CNN เผย สปป.ลาวเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดของการท่องเที่ยวในปี 2566

สำนักข่าว CNN เผย สปป.ลาว ติด 1 ใน 23 ประเทศที่สมควรไปเยือนในปี 2566 ซึ่งการเปิดให้บริการของรถไฟกึ่งความเร็วสูงในปี 2565 ทำให้การเดินทางทั่วประเทศง่ายขึ้นและประหยัดเวลาในการเดินทางหลายชั่วโมงจากที่เคยใช้เวลาเกือบเต็มวันในการเดินทาง นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวสามารถที่จะเลือกสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างมากมาย เช่น ยอดเขาสูงตระหง่านของวังเวียง หรือหลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกเต็มที่ไปด้วยมรดกจากอาณานิคมของฝรั่งเศส พิธีกรรมทางพุทธศาสนาที่น่าสนใจ และความงามตามธรรมชาติ ทั้งนี้สื่อชั้นนำระดับโลกอย่าง Wanderlust และ Fodor’s ยังได้บรรจุสปป.ลาว เป็นหนึ่งในลิสต์รายชื่อเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของปี 2566

ที่มา: https://laotiantimes.com/2023/01/03/laos-is-one-of-cnns-best-destinations-to-visit-in-2023/

รถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว ก้าวสู่ปีที่ 2 .. เตรียมรับอานิสงส์จีนผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์

โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

รถไฟฟ้าความเร็วสูงจีน-สปป.ลาวก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 การขนส่งสินค้าระหว่างจีนตอนใต้กับอาเซียนน่ามีพัฒนาการคึกคักขึ้นอีก ประกอบกับสัญญาณบวกของทางการจีนในการทยอยผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ที่คาดว่าน่าจะได้เห็นการเปิดประเทศของจีนในปี 2566 จะยิ่งส่งผลบวกต่อการค้าและการท่องเที่ยวตลอดเส้นทาง

ในช่วงปีที่ผ่านมาเส้นทางนี้มีความสะดวกที่เอื้อประโยชน์ต่อการค้าระหว่างประเทศ ด้วยความร่วมมือของภาครัฐระหว่างประเทศทำให้มีความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าข้ามแดนในการตรวจปล่อยสินค้า พื้นที่รองรับการเปลี่ยนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งแผนการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเพิ่มอีกแห่งเพื่อรองรับการขนส่งด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในฝั่งของไทยในอนาคต ขณะที่ในฝั่งของภาคภาคเอกชนได้เข้ามาเป็นตัวกลางให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ทำให้การค้าด้วยรถไฟสะดวกมากขึ้น

การท่องเที่ยวด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงปี 2566 ได้อานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ของทางการจีนที่อาจจะได้เห็นการเปิดประเทศในช่วงไตรมาส 2 ปี 2566 หากนักท่องเที่ยวจีนสามารถทยอยออกมาได้จะสร้างรายได้เพิ่มเติมให้แก่การท่องเที่ยว สปป.ลาวคิดเป็นไม่น้อยกว่า 0.1%-0.4% ของ GDP ทั้งนี้ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลวงพระบางโดยรถไฟฟ้าความเร็วสูง 335,794 คน (คิดเป็น 85% ของนักท่องเที่ยวที่มาหลวงพระบาง ซึ่งอีก 15% เดินทางมาเที่ยวด้วยเครื่องบิน) โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวไทยและชาวสปป.ลาว อย่างไรก็ดี นับจากรถไฟความเร็วสูงเปิดใช้งานก็ได้รับความนิยมจากการเป็นเส้นทางใหม่ที่รวดเร็วกว่ารถยนต์และประหยัดกว่าการเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งการเปิดประเทศของจีนอาจทำให้การท่องเที่ยว สปป.ลาว กลับมาใกล้เคียงก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งในเวลานั้นจีนเป็นนักท่องเที่ยวลำดับที่ 2 มีนักท่องเที่ยวประมาณ 1 ล้านคน และหลวงพระบางก็เป็นหนึ่งในปลายทางที่สำคัญ

