EIU ชี้ ‘เวียดนาม’ พิสูจน์ให้เห็นถึงการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ

จากการจัดอันดับประจำปีของ Economist Intelligence Unit (EIU) ระบุว่าอันดับของเวียดนามเลื่อนขึ้น 12 อันดับจากการจัดอันดับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ วัดโดยใช้ตัวชี้วัด 91 ตัวชี้วัดที่สำคัญ รายงานดังกล่าวได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของประเทศเวียดนาม ไทยและอินเดียที่เป็นประเทศในเอเชียที่มีความก้าวหน้าในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ทั้งนี้ ประเทศไทยเลื่อนขึ้น 10 อันดับ และอินเดียเลื่อนขึ้น 6 อันดับ ในขณะที่สิงคโปร์อยู่ในอันดับต้นๆ ของการจัดอันดับในครั้งนี้ นอกจากนี้ หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FIA) เปิดเผยว่ามีจำนวน 750 โครงการใหม่ที่ได้รับใบอนุญาตการลงทุน เป็นมูลค่ากว่า 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 65.2% และ 11.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-shows-significant-improvement-in-business-environment-eiu/253531.vnp

“เมียนมา” เผยราคาเมล็ดมัสตาร์ดสูงขึ้นในตลาดมัณฑะเลย์

คุณ U Soe Win Myint เจ้าของศูนย์ค้าส่งในเมืองมัณฑะเลย์ เปิดเผยว่าราคาเมล็ดมัสตาร์ด (Mustard Seeds) ในปีที่แล้ว อยู่ที่ 3,200 จั๊ตต่อ Viss แต่ในปัจจุบันราคาขยับเพิ่มสูงขึ้นที่ 5,100 จั๊ตต่อ Viss และการค้าขายเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการจากประเทศอินเดียเพิ่มสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้เกษตรกรชาวเมียนมาจึงควรขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ที่เป็นเนินเขา นอกจากนี้ การเพาะปลูกเมล็ดมัสตาร์ดส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณภาคเหนือและภาคใต้ของรัฐฉาน รัฐกะฉิ่น รัฐกะยาและภาคซะไกง์ตอนบน จากนั้นจะถูกขายไปยังตลาดมัณฑะเลย์

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mustard-seed-fetching-higher-prices-marketable-in-mandalay/#article-title

“ราคาข้าวเวียดนาม” ยังคงพุ่งสูงขึ้นในตลาดโลก

ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนาม ปรับตัวเพิ่มสูงที่สุดในตลาดโลก นับตั้งแต่เดือน ส.ค.2565 แซงหน้าข้าวไทยที่อยู่ระดับ 15-27 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และอินเดียที่ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และเมื่อปีที่แล้ว ปริมาณการส่งออกข้าวของเวียดนาม 7.1 ล้านตัน สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกข้าวลดลงมากกว่า 20% ในเดือนแรกของปีนี้ แต่ราคาส่งออกข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยอยู่ที่ 519 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในช่วง 2 เดือนแรกของปี ทั้งนี้ สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) ระบุว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ในปัจจุบัน อยู่ที่ 463 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบปีที่แล้ว นอกจากนี้ สถานการณ์การส่งออกข้าวของเวียดนามเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากซัพพลายเออร์ต้นทุนต่ำรายอื่นๆ เช่น อินเดียและปากีสถาน รวมถึงข้อจำกัดของการกระจายตลาด

ที่มา : https://hanoitimes.vn/vietnams-rice-prices-stay-highest-in-world-market-323203.html

ราคาถั่วดำและถั่วแระ พุ่ง ! จากความต้องการของต่างประเทศที่สูงขึ้น

หอการค้าแห่งภูมิภาคย่างกุ้ง เผย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ราคาของถั่วแระอยู่ที่ 1,930,000 จัตต่อตัน ในขณะที่ราคาถั่วดำอยู่ที่ 1,762,000 จัตต่อตัน แต่ ณ ปัจจุบัน (25 กุมภาพันธ์ 2566) ความต้องการจากตลาดจีนและอินเดียเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาถั่วแระขยับขึ้นเป็น 2,126,500 จัตต่อตัน ส่วนราคาถั่วดำขยับขึ้นเป็น 1,860,000 จัตต่อตัน โดย 10 เดือนที่ผ่านมาในปีงบประมาณปัจจุบัน 2565-2566 (เดือนเมษายน 2565 ถึง เดือนมกราคม 2566) เมียนมามีรายได้จากการส่งออกถั่วทั้งหมด 1.5 ล้านตัน มีมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นการส่งอออกถั่วดำ 595,886.762 กิโลกรัม (489.688 ล้านดอลลาร์) และถั่วแระ 185,505.772 กิโลกรัม (144.611 ล้านดอลลาร์) ที่เหลือเป็นถั่วชนิดอื่นๆ โดยถั่วดำและถั่วแระส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปยังอินเดียและจีนเป็นหลัก

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/prices-of-black-grams-pigeon-peas-on-upward-trajectory-amid-robust-foreign-demand/#article-title

ในช่วงเดือน ม.ค. การค้าระหว่าง กัมพูชา-อินเดีย ขยายตัวแตะ 37 ล้านดอลลาร์

ในเดือนมกราคม 2023 การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและอินเดียมีมูลค่ารวมกว่า 37 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต คิดเป็นการส่งออกของกัมพูชาไปยังอินเดียมูลค่ารวม 22 ล้านดอลลาร์ หลังกระทรวงพาณิชย์และสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำกัมพูชา ได้ยกระดับความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ โดยในปัจจุบันกัมพูชาและอินเดียมีความพยายามเป็นอย่างมากในการผลักดันการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคี ซึ่งเน้นว่าข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยยกระดับการค้า การลงทุน และความร่วมมือในภาคส่วนอื่นๆ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501243610/cambodia-india-trade-reaches-37m-in-january/

