ADB ปรับการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชาหลังล็อกดาวน์

หลังจากที่ทางการกัมพูชาได้ทำการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่เขตที่มีการระบาดของโควิด-19 เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ทำให้การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งหมดภายในกัมพูชาจำเป็นต้องทำการประเมินใหม่อีกครั้ง โดย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) มองว่าการฟื้นตัวในปีนี้และปีหน้าจะอยู่ที่ในกรอบร้อยละ 4 และร้อยละ 5.5 ตามลำดับ ซึ่งในปี 2020 เศรษฐกิจของกัมพูชาหดตัวร้อยละ 3.1 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยในปัจจุบันรัฐบาลกัมพูชาได้ตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจของกัมพูชาจะกลับมาเติบโตในปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50847837/lockdown-length-could-alter-growth-predictions-adb/

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) มองเศรษฐกิจลาวสามารถเติบโตท่ามกลางวิกฤตโควิด -19

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) มองเศรษฐกิจลาวสามารถเติบโตท่ามกลางวิกฤตโควิด -19 และมาตรการปิดกั้นที่ส่งต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตามรายงงานแนวโน้มการพัฒนาเอเชียจัดทำโดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ในรายงานคาดว่าสปป.ลาวจะเติบโตได้ที่ร้อย 4.0 ในปี 2564 และร้อยละ 4.5 ในปี 2565 ADB ให้เหตุว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป.ลาวได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของภาคการเกษตรโดยเฉพาะปศุสัตว์ การเติบโตของอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงหนุนจากการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่เหมืองแร่และทรัพย์สินในเมืองคาดว่าในปี 2564 และ 2565 จะสร้างงานและกำลังซื้อของครัวเรือนจะสูงขึ้นภาคบริการในปีนี้จะได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวหลังจากโครงการทางด่วนเวียงจันทน์ – วังเวียงแล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการบริการในประเทศอย่างไรก็ตามสปป.ลาวยังมคามท้าทายด้านสถานะการคลังที่ย่ำแย่สิ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้การเติบโตไม่เป็นไปตามกรอบที่วางไว้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_ADB81.php

กัมพูชาเปิดประมูลโครงการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์แห่งใหม่

ประมูลจะได้รับเงินสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ซึ่งถือเป็นโครงการที่สองของสวนพลังงานแสงอาทิตย์แห่งชาติกัมพูชา โดยคาดว่าจะให้พลังงานสะสมรวม 100 เมกะวัตต์ เมื่อเสร็จสิ้น ซึ่ง Prime Road Power Co. บริษัทด้านพลังงานหมุนเวียนสัญชาติไทยชนะการประมูลในโครงการแรก โดยมีขนาด 60 เมกะวัตต์ ซึ่ง ADB ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินผ่านเงินกู้สัมปทาน ซึ่งการประมูลในครั้งแรกจบลงด้วยราคาเสนอต่ำสุดของ Prime Road ที่ 0.3877 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50831384/bidding-opens-for-new-40-mw-solar-project/

ADB อนุมัติเงินกู้ 70 ล้านดอลลาร์สำหรับภาคการเกษตรของกัมพูชา

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้อนุมัติเงินกู้ราว 70 ล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงขีดความสามารถของธุรกิจด้านการเกษตรใน 6 จังหวัดทั่วกัมพูชาในการแปรรูปสินค้าเกษตรที่สำคัญ โดยมีสหกรณ์การเกษตรกว่า 230 แห่ง และธุรกิจด้านการเกษตร 50 แห่ง เข้าร่วมโครงการพัฒนาด้านการเกษตร ซึ่ง ADB กล่าวว่าการเกษตรถือเป็นส่วนสำคัญที่สามารถช่วยให้เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตและกระจายความหลากหลายทางเศรษฐกิจได้ หากธุรกิจทางการเกษตรขนาดเล็กและขนาดกลางในท้องถิ่นสามารถปรับปรุงความสามารถในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศได้ โดยการลงทุนภาคเอกชนในภาคการเกษตรควบคู่ไปกับการเข้าถึงสินเชื่อและวัตถุดิบคุณภาพสูงจากทางผู้ผลิตจะช่วยให้ธุรกิจการเกษตรของกัมพูชาแสดงถึงศักยภาพในการส่งเสริมการเติบโตของประเทศ รวมถึงสร้างงานและปรับปรุงวิถีชีวิตในชนบท

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50789891/adb-approves-loans-worth-70-million-for-cambodias-agricultur/

ADB คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2021

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับแนวโน้มระยะกลางสำหรับเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาจะหดตัวลงร้อยละ 4 ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งแนวโน้มก่อนหน้านี้ของ ADB ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตลดลงร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอันเป็นผลมาจากการระบาดของ Covid-19 อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานทางการเกษตรที่ดีขึ้นและปริมาณการผลิตที่ไม่ใช่เครื่องนุ่งห่มที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลางดีขึ้น โดยกล่าวในระหว่างการนำเสนอการสัมมนาทางเว็บเรื่อง “On Road Map to Recovery? Cambodia’s Economic Outlook for 2021” ซึ่งจัดโดย EuroCham ซึ่ง ADB ระบุปัจจัยขับเคลื่อนพื้นฐาน 5 ประการ ในการรักษาอัตราการเติบโต ประการแรกคือการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายการค้า การพัฒนาทักษะ การศึกษาและการผ่อนคลายสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ ตัวขับเคลื่อนที่สองคือการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ประการที่สามคือการสร้างนวัตกรรมและดิจิทัลโดยเฉพาะในอีคอมเมิร์ซและเศรษฐกิจดิจิทัล ตัวขับเคลื่อนที่สี่คือการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่คุณค่าในภูมิภาคและการเข้าถึงตลาด และอันดับที่สุดท้ายคือการขยายตัวของเมืองและชนชั้นกลางที่กำลังเติบโต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50788737/adb-projects-a-rebound-in-growth-for-2021/

