บริษัทในสหรัฐฯ ยืนยันการขยายธุรกิจในกัมพูชา

บริษัทในสหรัฐฯ ยืนยันที่จะขยายธุรกิจและอัดฉีดการลงทุนเพิ่มเติมในกัมพูชา ซึ่งคาดว่าจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของกัมพูชาในระยะถัดไป รายงานโดยรองประธานอาวุโสและกรรมการผู้จัดการระดับภูมิภาคของ U.S.-ASEAN Business Council ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการประชุมเสมือนจริงระหว่าง รมว.พาณิชย์กัมพูชา นอกจากนี้ การเข้าร่วมการประชุมยังมีตัวแทนจากสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชาและบริษัทในสหรัฐอเมริกาได้แก่ConocoPhillips, FordMotor, Amazon, Walmart, Pernod Ricard, Visa และ Jhpiego โดยปัจจุบันการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50964563/u-s-companies-confirm-business-expansion-in-cambodia/

‘เวียดนาม’ ชี้ธุรกิจเตรียมแผนปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

นาย Tô Hoài Nam รองประธานและเลขาธิการสมาคมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งเวียดนาม (VINASME) กล่าวว่าการระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจเวียดนามต้องปรับตัวหลายอย่างให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทส่วนใหญ่จะมีการหมุนเวียนพนักงาน ลดค่าใช้จ่ายและควบคุมต้นทุน นอกจากนี้ ธุรกิจต่างๆ จัดทำแผนการใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและปรับแผนการลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์การระบาดของไวรัส ตลอดจนปรับตัวให้ทันต่อพฤติกรรมผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม นาย Trần Thoa รองผู้อำนวยการ บริษัท Thien Tâm Thảo ชี้ว่าการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำเนินธุรกิจของทุกองค์กร และธุรกิจจำเป็นที่จะต้องปรับกลยุทธ์มาช่องทางออนไลน์ที่ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะช่วยให้กิจการสามารถรักษารายได้และกำไรต่อไปได้

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1015327/enterprises-diversify-plans-to-adapt-to-covid-19-pandemic.html

‘เวียดนาม’ ชี้ธุรกิจฟื้นตัว ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19

จากข้อมูลของกระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าถึงแม้เศรษฐกิจเวียดนามจะเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ไปยังต่างจังหวัด โดยเฉพาะเมืองโฮจิมินห์ อย่างไรก็ดี การส่งออกและการนำเข้าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ยังอยู่ในระดับสูง ด้วยมูลค่า 373.36 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 30.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทั้งนี้ ประเด็นที่โดดเด่นที่สุดในเวียดนาม คือ ไม่ขาดแคลนสินค้าและไม่มีการปรับขึ้นราคาในช่วงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญแสดงความกังวลว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ หากการระบาดยังทวีความรุนแรงมากขึ้น จะส่งผลให้กิจการหยุดดำเนินธุรกิจ กิจกรรมการผลิตปิดตัวลง ตลอดจนขาดแคลนอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจจำนวนมากจึงต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ดังกล่าวและคงไว้กับการป้องกันการแพร่ระบาด

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/businesses-show-relisilience-amid-econmic-fallout-883020.vov

กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์มาแรง ไทยขึ้นแท่นผู้ส่งออกรายใหญ่ในอาเซียน

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยผลการศึกษาตลาดบรรจุภัณฑ์ในยุคโควิด-19 ของ สนค.ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เพื่อสร้างโอกาสในการส่งออกสินค้าของไทย พบว่าบรรจุภัณฑ์เป็นที่ต้องการในตลาดโลกเพิ่มขึ้นเพราะกระแสความนิยมซื้อขายผ่านอี-คอมเมิร์ซ และความต้องการสินค้าอุปโภค-บริโภคและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศ การค้าบรรจุภัณฑ์โลกในไตรมาสแรกของปี 2564 มีมูลค่า 110,985.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 57,813.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14% และการนำเข้ามูลค่า 53,172.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12% ผู้ส่งออกและนำเข้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และจีน โดยไทยเป็นผู้ส่งออกบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในอาเซียนมีมูลค่าส่งออกในไตรมาสแรกของปี 2564 รวม 844.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.2% รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ตามลำดับ โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ 123.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.8% สัดส่วน 14.6% ญี่ปุ่น 122.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.6% สัดส่วน 14.5% เวียดนาม 78.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.6% เป็นต้น

