บริษัทท้องถิ่นของเมียนมา เข้าซื้อ Puma Energy ของ Trafigura เพื่อขยายธุรกิจพลังงานในประเทศ

วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา Puma Energy บริษัทลูกในเมียนมาของ บริษัท Trafigura จากสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนด้านการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก อีกทั้งยังเป็นซัพพลายเออร์หลักด้านเชื้อเพลิงการบินในเมียนมา ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อขายหุ้นหุ้น Puma Energy Asia Sun (PEAS) และ National Energy Puma Aviation Services (NEPAS) ในเมียนมาให้กับบริษัทเอกชนในท้องถิ่นเพื่อดำเนินการขายเชื้อเพลิงการบินในประเทศแทน โดย NEPASC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Puma Energy จากสิงคโปร์และ Myanmar Petrochemical Enterprise ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ได้ดำเนินธุรกิจเชื้อเพลิงเครื่องบินมาในประเทศ มาตั้งแต่ปี 2558

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/trafiguras-puma-energy-to-sell-myanmar-business-to-local-private-company/#article-title

“สิงคโปร์-สปป.ลาว” กระชับความสัมพันธ์ด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อมและดิจิทัล

เดอะสเตรตส์ไทมส์ (The Straits Times) รายงานว่าประเทศสิงคโปร์และสปป.ลาว กำลังยกระดับความร่วมมือในสาขาใหม่ ได้แก่ พลังงาน ดิจิทัล ความยั่งยืนและการปกป้องสิ่งแวดล้อม เนื่องจากครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปี ทั้งนี้ นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ และนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) จำนวน 4 ฉบับ พิธีลงนามในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นของความร่วมมือเพื่อโครงข่ายไฟฟ้าระดับภูมิภาค พลังงานหมุนเวียนและการเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับการค้าไฟฟ้าข้ามพรมแดน สิ่งนี้จะข่วยส่งเสริมการค้าไฟฟ้าข้ามพรมแดนในภูมิภาคและทำให้ประเทศต่างๆ ร่วมกันลดคาร์บอน ในขณะเดียวกันก็สร้างงานและยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Singapore189.php

บ.ญี่ปุ่น เข้าซื้อหุ้น 35.1% ในบ.พลังงานเวียดนาม

สำนักข่าวนิกเคอิ (Nikkei) เปิดเผยว่าบริษัทผลิตไฟฟ้าของญี่ปุ่น JERA Co., Inc ลงนามในข้อตกลงที่จะซื้อหุ้น 35.1% ของบริษัทเวียดนาม Gia Lai Electric Joint Stock Company (GEC) ด้วยการตอบสนองความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการลดการปล่อยคาร์บอน ทั้งนี้ บริษัทญี่ปุ่น JERA ถือเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Tokyo Electric Power และ Chubu Electric Power ที่จะเข้ามาลงทุน 15 พันล้านเยน (112 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในบริษัทพลังงานหมุนเวียนของเวียดนาม โดยการซื้อหุ้นในครั้งนี้ ทางบริษัท JERA ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 5,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2568

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/japanese-firm-buys-351-stake-at-vietnams-power-company/235754.vnp

“สุพัฒนพงษ์” แจงสภาฯ ไทย รั้งอันดับ6 ใน8ประเทศอาเซียน ราคาพลังงานสูง

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานตอบกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาฯ ต่อประเด็นปัญหาราคาค่าน้ำมันแพง ตั้งถามโดยนายกิตติกร โลห์สุนทร ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย  โดยยอมรับว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและความขัดแย้งของประเทศมหาอำนาจมีความล่มแหลมและอาจนำไปสู่วิกฤตได้ อย่างไรก็ดีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลได้คำนึงถึงและตระหนักต่อการแก้ไขปัญหา ทั้งการใช้กองทุนน้ำมันเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซล โดยปัจจุบันใช้กกองทุนไปแล้ว 1.5หมื่นล้านบาท และยังเตรียมที่จะกู้เงินอีก 2-3หมื่นล้านบาทเพื่อดำเนินการต่อ เบื้องต้นอยู่ในกระบวนการกู้เงิน และเชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหา

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/politics/987576

กัมพูชา สปป.ลาว ให้คำมั่นหนุนภาคพลังงาน

กัมพูชาและสปป.ลาวตกลงที่จะกระชับความร่วมมือในภาคพลังงาน เนื่องจากกัมพูชานำเข้าพลังงานหมุนเวียนจากลาวในปัจจุบัน ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นในการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่ Suy Sem และ Daovong Phonekeo ถ้อยแถลงของกระทรวงกล่าวว่าในการประชุม ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งและขยายความร่วมมือในภาคพลังงาน ทั้งกรอบทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์ และแลกเปลี่ยนการศึกษาสำหรับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำของทั้งสองประเทศ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำดอนสะโฮงและภาคกลางตอนล่าง 2 ในอนาคต แก้ว รัตนนัค อธิบดีการไฟฟ้าของกัมพูชา (EDC) ระบุว่า ไฟฟ้าที่นำเข้าจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำของลาวมีส่วนทำให้พลังงานหมุนเวียนในกัมพูชาเพิ่มขึ้น ภายใต้ข้อตกลงที่ลงนามในปี 2562 กัมพูชาซื้อไฟฟ้า 2,400 mW จากสปป.ลาว โดยระยะแรกเริ่มในปี 2567 ตามด้วยระยะที่สอง ระยะที่สาม และระยะที่สี่ในปี 2568, 2569 และ 2570 ตามลำดับ ข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยผลักดันภาคพลังงานของสองประเทศให้เป็นภาคอุตสาหกรรมที่ใหญ่ขึ้นและมีผลต่อค่าครองชีพของประชาชนและภาคเศรษฐกิจโดยรวม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50980061/cambodia-laos-pledge-to-boost-energy-sector/

