CDC อนุมัติโครงการลงทุนเพิ่ม 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 15 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติโครงการลงทุนใหม่ 3 โครงการ ด้วยเงินทุนรวม 15.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งโครงการแรกเป็น บริษัท BOLITO GARMENT CO., LTD., XIN LI AN SHOES CO., LTD. และ NEW HM KNITTING CLOTHING (CAMBODIA) CO., LTD. โดยได้กล่าวไว้ในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) โดยทั้งสามบริษัทจะลงทุนในการจัดตั้งโรงงานผลิตเสื้อผ้าในจังหวัดกันดาลและกัมปงสปือ รวมถึงจัดตั้งโรงงานผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนรองเท้าในเมืองหลวงอย่างกรุงพนมเปญ ซึ่งคาดว่าจะมีการสร้างงานในท้องถิ่นมากกว่า 3,000 ตำแหน่ง จากการจัดตั้งโครงการลงทุน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501299554/cdc-approves-three-more-investment-projects-worth-over-15-million/

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกของปี 66 ดึงดูดเม็ดเงินทุน FDI แตะ 10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศ (FIA) เปิดเผยข้อมูลเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามายังเวียดนามตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงวันที่ 20 พ.ค.66 รวมถึงการลงทุนใหม่ การปรับเพิ่มเงินลงทุนและการซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ พบว่ามีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นราว 10.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้น 10.6 จุดเมื่อเทียบกับตัวเลขในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้

ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงเป็นแหล่งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่ามากกว่า 6.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาภาคการเงินธนาคาร อสังหาริมทรัพย์และวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี ในขณะที่สิงคโปร์เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ลงทุนไปกว่า 2.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยญี่ปุ่นและจีน อีกทั้ง ฮานอย (Hanoi) เป็นเมืองที่ได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด มีมูลค่ากว่า 1.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 17.2% ของเงินลงทุนรวม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1544340/viet-nam-s-five-month-fdi-reached-nearly-us-10-86-billion.html

‘อุตฯ เมียนมา’ เผยเดือน เม.ย. ดึงดูดเม็ดเงินลงทุน 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและการบริหารจัดการของเมียนมา (DICA) เปิดเผยข้อมูลทางสถิติในเดือน เม.ย. 2566 ว่าภาคอุตสาหกรรมของเมียนมาดึงดูดเงินลงทุนกว่า 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการปรับเพิ่มเงินลงทุนจากผู้ประกอบการในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการจีนรายหนึ่งที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมของเมียนมา ด้วยมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เมียนมาดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) รวมทั้งสิ้น 1.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2565-2566 (เม.ย.-มี.ค.) การลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่า 271.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมกระจุกตัวอยู่ในสินค้าเสื้อผ้าและสิ่งทอ มีโรงงานผลิตกว่า 541 แห่งที่อยู่ภายใต้สมาคมผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-manufacturing-sector-attracts-3-7-mln-in-april/#article-title

VinaCapital มองเวียดนามยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนจากต่างประเทศ

Michael Kokalari หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุน Vinacapital กล่าวว่าการกำหนดอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไปยังเวียดนาม เนื่องจากความเป็นจริงที่ว่าแรงจูงใจทางด้านภาษีไม่ใช่สิ่งที่เป็นปัจจัยในการดึงดูดให้มีการตั้งโรงงานในเวียดนาม ตามการวิเคราะห์บ่งชี้ให้เห็นว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยง 2 ประการที่อาจมีผลกระทบต่อการไหลเข้าของ FDI ในอนาคต ดังต่อไปนี้ ประการแรก เวียดนามอาจสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันในฐานะจุดหมายปลายทาง FDI เมื่อเทียบกับประเทศอินเดีย มาเลเซียและอินโดนีเซีย ประการที่สอง คือ อัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกฉบับใหม่ที่จะลดความน่าดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ โดยจำกัดการจูงใจทางด้านภาษีแก่นักลงทุน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1541981/viet-nam-will-continue-to-be-prime-destination-for-fdi-vinacapital.html

แห่ขอบีโอไอไตรมาสแรก 1.8 แสนล้าน เพิ่ม 77% “เกาหลีใต้” ลงทุนมากสุด

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่าสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนไตรมาสแรก (ม.ค. – มี.ค.) ปี 2566 มีโครงการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 397 โครงการ เพิ่มขึ้น 9% และมีมูลค่าเงินลงทุน 185,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป เคมีภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วน ตามลำดับ

ทั้งนี้ ตัวเลข FDI ในช่วงไตรมาสแรก มีโครงการลงทุนจากเกาหลีใต้และสิงคโปร์เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีโครงการใหญ่ที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการใหม่ในปีนี้ ขณะที่ตัวเลขการลงทุนจากจีนและญี่ปุ่น แม้จะอยู่ในอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ แต่ก็เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติที่เลือกใช้ไทยเป็นฐานผลิตสำคัญในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ การออกบัตรส่งเสริม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใกล้เคียงการลงทุนจริงมากที่สุดก็เพิ่มขึ้นมากเช่นเดียวกัน โดยในไตรมาสแรก มีจำนวน 431 โครงการ เพิ่มขึ้น 25% เงินลงทุนรวม 123,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เป็นสัญญาณที่ดีว่าในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า จะมีเม็ดเงินลงทุนเกิดขึ้นจริงมากขึ้น