ที่มา : https://www.naewna.com/business/589094

ธุรกิจออสเตรเลีย เล็งลงทุนการเกษตรในเวียดนาม

ธุรกิจท้องถิ่นในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของประเทศออสเตรเลีย ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมเทคโนโลยีการเกษตร ตลอดจนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในเวียดนาม เศรษฐกิจเวียดนามมีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เป็นที่น่าจับตามองสำหรับบริษัทต่างๆ ทั้งนี้ Karla Lampe ผู้อำนวยการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและส่งเสริมการตลาด กล่าวที่ประชุมออนไลน์ ประเด็นสำรวจโอกาสทางธุรกิจในเวียดนาม พบว่าเวียดนามมีข้อได้เปรียบของประชากรและการยกระดับของผู้ที่มีรายได้ปานกลาง ได้สร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับกิจการออสเตรเลียมากขึ้น อีกทั้ง เวียดนามยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 9 ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยธุรกิจในรัฐนิวเซาท์เวลส์ให้ความสำคัญกับการเกษตร อาหารและเครื่องดื่มเป็นลำดับสูงสุดสำหรับการลงทุนในเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/australian-businesses-interested-in-agritech-in-vietnam/203572.vnp

เวียดนามเผยสถานประกอบการซบหนัก เหตุโควิด-19

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่ามีสถานประกอบการหยุดกิจการ 40,323 แห่งในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในทางตรงข้ามแล้วนั้น ธุรกิจจดทะเบียนรายใหม่ 29,300 แห่ง ลดลง 1.4% นักเศรษฐศาสตร์มองว่าตัวเลขดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความกังวล เนื่องจากนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาที่จำนวนธุรกิจถอนตัวออกจากตลาดได้แซงหน้าจำนวนธุรกิจจดทะเบียนใหม่ ทั้งนี้ ตามรายงานของอาหารค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม เผยว่าการระบาดของไวรัส ก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงลบหลายประการ โดยธุรกิจส่วนใหญ่ 87.2% ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งด้านการเข้าถึงลูกค้า กระแสเงินสดและพนักงาน ตลอดจนประชากรในวัยทำงานกว่า 1.1 ล้านคนต้องตกงานในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 12,100 คน เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/covid-19-causes-alarming-withdrawal-rate-from-local-market-859312.vov

ธุรกิจทอเสื่อเพิ่มรายได้เสริมให้ครอบครัวในเมืองตะด้าอู้

ชาวเมืองตะด้าอู้หารายได้เสริมจากธุรกิจทอเสื่อธินฟู่ ซึ่งชาวเมียนมาส่วนใหญ่นิยมใช้เสื่อทินฟู่เป็นเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน วัตถุดิบหลักที่ใช้ผลิตจะใช้ต้นอ้อยดิบในการทอจากเมืองปันตานอว์ การทอสื่อหนึ่งผืนจะได้รับค่าแรง 2,500 จัต แม้ค่าจ้างจะน้อย แต่หญิงสาวในเมืองก็มีรายได้พิเศษเนื่องจากเป็นธุรกิจดั้งเดิมของท้องถิ่น ส่วนราคาขายจะอยู่ที่ราคา 15,000 จัตต่อผืน เสื่อธินฟู่มีหลายขนาด ขนาดใหญ่สุดคือ 7 ฟุต นอกจากนี้เสื่อที่ใช้ในการนั่งสมาธิยังขายได้ในราคาถึง 3,000 จัตต่อผืน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/mat-weaving-business-earns-extra-family-income-in-tada-u/

