เศรษฐกิจเวียดนามปีนี้คาดจะเติบโต 4.8-5.0% ต่ำกว่าเป้าหมายอัตราการเติบโตใหม่ 6.0% ที่รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าไว้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสที่ 4 จะเติบโตอยู่ที่ระดับ 6.3-7.0% และส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตอยู่ที่ระดับ 4.8-5.0% ในปีนี้ โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจเวียดนามเร่งตัวขึ้นในไตรมาสที่ 4 คือภาคการส่งออกที่เริ่มขยายตัว และการเร่งการเบิกจ่ายการลงทุนภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ปัญหาการต่ออายุหุ้นกู้เดิมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจเวียดนามไปจนถึงปลายปี 2567

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ธนาคารกลางเวียดนามจะคงดอกเบี้ยนโยบายไปอีก 3 เดือน ท่ามกลางวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่ยังไม่สิ้นสุด แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของเวียดนามจะลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย 4.5% แต่แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จะส่งผลให้เกิดสถานการณ์เงินทุนไหลออกและเป็นปัจจัยกดดันให้ค่าเงินดองอ่อนค่า จึงมองว่าธนาคารกลางเวียดนามจะรอดูสถานการณ์ต่อไปและจะยังไม่ปรับดอกเบี้ยนโยบายลงในระยะ 3 เดือน ข้างหน้า

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ามูลค่าการส่งออกไทยไปเวียดนามจะขยายตัวขึ้น 2.7%YoY ในไตรมาสที่ 4 และส่งผลให้มูลค่าการส่งออกทั้งปี 2566 หดตัว -11.7%YoY โดยการขยายตัวของการส่งออกในไตรมาสที่ 4 จะเป็นผลพวงจากฐานต่ำและราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งน้ำมันสำเร็จรูปเป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 2 ของไทยไปเวียดนาม

นอกจากนี้ ปัจจัยกดดันการส่งออกไทยไปเวียดนามในไตรมาสที่ 4 ส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทไทยไปลงทุนในโครงการปิโตรคอมเพล็กซ์เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกในเวียดนาม ซึ่งจะเริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ และคาดว่าจะทำให้การส่งออกเม็ดพลาสติกซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับที่ 4 ของไทยไปเวียดนาม หดตัวอย่างต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2567

ที่มา : https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/economy/Pages/Vietnam-EB4020-12-10-2023.aspx

‘AMRO’ คาดเศรษฐกิจเวียดนาม ปี 66 โต 4.5%

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (AMRO) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2566 จะขยายตัว 4.7% และจะเร่งตัวขึ้นที่ 6% ในปี 2567 หลังจากชะลอตัวอย่างมากในไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจเวียดนามก็กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องมาจากได้รับสัญญาณจากคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นทางธุรกิจฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนามในระยะสั้นยังคงมีความเปราะบาง เป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มการเติบโตในระยะปานกลาง

ที่มา : https://vir.com.vn/vietnams-economic-growth-projected-at-47-per-cent-in-2023-105916.html

‘หอการค้ายุโรป’ ชี้เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตสดใส

สภาหอการค้าสหภาพยุโรป (EuroCham) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BCI) ประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยูที่ระดับ 45.1 จากระดับ 43.5 ในไตรมาสที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีมุมมองเชิงบวกต่อสภาพทางเศรษฐกิจ แต่ก็ยังนับเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกันที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 รวมไปถึงภาคธุรกิจยังคงระมัดระวัง โดยมีกลุ่มตัวอย่างเพียง 22% ที่วางแผนจะขยายการดำเนินกิจการในไตรมาสที่ 4 ทั้งนี้ เมื่อประเมินความน่าดึงดูดการลงทุนทั่วโลก พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 63% มองว่าเวียดนามติดหนึ่งใน 10 อันดับของจุดหมายปลายทางการลงทุนจากต่างประเทศ และกลุ่มตัวอย่างกว่าครึ่งหนึ่งวางแผนที่จะลงทุนในเวียดนามภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ดี กลุ่มตัวอย่าง 59% เผชิญกับปัญหาจากกฎเกณฑ์ อุปสรรคในการขอใบอนุญาต และข้อกำหนดด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงานที่เข้มงวดสำหรับแรงงานต่างด้าว

