภคภายในประเทศ และผลิตเองได้เยงร้อยละ 10 เท่านั้น ทั้งนี้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประธานสภาการวางแผนและบริหารแห่งรัฐ เปิดเผยว่า เมียนมากำลังวางแผนที่จะซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากรัสเซียเพื่อให้เพียงพอกับการใช้ในประเทศ

ที่มา: https://news-eleven.com/article/237107

ชาวเมียนมา โวย ! ปั้มน้ำมันหลายแห่งจำกัดการขายน้ำมันในประเทศ

คณะกรรมการกลางของเมียนมา เปิดเผยว่า ประชาชนสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนเรื่องที่มีสถานีบริการน้ำมันหลายๆ แห่ง มีการจำกัดโควต้าในการขายน้ำมันเชื่อเพลิงซึ่งส่งผลให้ประชาชนมีความเดือดร้อนและกังวลเป็นอย่างมาก โดยเรื่องนี้ทางรัฐบาลเมียนมาได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าในเดือนนี้ (เดือนส.ค.2565) ปริมาณน้ำมันเชื่อเพลิงเพียงพอต่อการบริโภคอย่างแน่นอน ทั้งยังร่วมงานกับสมาคมการค้าปิโตรเลียมแห่งเมียนมาในการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อไม่ให้ขาดแคลนและลดความกังวลของประชาชนในประเทศ ปัจจุบัน (วันที่ 16 ส.ค.2565) ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทุกชนิด โดยราคาน้ำมันออกเทน 92 พุ่งจาก 2,365 จัตต่อลิตร, ราคาน้ำมันออกเทน 95 อยู่ที่ 2,445 จัตรต่อลิต, ราคาดีเซลพรีเมียมอยู่ที่ 2,780 จัตรต่อลิตร และราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 2,700 จัตรต่อลิตร

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-249-mln-worth-of-over-733000-mt-of-rice-in-past-4-months/

“ADB” คงประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม

รายงานการวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียประจำปี 2565 (Asian Development Outlook 2022 : ADO 2022) ของธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยว่าคงประมาณการการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามของปี 2565 อยู่ที่ 6.5% และในปีหน้า 6.7% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของการค้าอย่างต่อเนื่อง การฟื้นตัวของภาคการผลิต การเดินทางในประเทศและการลงทุนของภาครัฐ ในขณะเดียวกัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม อุปทานอาหารในประเทศยังคงเพียงพอและจะช่วยบรรเทาภาวะเงินเฟ้อในปีนี้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/adb-maintains-growth-forecast-for-vietnam/234137.vnp

อัตราเงินเฟ้อกัมพูชา ณ เดือนพฤษภาคม พุ่งสูงสุดในรอบทศวรรษ

อัตราเงินเฟ้อในประเทศกัมพูชาปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7.2 ในช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้ ซึ่งสูงที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา โดยธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) กล่าวเสริมว่า ได้ออกมาตรการเพื่อควบคุมแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อและปกป้องกำลังซื้อของท้องถิ่น ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจาก สงครามระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อและการคว่ำบาตรรัสเซียได้ผลักดันราคาน้ำมันและต้นทุนอาหารโลกพุ่งสูงขึ้น ควบคู่ไปกับราคาปุ๋ยและผลผลิตทางการเกษตรที่น้อยลง โดยกัมพูชาได้กำหนดกรอบนโยบายการเงินของธนาคารกลาง รวมถึงการดำเนินการทางด้านหลักประกันสภาพคล่อง (LPCO) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่อนุญาตให้ NBC ปล่อยกู้ให้กับสถาบันการเงินในสกุลเงินท้องถิ่น และวงเงินสินเชื่อส่วนเพิ่ม (MLF) นอกเหนือจากเงินกู้ข้ามคืนที่เป็นสกุลเงินเรียล เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางด้านสภาพคล่องระยะสั้นของธนาคาร

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501116556/may-records-decades-highest-inflation-in-cambodia/

“เวียดนาม” เผยราคาน้ำมันลดลงสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2565

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยข้อมูล ณ วันที่ 11 ก.ค. ชี้ว่าราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่า 3,000 ดอง (0.13 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อลิตร หากพิจารณาเปรียบเทียบราคาน้ำมันกลุ่ม พบว่าราคาเบนซิน 95 (RON 95) ลดลงราว 3,088 ดอง มาอยู่ที่ระดับ 29,675 ดองต่อลิตร และราคาน้ำมัน E5RON92 ลดลง 3,103 ดอล มาอยู่ที่ระดับ 27,788 ดองต่อลิตร ในขณะที่ราคาดีเซล DO 0.05s-II และราคาแก๊ส ปรับตัวลดลง 3,022 ดอง และ 2,008 ดอง อยู่ที่ระดับ 26,593 ดอง และ 26,345 ดอง ต่อลิตร ตามลำดับ ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากน้ำมันปรับขึ้นราคาหลายครั้งที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. คณะกรรมการประจำสภาได้ออกพระราชกฤษฎีกา “0/2022/UBTVQH15” เรื่องการลดภาษีสิ่งแวดล้อมและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อช่วยควบคุมราคาน้ำมันในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/petrol-prices-see-highest-decrease-since-2022s-beginning/233498.vnp

ลุ้นคลัง ต่อเวลาลดภาษีสรรพสามิตดีเซล ลิตร 5 บาท อีก 2 เดือน หลังใกล้สิ้นสุด 20 ก.ค.นี้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยถึงแนวทางการขยายเวลาภาษีสรรพสามิตน้ำมันว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ ส่วนการขอกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นกัน แต่ยอมรับว่า มีความกังวลสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยขณะนี้กรมสรรพสามิต กำลังจัดทำข้อมูลเสนอ รมว.คลัง ถึงการพิจารณาขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล คาดว่าจะมีการเสนอลดภาษีมากกว่า 1 รูปแบบ เช่น ลิตรละ 5 บาทต่อไปอีก 2 เดือน หลังจากมาตรการปัจจุบันจะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค นี้ โดยหากนายอาคม เห็นชอบ คาดจะเสนอเข้า ครม. อย่างช้าภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ประเมินว่าการลดภาษีครั้งนี้จะทำให้คลังสูญเสียรายได้ไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท โดยภาพรวมการจัดเก็บรายได้ในรอบ 8 เดือน ต.ค.64-พ.ค.65 คลังยังจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมายเกินอยู่ 1 แสนล้านบาท

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/1241581/