“ฮานอย” ตั้งเป้าธุรกิจกว่า 900 แห่งเข้าไปในอุตสาหกรรมสนับสนุน

ตามแผนของคณะกรรมการประชาชนของเมือง ภายใต้คำสั่ง 49 / KH-UBND ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งเป้าหมายในประเด็นการพัฒนาโครงการอุตสาหกรรมสนับสนุนในท้องถิ่น ปี 2564 โดยแผนงานระบุว่าอุตสาหกรรมสนับสนุน มีสัดส่วน 16% ของมูลค่าการผลิตทั้งหมดของภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปประจำเมืองฮานอย อีกทั้ง ยังกำหนดภารกิจเพื่อช่วยในการส่งเสริมอุตสาหกรรมสนับสนุน เช่น การเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจกับซัพพลายเออร์ในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนสนับสนุนองค์กรต่างๆ ในการนำระบบบริหารธุรกิจและการผลิตขั้นสูงมาใช่ในการทำธุรกิจ รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมการวิจัยและพัฒนา (R&D) และการถ่ายทอดทางเทคโนโลยี

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/911299/ha-noi-strives-to-have-900-firms-in-supporting-industries.html

ผู้เชี่ยวชาญประเมินศักยภาพของเวียดนามในการดึงดูดธุรกิจระดับโลก

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าภาคการลงทุนจากต่างประเทศมีส่วนสำคัญต่อการผลักดันทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม อีกทั้ง เวียดนามคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าสนใจแก่นักลงทุนต่างชาติ สาเหตุมาจากเม็ดเงินลงทุนโดยตรงตากต่างประเทศจาก 24.1 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2558 ขึ้นมาแตะ 38 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 ซึ่งตัวเลขเม็ดเงินทุนในปี 2563 อยู่ที่ 28.53 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ คุณ Do Nhat Hoang ผู้อำนวยการหน่วยงานการลงทุนจากต่างประเทศ กล่าวว่าการเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ทั้งความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP), ความตกลงเขตการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (EVFTA) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) นอกจากนั้น ยังได้ย้ำถึงความสำคัญของการดึงดูดโครงการทางด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเอไอ บล็อกเชนและฟินเทค ตลอดจนการฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/experts-consider-how-vietnam-can-attract-greater-investment-from-global-firms-845168.vov

สนง.ส่งเสริมการค้าเวียดนามจับมืออาลีบาบา ผลักดันธุรกิจผ่านช่องทางส่งออกออนไลน์

สำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนาม (Vietrade) และเว็บไซต์อาลีบาบา (Alibaba) ที่เป็นแพลต์ฟอร์มอีคอมเมิร์ซในระดับโลก แบบ B2B ของกลุ่มบริษัทอาลีบาบา ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมธุรกิจเวียดนามในการยกระดับการส่งออกออนไลน์และจัดตั้งอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ ซึ่งภายใต้การลงนามบันทึกความเข้าใจนั้น ทางอาลีบาบาจะให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคสำหรับหน่วยงานส่งเสริมการค้าและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ของเวียดนาม ในขณะเดียวกัน สำนักงานส่งเสริมการค้าได้มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับอาลีบาบา เพื่อปรับปรุงการเปลี่ยนแปลงโดยใช้เทคโนโลยีดิจิตอลและเพิ่มขีดความสามารถในด้านอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ ตลาดอีคอมเมิร์ซของเวียดนามในปี 2563 เติบโต 18% ด้วยมูลค่า 11.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าขยายตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่เวียดนามก็ยังเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีอัตราการเติบโตของอีคอมเมิร์ซเป็นตัวเลขสองหลัก

ที่มา : https://vov.vn/en/economy/vietrade-alibabacom-partner-to-help-firms-with-online-export-843718.vov