ความรวดเร็วและต้นทุนการขนส่งที่ลดลงกว่า 30% หนุนให้การค้าผ่านรถไฟฟ้าความเร็วสูงทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณการขนส่งสินค้าตลอดเส้นทางในช่วงที่ผ่านมามีปริมาณ 2 ล้านตัน ขนส่งผู้โดยสารรวม 1.26 ล้านคน เป็นสินค้า สปป.ลาว ส่งไปจีน ได้แก่ ยางพารา ข้าวบาร์เลย์ มันสำปะหลัง กาแฟ แร่ ปุ๋ย และสินค้าจากจีน ได้แก่ เครื่องจักร ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ และของใช้ประจำวัน นอกจากนี้ นักธุรกิจไทยกับจีนก็หันมาใช้เส้นทางนี้มากขึ้นจากในอดีตไม่ได้รับความนิยมนักเพราะการขนส่งทางถนนมีความล่าช้าจากความคดเคี้ยวสูงชันของภูมิประเทศ โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 มูลค่าการค้ารวมระหว่างกัน 1.18 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 5.3% ของการค้ารวมผ่านแดนไปจีน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจีนเข้ามาทำตลาดในไทย 1.1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โซลาเซลล์ และผลไม้ และการส่งสินค้าผลไม้และวงจรไฟฟ้าจากไทยไปจีน 1.5 พันล้านบาท

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าพัฒนาการขนส่งระหว่างจีนกับอาเซียนมีหลายทางเลือกในการทำตลาดมากขึ้น ซึ่งทุกเส้นทางขนส่งเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะจีน-สปป.ลาว-ไทย ที่มีการเชื่อมโยงทางถนนถนนในปัจจุบัน 4 เส้นทาง ได้แก่ 1) รถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว  2) สะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 เชื่อมตรงสู่ตลาดมณฑลหยุนหนานผ่านด่านเชียงของ จ.เชียงราย-แขวงบ่อแก้ว  3) เส้นทางขนส่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 2 จ.มุกดาหาร-แขวงสะหวันนะเขต  และ 4) การขนส่งผ่านสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 3 ผ่าน จ.นครพนม-แขวงคำม่วน  และกำลังเตรียมเปิดเส้นทางขนส่งช่องทางที่ 5) ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงหรือสะพานมิตรภาพไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 5 เชื่อม จ.บึงกาฬ-แขวงบอลิคำไซ คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จพร้อมใช้งานในปี 2567

นอกจากนี้ ในการประชุม APEC 2022 ที่ผ่านมา การมาร่วมประชุมของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เน้นย้ำความร่วมมือในการสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงในฝั่งไทยที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง เพื่อให้เส้นทางนี้สามารถเปิดดำเนินงานได้ตามแผนภายในปี 2571 ซึ่งจะยิ่งทำให้การขนส่งตลอดเส้นทางสมบูรณ์ไร้รอยต่อ เป็นอีกช่องทางที่จีนตอนใต้และ สปป.ลาว สามารถใช้เป็นช่องทางเชื่อมต่อกับเส้นทางขนส่งทางทะเลที่อ่าวไทยได้อีกทางหนึ่ง ถ้าหากเส้นทางในฝั่งไทยสร้างเสร็จ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าทางรถไฟความเร็วสูงจีน-สปป.ลาว-ไทย จะลดต้นทุนค่าขนส่งลงอีกโดยเฉพาะการช่วยประหยัดเวลาขนส่งตลอดเส้นทางได้มากกว่า 70%

ที่มา : https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/economy/Pages/Railway-CH-Lao-2022-12-29.aspx

สปป.ลาว มุ่งผลักดันเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2568

จากรายงานของเวียงจันทน์ไทมส์ เผย รัฐบาลสปป.ลาว ยืนยันว่าจะได้รับเงินทุนจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศในการสนับสนุนโครงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศ ซึ่ง นายบุญคำ วรชิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของสปป.ลาว  เปิดเผยว่า สปป.ลาว คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจำนวน 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอนาคตอันใกล้นี้  ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แห่งสปป.ลาวกำหนดนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ โดยมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2568

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/12/19/laos-commits-to-zero-greenhouse-gas-emissions-by-2025/

ADB ปรับลดการเติบโต GDP ของกลุ่มประเทศอาเซียนลง

เดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เผยข้อมูล GDP ของประเทศในอาเซียนจะเติบโต 4.3% แต่ล่าสุดปรับลดลงเหลือ 4.2% นอกจากนี้ยังลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2566 จาก 4.9% ลดลงเหลือ 4.6% เนื่องจากการล็อกดาวน์เพื่อลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจีนและภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อออกไป ทั้งนี้ ADB ยังได้ประเมินอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในสปป.ลาวจะอยู่ที่ประมาณ 23% ในปี 2565 และจะลดลงเหลือ 10% ในปี 2566

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/12/16/adb-lowers-gdp-growth-for-asia-in-latest-forecast/

