‘GDP เวียดนาม’ ก้าวกระโดด มูลค่าทะลุ 430 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 66

จากรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนาม มีมูลค่าราว 433.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 และอยู่ในอันดับที่ 5 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย มูลค่า 1.54 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ไทย สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของโลกในปีที่แล้ว คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 104.48 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยสหรัฐอเมริกายังคงมีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก ด้วยมูลค่าที่ 26.95 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์และวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร (CEBR) ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการจัดอันดับของขนาดเศรษฐกิจเวียดนาม มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นในอนาคตข้างหน้าและคาดว่าเวียดนามจะขึ้นอันดับที่ 24 ภายในปี 2576 ด้วยขนาดเศรษฐกิจสูงถึง 1,050 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://en.baochinhphu.vn/vietnamese-gdp-size-hits-over-us430-billion-in-2023-111240312092316328.htm

‘เวียดนาม’ ส่งออกสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก

หนังสือพิมพ์เดอะ ฮินดู (The Hindu) รายงานว่าส่วนแบ่งการส่งออกสมาร์ทโฟนของเวียดนามในปี 2565 สูงถึง 12% ของตลาดสมาร์ทโฟนโลก ในขณะเดียวกัน อินเดียเป็นคู่แข่งของเวียดนามในตลาดสมาร์ทโฟนและอยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก ด้วยส่วนแบ่งการส่งออกมากกว่า 2.5% อย่างไรก็ดีจีนยังคงครองส่วนแบ่งการส่งออกสมาร์ทโฟนกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดโลก

ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมศุลกากร เปิดเผยว่าการส่งออกโทรศัพท์และชิ้นส่วนของเวียดนามในเดือน ม.ค. มีมูลค่ามากกว่า 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และจากรายงานของธนาคาร HSBC แสดงให้เห็นว่าเวียดนามครองส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟนโลกถึง 13% ในปี 2564 โดยเป็นผู้ส่งออกสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก

ที่มา : https://www.nationthailand.com/world/asean/40036303

‘เวียดนาม’ เผยราคาข้าวตกต่ำ สวนทางโลกขาดแคลน

นาง Bui Thi Thanh Tam ผู้อำนวยการบริษัท Vinafood 1 ยืนยันว่าผู้ส่งออกข้าวของเวียดนามชนะประมูลขายข้าวให้อินโดนีเซีย 4 แสนตัน จากที่ต้องการซื้อราว 5 แสนตัน โดยอินโดนีเซียเป็นผู้บริโภคข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนาม เนื่องจากมีความขาดแคลนข้าวอย่างมาก และจากข้อมูลในเดือน ก.พ.67 พบว่าอินโดนีเซียประสบปัญหาขาดแคลนข้าวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ทำให้รัฐบาลอินโดนีเซียต้องเพิ่มการนำเข้าข้าวในปีนี้อีก 3.6 ล้านตัน

ทั้งนี้ สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) เปิดเผยว่าราคาข้าวของเวียดนามลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนก.พ. และจากข้อมูลในวันที่ 5 มี.ค. แสดงให้เห็นว่าราคาข้าวหัก 5% ของเวียดนาม อยู่ที่ 579 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ 663 เหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาข้าวที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ว่าราคาข้าวจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการขาดแคลนอุปทานในโลก

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/after-half-year-of-rising-prices-rice-prices-start-to-fall-2257559.html

‘ตลาดรถยนต์เวียดนาม’ ซบเซาในช่วงต้นปี 67

จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่าจำนวนรถยนต์ที่ผลิตและประกอบในประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือน ก.พ.67 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าและปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันก็นำเข้ารถยนต์ลดลง โดยหากพิจารณารถยนต์ที่ผลิตและประกอบในประเทศช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ พบว่าปริมาณรวมกันทั้งสิ้น 37,500 คัน ลดลง 9.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และจำนวนรถยนต์ที่นำเข้าในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 12,955 คัน คิดเป็นมูลค่าราว 262 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 51.6% และ 54.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ นับเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ตัวแทนจำหน่ายโตโยต้า ได้เสนอส่วนลดรถยนต์รุ่น Yaris Cross ในขณะที่ฮอนด้าเวียดนามเสนอส่วนลดค่าธรมเนียมการจดทะเบียนลง 50% สำหรับรุ่น HR-V และให้ชุดอุปกรณ์เสริมกับลูกค้า