“นายกรัฐมนตรีเวียดนาม” ร้องขอให้มีการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว

นาย ฝ่าม มิงห์ จิ๋ง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ขอความร่วมมือกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันและศึกษาแนวทางในการหาทางออก เพื่อรักษาความมีเสถียรภาพของตลาดและราคาข้าว รวมถึงปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกร หลังจากอินเดียประกาศว่าจะจำกัดการส่งออกข้าว ทั้งนี้ สำนักงานรัฐบาลเวียดนาม เพิ่งออกเอกสารปฏิบัติตามคําสั่งเลขที่ 6263/VPCP-KTTH เกี่ยวกับข้อจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดียและผลกระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออกข้าวของเวียดนาม ด้วยเหตุนี้ อินเดียจึงออกคำสั่งห้ามส่งออกข้าวหัก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. ด้วยอัตราภาษีส่งออก 20% สำหรับข้าวขาวและข้าวกล้อง คิดเป็น 60% ของการส่งออกข้าวทั้งหมดของอินเดีย เนื่องจากรัฐบาลอินเดียมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ลดลงและภาวะราคาอาหารเฟ้อ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1338276/prime-minister-asked-to-stabilise-rice-price.html

อาเซียน-อินเดีย ชูความตกลงAITIGAเพิ่มการค้า

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 35 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และการประชุมผ่านระบบทางไกล ที่ประชุมได้เร่งรัดให้ประเทศสมาชิกดำเนินกระบวนการภายในเพื่อรับรองเอกสารขอบเขตการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-อินเดีย (ASEAN-India Trade in Goods Agreement : AITIGA) พร้อมทั้งเห็นชอบข้อเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-อินเดีย ในการรับรองขอบเขตการทบทวนความตกลง AITIGA และจัดตั้งคณะกรรมการร่วม (Joint Committee: JC) เพื่อกำกับดูแลการทบทวนความตกลงดังกล่าว

ที่มา : https://www.innnews.co.th/news/economy/news_360270/

เมียนมาส่งออก “หมาก” ไปอินเดีย ลดฮวบ

ผู้ค้าหมากชาวเมียนมา เผย การส่งออกหมากของเมียนมาไปยังอินเดียลดลงอย่างมากในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหมากจะถูกส่งออกผ่านเขตย่างกุ้ง พะโค และมัณฑะเลย์ไปยังอินเดีย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการค้าชายแดนระหว่างเมียนมาและอินเดียลดลงอย่างต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและผลกระทบของโควิด-19 โดยในปีก่อนสามารถส่งออกได้ประมาณ 400-500 ถุง แต่ตอนนี้ลดลงเหลือ 300 ถุง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวเพิ่มส่งผลให้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้นจาก 3,600 จัต เป็น 4,500 จัตต่อถุง ปัจจุบันราคาหมากโดยทั่วไปอยู่ที่ 4,300-4,900 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ลดลงเมื่อเทียบกับราคาของปีก่อนที่สูงถึง 5,000-6,000 จัตต่อ viss ขณะเดียวกัน การนำเข้าหมากจากไทยเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคาลดต่ำลง

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-areca-nuts-exports-to-india-plummet/

2021 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังอินเดียมูลค่าแตะ 113.87 ล้านดอลลาร์

Ly Thuch รองประธาน Cambodian Mine Action and Victim Assistance Authority (CMAA) กล่าวในงานครบรอบ 10 ปีหอการค้าอินเดีย-กัมพูชา (INCHAM) ซึ่งมี Sandeep Majumdar ประธาน INCHAM, สมาชิกและแขกรับเชิญภายในงาน ว่าการส่งออกของกัมพูชาไปยังอินเดียมีมูลค่าอยู่ที่ 113.87 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 99 เมื่อเทียบเป็นรายปีจาก 57.17 ล้านดอลลาร์ ในปี 2020 ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและอินเดีย โดยเสริมว่าด้วยเสถียรภาพทางการเมือง ภาษีนิติบุคคลต่ำ ระบบเศรษฐกิจแบบเปิด แรงงานอายุน้อย และไม่มีการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชาและอินเดียปรับตัวเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501055912/cambodias-exports-to-india-clocked-in-at-113-87-million-in-2021/

อินเดียให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนา 4 แห่งในสปป.ลาว

รัฐบาลอินเดียได้มอบเงินจำนวน 184,677 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับโครงการสี่โครงการที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านสุขภาพ การค้า และการศึกษาในสปป.ลาว เงินทุนนี้จัดทำขึ้นภายใต้โครงการ Quick Impact ของกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขง-คงคา อีกโครงการหนึ่งที่จะได้รับการสนับสนุนคือโครงการปรับปรุงการผลิตกาแฟออร์แกนิกและการกระจายความหลากหลายของเศรษฐกิจในชนบทและการเสริมสร้างศักยภาพของชาวบ้านในหมู่บ้านน้ำวัง อำเภอเวียงภูคา จังหวัดหลวงน้ำทา รัฐบาลอินเดียให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับสปป.ลาวภายใต้กรอบความร่วมมือระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสปป.ลาว และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่น นับตั้งแต่ก่อตั้งโครงการ Quick Impact ในปี 2555 ลาวได้อนุมัติโครงการ 11 โครงการ มูลค่ารวม 532,677 เหรียญสหรัฐ โครงการดังกล่าวช่วยส่งมอบผลลัพธ์ที่จับต้องได้ซึ่งช่วยปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพของผู้คนทั่วทั้งอนุภูมิภาค ในประเทศลาว กัมพูชา เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Indai_65_22.php