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1298638

4 เดือนแรกของปี กัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนมูลค่ารวม 588 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 65 โครงการ มูลค่าการลงทุนมากกว่า 588 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศจีนเป็นสำคัญ คิดเป็นกว่าร้อยละ 73.5 ของ FDI ทั้งหมดที่ได้เข้ามาลงทุนยังกัมพูชา ด้าน Chea Vuthy รองเลขาธิการ CDC กล่าวเสริมว่า FDI มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา รวมถึงก่อให้เกิดการสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น และเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยการลงทุนของจีนที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ อีกทั้งสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ไปจนถึงกัมพูชายังมีข้อตกลงการค้าเสรีในระดับทวิภาคีอีกหลายฉบับ อาทิเช่น FTA กัมพูชา-จีน, FTA กัมพูชา-เกาหลี และ RCEP

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501294135/588m-investment-projects-approved-in-four-months/

“เวียดนาม” เผย ม.ค.-เม.ย. ดึงดูด FDI เข้าประเทศ 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยข้อมูล ณ วันที่ 20 เม.ย. พบว่าเวียดนามดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) 8.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการเบิกจ่ายเงินทุน FDI มูลค่า 5.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 1.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สิ่งเหล่านี้ได้ส่งสัญญาเชิงบวกท่ามกลางความผันผวนของการลงทุนจากต่างประเทศ หลังจากมีการกำหนดภาษีเงินได้นิติบุคคลทั่วโลก (Global Minimum Tax : GMT) ที่อัตรา 15% ของกลุ่มบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีรายได้เกินกว่า 750 ล้านยูโร หรือประมาณ 829.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ณ วันที่ 20 เม.ย. 2566 โครงการที่ได้รับอนุญาตใหม่มีจำนวน 37,100 โครงการ ด้วยเงินทุนจดทะเบียนรวม 445.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการเบิกจ่ายไปแล้วกว่า 279.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 62.8% ของจำนวนเงินทุนที่จดทะเบียนโครงการใหม่ทั้งหมด

ที่มา : https://tuoitrenews.vn/news/business/20230425/foreign-investors-pledge-nearly-89bn-to-vietnam-in-janapr/72817.html

“เวียดนาม” เผย ม.ค.-ก.พ. ยอดทุนต่างชาติไหลเข้า 2.55 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 4.9%YoY

กระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนาม (MPI) เปิดเผยว่าการเบิกจ่ายเงินทุนของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนามในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 2.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อีกทั้ง จำนวนเม็ดเงินทุนจากการเบิกจ่ายในอนาคต ลดลง 38% คิดเป็นมูลค่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 เดือนเช่นเดียวกัน โดยเงินทุนข้างต้นส่วนใหญ่กว่า 70% ลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ในขณะที่ 12.8% ลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/business/vietnam-jan-feb-fdi-inflows-seen-down-49-y-y-255-billion-planning-ministry-3307936

10 เดือนของปีงบฯ 65-66 MIC ไฟเขียว 70 โครงการลงทุนในเมียนมา โกยเงินเข้าประเทศทะลุ 1.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำนักงานบริหารจัดการบริษัทและทะเบียนบริษัท (DICA) เผย 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565-2566 (เดือนเมษายน 2565 -เดือนมกราคม 2566) คณะกรรมาธิการการลงของทุนเมียนมา (MIC) ได้ตอบรับโครงการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) จำนวน 70 โครงการ ซึ่งจะลงทุนในภาคเกษตรกรรม เหมืองแร่ การผลิต ไฟฟ้า โรงแรมและการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการ สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศกว่า 1.476 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสิงคโปร์เป็นประเทศผู้ลงทุนอันดับต้น ๆ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1,157 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รองลงมาคือฮ่องกง มีมูลค่าการลงทุนกว่า 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีน มีมูลค่าการลงทุนกว่า 105.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/mic-greenlights-70-foreign-projects-worth-1-47-bln-in-ten-months/

“เวียดนาม” เผย ม.ค. ต่างชาติลงทุน FDI หดตัวลง 20%

ตามข้อมูลของหน่วยงานควบคุมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FIA) กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่ายอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเดือนมกราคม อยู่ที่ 1.69 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 80.2% ของยอดเงินทุนรวมจากต่างประเทศในเดือนมกราคม 2565 ทั้งนี้ จากข้อมูลในเดือนที่แล้ว พบว่าจำนวน 153 โครงการเป็นโครงการที่ได้ใบรับรองการจดทะเบียนการลงทุน พร้อมกับเงินทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยการลงทุนจากต่างประเทศส่วนใหญ่จะลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป รองลงมาภาคการค้าปลีกค้าส่ง และภาคการขนส่งและการก่อสร้าง ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในเวียดนามมากที่สุด ด้วยมูลค่าการลงทุน 814 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 48.3% ของเงินทุนรวมจากต่างประเทศ รองลงมาจีน เกาหลีใต้และไต้หวัน

ที่มา : https://vietreader.com/business/74014-january-fdi-down-20-per-cent-on-year.html