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1651663/viet-nam-automobile-market-remains-stagnant-in-early-2024.html

‘เวียดนาม’ เผยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ 5 อันดับแรก ทำรายได้สูงถึง 12.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักงานอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนาม เปิดเผยรายงานอีคอมเมิร์ซของเวียดนาม ประจำปี 2566 แสดงให้เห็นว่าภาพรวมของอีคอมเมิร์ซมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และพบว่ารายได้จากแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์แบบ B2C จะมีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีมูลค่าสูงถึง 650 ล้านล้านดองในปี 2567 โดยรายได้จากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ 5 อันดับแรกของเวียดนาม มีมูลค่าสูงถึง 12.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2566 ในขณะที่รายได้จากอีคอมเมิร์ซของเวียดนามแบบ B2C มีมูลค่าเกินกว่า 20.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 ทั้งนี้ แม้ว่าอีคอมเมิร์ซจะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ว่าเผชิญกับปัญหาในเรื่องของแหล่งที่มาของสินค้า ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล โครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซ และความไว้วางใจของผู้บริโภค ซึ่งปัจจัยดังกล่าวต้องได้รับการแก้ไข

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1651271/total-revenue-of-viet-nam-s-top-5-e-commerce-platforms-can-reach-12-4-billion.html

‘S&P Global’ เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเวียดนาม ขยายตัวต่อเนื่อง

เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนามในเดือน ก.พ. อยู่ที่ระดับ 50.4 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 50.3 ในเดือน ม.ค. และยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 50.0 นับเป็นการเติบโต 2 เดือนติดต่อกัน และจากรายงานแสดงให้เห็นว่าธุรกิจต่างๆ ยังคงลดต้นทุนด้านการจัดซื้ออย่างต่อเนื่องและหันมาใช้สินค้าคงคลัง เพื่อรองรับกับผลผลิตและยอดคำสั่งซื้อแทน ในขณะเดียวกัน ธุรกิจต่างๆ ปรับขึ้นราคาสินค้า เนื่องมาจากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ทั้งนี้ ยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นสองเดือนติดต่อกัน โดยกลุ่มตัวอย่างบางรายได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศมากขึ้น แต่ว่าอัตราของคำสั่งซื้อใหม่สำหรับการส่งออกไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1651266/manufacturing-sector-continues-to-grow-business-sentiment-at-one-year-high-pmi.html

สปป.ลาว เสนอขายไฟฟ้าพลังงานลมกว่า 4,000 เมกะวัตต์ ให้เวียดนาม

ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานลมใน สปป.ลาว จะถูกส่งขายไปยังเวียดนามผ่านสายส่งของจังหวัดก๋วงตริ นักลงทุนลาววางแผนที่จะเสนอพลังงานลมมากกว่า 682 เมกะวัตต์ก่อนปี 2568 และส่วนที่เหลือจะส่งมอบในภายหลัง แม้จะมีข้อเสนอดังกล่าว แต่โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ในพื้นที่อาจจำกัดปริมาณไฟฟ้าที่ขายได้ ในช่วงฤดูแล้งและช่วงเวลาอื่นๆ โดยทั่วไปจังหวัดก๋วงตริของเวียดนามสามารถรองรับไฟฟ้าได้สูงสุด 300 MV เท่านั้น เนื่องจากการทำงานเต็มกำลังการผลิตคือ 200 กิโลโวลต์ (KV) และ 110 KV ในพื้นที่ EVN ระบุว่าด้วยโครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบัน จังหวัดก๋วงตริสามารถรองรับไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ได้เพียง 2,500 เมกะวัตต์ ซึ่งน้อยกว่าที่นักลงทุนลาวตั้งเป้าที่จะขายอย่างมาก

ที่มา: https://laotiantimes.com/2024/03/01/laos-proposes-selling-over-4000-mw-of-wind-power-to-vietnam/