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/bright-outlook-for-vietnams-economy-eurocham-report/

‘ตลาดรถยนต์เวียดนาม’ ร่วงมาอยู่อันดับ 5 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สมาพันธ์อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอาเซียน (AAF) รายงานว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อินโดนีเซียเป็นผู้นำตลาดที่มียอดขายรถยนต์ 505,000 คัน เพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามมาด้วยไทย มียอดขายรถยนต์ 406,000 คัน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ตามลำดับ ทั้งนี้ จากข้อมูลของคนในอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าปัจจัยภายนอก ได้แก่ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และอัตราเงินเฟ้อทั่วโลก ได้ส่งผลกระทบต่อการบริโภครถยนต์ในเวียดนาม รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและกำลังซื้อที่มีผลต่อยอดขายรถยนต์ลดลง นอกจากนี้ เมื่อพิจารณายอดขายรถยนต์ในเดือน ส.ค. พบว่าปริมาณการขาย 22,540 คัน ลดลง 27% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นผลมาจากผู้บริโภคยังคงเข็มงวดในการจับจ่ายใช้สอย ท่ามกลางปัญหาทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-automobile-market-slides-to-fifth-in-southeast-asia/269345.vnp

‘เวียดนาม’ ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลก

จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารโลก (WB) ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าเศรษฐกิจเวียดนามมีเม็ดเงินทุนไหลเข้าประเทศและการเบิกจ่ายเงินทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าเวียดนามยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในเวียดนาม ถึงแม้ว่าเผชิญกับความไม่แน่นอนทั่วโลก โดยเฉพาะนักลงทุนรุ่นเก่า ได้แก่ สิงคโปร์ จีนและญี่ปุ่น มีความไว้วางจและความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจในเวียดนามมากขึ้น ทั้งนี้ นาย ดอนแลม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท VinaCapital Group กล่าวว่าจากการสำรวจเบื้องต้น พบว่านักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจกับการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการยกระดับศักยภาพของภาคการบริโภคในเวียดนาม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ นับเป็นโอกาสที่ดีของเวียดนามในการดึงดูดเงินทุนไหลเข้าประเทศในระยะยาวมากขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-attractive-to-foreign-investors-despite-global-uncertainties-post1051514.vov

‘เวียดนาม’ โชว์ 9 เดือนแรก ลงทุนต่างประเทศ พุ่ง 4.6%

หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามลงทุนในต่างประเทศ มูลค่าประมาณ 416.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี และจากเม็ดเงินลงทุนดังกล่าว เงินลงทุนที่ธุรกิจจดทะเบียน มีมูลค่ากว่า 244.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยจำนวนโครงการใหม่ 84 โครงการ คิดเป็นสัดส่วน 70.5% ของมูลค่าเงินลงทุนจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ นักลงทุนชาวเวียดนามส่วนใหญ่ลงทุนในภาคการค้าส่งค้าปลีก ด้วยมูลค่าเงินลงทุนราว 150.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  รองลงมาภาคเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ภาคการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม

ในขณะที่แคนาดาเป็นแหล่งลงทุนสำคัญที่สุดของนักลงทุนชาวเวียดนาม รองลงมาสิงคโปร์ สปป.ลาว และคิวบา

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-overseas-investment-up-46-during-nine-months/268894.vnp

‘เวียดนาม’ ทำรายได้จากการส่งออกข้าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท (MARD) เปิดเผยว่าเวียดนามทำสถิติส่งออกข้าวสูงสุดในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 6.61 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่าราว 3.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 23.1% และ 40.4% ตามลำดับ โดยเฉพาะเดือน ก.ย. เพียงเดือนเดียว เวียดนามส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ ปริมาณ 8 แสนตัน และราคาส่งออกข้าวเฉลี่ยที่ 618 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาส่งออกข้าวอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้เวียดนามมีรายได้จากการส่งออกข้าวทะลุ 495 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เป็นผู้นำเข้าข้าวจากเวียดนามรายใหญ่ที่สุดในช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ คิดเป็นสัดส่วน 40.3% ของการส่งออกข้าวทั้งหมด รองลงมาจีนและอินโดนีเซีย 13.5% และ 12.4% ตามลำดับ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1594890/viet-nam-s-rice-exports-revenue-surges-to-new-record.html