กัมพูชามองรถยนต์ไฟฟ้าหนทางประหยัดการใช้พลังงานในประเทศ

แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีการบันทึกจำนวนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จดทะเบียนในกัมพูชา แต่ทางการกัมพูชากลับสนใจและกระตือรือร้นที่จะใช้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายประหยัดพลังงานภายในประเทศ โดยกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชา กำลังร่างนโยบายอนุรักษ์พลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งได้กล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคาดว่าจะทำการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันและมีส่วนร่วมในการปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วยการลดการปล่อยก๊าซ แต่ถึงอย่างไรสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ที่ชาร์จรถ EV ในสถานที่สาธารณะก็ถือเป็นปัจจัยที่ต้องพัฒนาหากต้องการที่จะผู้คนหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกคำสั่งเกี่ยวกับการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มพิเศษ สำหรับการนำเข้ารถยนต์ EV จากอัตราภาษีนำเข้าเดิมที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 30 ลดลงเหลือร้อยละ 10 เป็นการสนับสนุนภาคประชาชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50950405/cambodia-looks-to-electric-vehicles-for-energy-efficiency/

EDF พักโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำในเมียนมา

Electricite de France SA (EDF) หนึ่งในบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปสั่งเบรคโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทค้าขายสินค้าอุปโภค-บริโภคจากญี่ปุ่นอย่าง Marubeni ซึ่งการเบรคโครงการมีผลจากการรัฐประหารเมื่อเดือนที่แล้ว Marubeni เป็นกลุ่มที่ผลักดันให้สร้างสถานีไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่บนแม่น้ำเชวลี (Shweli) ในรัฐฉาน รัฐบาลฝรั่งเศสเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน EDF บริษัทได้วางแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 671 เมกะวัตต์ภายในปี 2569 ด้วยต้นทุนประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ทำให้เป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดโครงการหนึ่งในเมียนมา EDF ได้แจ้งว่าเพื่อเป็นการเคารพสิทธิมนุษยชนในเมียนมาจึงได้ระงับโครงการไว้ก่อน นอกจากนี้ยังปรึกษากับรัฐบาลฝรั่งเศสและสหภาพยุโรปเพื่อเผ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด Marubeni ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในโครงการรวมถึงขนาดของการลงทุน ซึ่งในการแถลงการล่าสุดบริษัทจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างเหมาะสม แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้ประเมินทิศทางในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/marubeni-involved-hydropower-project-in-myanmar-to-be-frozen

สปป.ลาวมอบสัมปทาน 25 ปีให้ บริษัท จีนจัดการ Power Grid

Électricité du Laos Transmission Company Ltd.  ในนามตัวแทนรัฐบาลสปป.ลาวและ China Southern Power Grid Company ได้ลงนามในข้อตกลงสัมปทาน 25 ปีซึ่งอนุญาตให้ บริษัท สร้างและจัดการโครงข่ายไฟฟ้ารวมถึงการส่งออกไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในปัจจุบันและหนี้สินจำนวนมหาศาลทำให้รัฐบาลลาวไม่มีความสามารถในการจัดการและดำเนินการเครือข่ายสายไฟฟ้า ดังนั้นรัฐบาลจึงตัดสินใจอนุญาตให้ชาวจีนซึ่งมีคามแข็งแกร่งด้านการเงิน ความสามารถทางเทคโนโลยีและกำลังคนเข้ามารับช่วงต่อเพื่อทำให้เกิดการบริหารจัดพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : https://www.voanews.com/east-asia-pacific/laos-grants-25-year-concession-chinese-company-manage-power-grid

ธนาคารโลกให้เงินทุน 86.3 ล้านเหรียญ เพื่อส่งเสริมโครงการประหยัดพลังงานในเวียดนาม

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ตามข้อมูลของธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่าเงินทุน 8.3 ล้านเหรียญสหรัฐจากทั้งหมด 11.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ถูกนำไปใช้ในโครงการภาคเอกชน เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการดำเนินโครงการประหยัดพลังงาน ซึ่งธนาคารโลกในนามกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (GCF) ได้ร่วมลงนามกับธนาคารกลางเวียดนาม ด้วยมูลค่า 11.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อมุ่งส่งเสริมตลาดทางการเงินเชิงพาณิชย์และโครงการประหยัดพลังงานในเวียดนาม ทั้งนี้ โครงการในครั้งนี้ ยังให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เพื่อหาแนวทางกำหนดนโยบายและควบคุมกฎระเบียบที่เข็มงวดในการส่งเสริมตลาดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/wb-funded-us-863-million-to-support-energy-efficiency-projects-in-vietnam-29000.html

ประสิทธิภาพด้านพลังงานถือเป็นส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจกัมพูชาในอนาคต

เนื่องจากความต้องการพลังงานของกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีผู้เชี่ยวชาญจึงเรียกร้องให้มีการพัฒนาและดำเนินนโยบายที่ชัดเจน ซึ่งสนับสนุนให้ทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมมีส่วนร่วมในการฝึกฝนการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม โดยคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของกัมพูชาในระหว่างปี 2019-2040 ซึ่งคาดว่าการใช้พลังงานหลักทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากการคาดการณ์ความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกัมพูชาสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศระบุว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการนำกัมพูชาไปสู่สังคมสถานะพลังงานสะอาด

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50783204/achieving-energy-efficiency-crucial-to-kingdoms-economy/