โครงการท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวของกัมพูชาเสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 55

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) กล่าวว่าโครงการท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดกัมปอตได้ดำเนินการแล้วเสร็จถึงร้อยละ 55 แต่ด้วยการออกแบบใหม่และผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้เกิดความล่าช้า โดยโครงการมีมูลค่าอยู่ที่ 8 ล้านดอลลาร์ มาจากเงินกู้ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ภายในสิ้นปี 2022 ซึ่งหัวหน้าแผนกโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำและการก่อสร้างท่าเรือของ MPWT กล่าวว่าได้ตัดสินใจที่จะออกแบบอาคารผู้โดยสารหลักและท่าเรือใหม่เนื่องจากเพิ่งสังเกตว่าการออกแบบครั้งแรกไม่ดีพอ ดังนั้นจึงต้องมีการออกแบบและวางแผนเพิ่มเติมสำหรับข้อกำหนดโครงสร้างที่แตกต่างกัน โดยท่าเรือตั้งอยู่ในเขตตึกชูมีความยาวประมาณ 300 เมตร และสามารถรองรับเรือที่บรรทุกผู้โดยสารได้ 300 ถึง 400 คน โดยเมื่อท่าเรือสร้างเสร็จและพร้อมให้บริการ จะมีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านแพ็คเกจการท่องเที่ยวที่เชื่อมจังหวัดกัมปอตกับจุดหมายปลายทางในเวียดนามและไทย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50787547/kampot-tourism-port-project-55-complete/

โควิดทุบลงทุน ‘เมียนมา’ คลายมนต์ขลัง

การที่เมียนมาเปิดประเทศได้กลายเป็นขุมทรัพย์ที่คอยดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลก แต่ ณ เวลานี้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ถือว่ามาแรงและเร็วที่สุดในอาเซียน โดยในช่วงเพียงชั่วเวลาไม่กี่สัปดาห์ยอดจำนวนผู้ติดเชื้อ “เมียนมา” ขยับขึ้นเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน ซึ่งส่งผลต่ออนาคตการเป็นแหล่งลงทุน ความเลวร้ายครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนมีการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 นี้ ยังคงเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไปท่ามกลางอนาคตเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน ความมั่นคงทางการเงินและเสถียรภาพทางการคลังยังอยู่จุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง

ล่าสุดธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจขยายตัวลดลงเหลือ 1% เปรียบเทียบกับกับเดือนเมษายนที่อาจจะขยายตัว 4.2% และจะฟื้นตัวในปี 2564 ที่สำคัญกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนโดยต่างจากต่างชาติ (FDI) ที่อาจต้องชะลอตัวลง ในเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนมูลค่า 134,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 99,904 ล้านบาท โครงการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงไฟฟ้า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโรงงานอุตสาหกรรม แต่จากเกิดภาวะดีมานด์-ซัพพลายช็อค และการระบาดของโควิด 19 ที่ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ต้องหยุดชะงักลง

ก่อนหน้านี้ในรายงานเรื่องความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ของธนาคารโลก (WorldBank) ประจำปี 2563 ได้จัดอันดับให้เมียนมาอยู่ที่อันดับ 165 จากทั้งหมด 190 ประเทศ แสดงถึงความน่าลงทุนน้อยที่สุดในอาเซียน จากปัญหาเรื่องการคอร์รัปชั่นในระดับสูงและกฎระเบียบที่ยุ่งยาก ความตึงเครียดทั้งจากสถานการณ์โควิด 19 และแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ทำให้รัฐบาลชุดใหม่ต้องเร่งวางนโยบายเพื่อดึงดูดทุนต่างชาติที่อาจจะหันเหไปประเทศเพื่อบ้านอย่าง ประเทศเวียดนาม ไทย หรือกัมพูชา

ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียนแล้ว ยังมีความได้เปรียบในการเป็นแหล่งลงทุนใหม่ สามารถเติบโตได้อีกมาก ทั้งความอุดมสมบูรณ์ด้านวัตถุดิบ ต้นทุนแรงงานต่ำ เพียงแต่สิ่งที่นักลงทุนต่างชาติต้องการ คือการสร้างระบบกฎหมายที่เป็นมาตรฐาน การบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจสร้างบรรยากาศการลงทุน ทั้งเรื่องการจัดตั้งธุรกิจที่สะดวกและรวดเร็ว การจ้างงาน การหาลูกค้า และนักลงทุนต่างก็คาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรมหากเข้าไปลงทุนอีกด้วย

ที่มา: https://www.bangkokbanksme.com/en/covid-affects-myanmar-investment

สนง.สถิติแห่งชาติ คาด GDP เวียดนาม ปี 63 โต 2-3%

นาย Nguyen Bich Lam ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) กล่าวว่าในปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของเวียดนามเติบโตร้อยละ 2-3 ซึ่งตรงกับที่กระทรวงวางแผนและการลงทุนคาดการณ์ไว้และใกล้เคียงกับทางธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 1.8 เมื่อต้นเดือนนี้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และจะกลับมาฟื้นตัวที่ร้อยละ 6.3 ในปีหน้า ชณะที่ การคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว ยึดจากผลการดำเนินงานธุรกิจและการผลิตในเดือนสิ.ค.และในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ รวมถึงความสำเร็จของรัฐบาลในการรับมือโควิด-19 และการเร่งเบิกจ่ายการลงทุนของภาครัฐและสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจที่ดีขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ เวียดนามคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA ที่จะช่วยให้ภาคเกษตร ประมงและอุตสาหกรรมเติบโตได้ดียิ่งขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-gdp-to-grow-23-percent-this-year-former-gso-director/186314.vnp