ปี 65 คาด นักท่องเที่ยวต่างชาติเยือน สปป.ลาว ทะลุเกิน 1 ล้านคน

จากข้อมูลของฝ่ายการตลาดการท่องเที่ยว กระทรวงสารสนเทศ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ 644,756 คนเดินทางเยือนสปป.ลาวตลอดเดือนกันยายน 65  และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 300,000 คนภายในปีนี้ นักท่องเที่ยวเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย (364,515 คน) ซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยตื่นเต้นและนิยมที่จะได้เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงสปป.ลาว-จีน และท่องเที่ยวสถานที่ยอดนิยม เช่น หลวงพระบางและวังเวียง แม้ว่าชายแดนจีนจะยังคงปิดอยู่ แต่จีนก็รั้งอันดับ 2 โดยมีนักท่องเที่ยวจีน 18,902 คน ที่เข้ามาเที่ยวสปป.ลาว โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ พุ่งถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สหรัฐตลอดเดือนกันยายน 2565 และเมื่อเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ตัวเลขนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/12/12/overseas-visitors-to-laos-could-exceed-one-million-in-2022/

การขนส่งทางรถไฟ ดันส่งออกกล้วย สปป.ลาว ไปยังจีน

คาดเกษตรกรใช้เส้นทางรถไฟ สปป.ลาว-จีน ขนส่งกล้วยจาก สปป.ลาวไปยังจีน ซึ่งจะใช้เวลาอันสั้นเพื่อให้มั่นใจว่าผลไม้จะถึงปลายทางก่อนที่ผลผลิตจะสุกงอม โดยในอดีตการขนส่งผลิตผลทางการเกษตรประสบปัญหาเนื่องจากใช้เวลานาน จากการขนส่งโดยรถบรรทุกไปยังประเทศจีน ซึ่งสินค้าจำนวนมากเน่าเสียก่อนส่งมอบ โดยการเข้ามาของเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการภายในประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการขนส่งที่ลดลง ซึ่งปัจจุบันกระทรวงเกษตรและป่าไม้กำลังเร่งสนับสนุนการเพาะปลูกผลิตผลทางการเกษตรให้มากขึ้นเพื่อลดความต้องการนำเข้าผักและผลไม้จากต่างประเทศ รวมถึงเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกให้กับประเทศอีกทางหนึ่ง โดยเกษตรกรชาวลาวสามารถขายพืชผลทางการเกษตรให้กับจีนได้มากขึ้น นับตั้งแต่มีการลงนามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลทั้งสองในปี 2012

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten2022_Railway238.php

รัฐบาล สปป.ลาว ลงนามข้อตกลงฟาร์มกังหันลมในเขตเซกองและอัตตะปือ

รัฐบาล สปป.ลาว ไฟเขียวให้ บริษัท Monsoon Wind Power Company Limited ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ขนาด 600MW ในอำเภอดังจึง จังหวัดเซกอง และอำเภอซานไซ ในแขวงอัตตะปือ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,000 เฮกตาร์ใน 25 หมู่บ้าน ด้วยเงินลงทุนรวม 930 ล้านดอลลาร์ ในโครงการดังกล่าว และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2025 โดยมีการลงนามในสัญญาสัมปทานระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง และตัวแทนจาก Monsoon Wind Power Company Limited ซึ่งได้ร่วมวางแผนและกำหนดกรอบในการดำเนินระหว่างกัน โดยฟาร์มกังหันลมถือเป็นโครงการพลังงานลมแห่งแรกใน สปป.ลาว และคาดว่าจะใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งกระแสไฟทั้งหมดจะขายให้กับเวียดนาม ระยะเวลาสัมปทานดำเนินการ 25 ปี นับจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten237_govtinks.php

เงินเฟ้อ สปป.ลาว เดือนพ.ย.65 พุ่ง 38.46%

สำนักงานสถิติแห่งสปป.ลาว เผย อัตราเงินเฟ้อของสปป.ลาว เดือนพฤศจิกายน 2565 พุ่งขึ้นเป็น 36.75%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และเพิ่มจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 36.75% ส่งผลให้ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักเนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น จากสถานการณ์ดังกล่าวพบว่า ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 55.4% เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกระทบต่อราคาของใช้จำเป็นอื่นๆ เพิ่มขึ้นไปด้วย ส่วนค่าเงินกีบอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ อย่าง ดอลลาร์สหรัฐฯ, เงินบาทไทย และเงินหยวนของจีน เป็นต้น ส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ และเลขาธิการพรรคประชาชนปฏิวัติสปป.ลาว ได้ให้คำมั่นว่าจะเร่งแก้ปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเพื่อควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: https://laotiantimes.com/2022/12/05/laos-inflation-rate-shoots-up-to-38-46-percent-in-november/

 

‘รถไฟจีน-ลาว’ ทำรายได้จากการขนส่งสินค้า เพียง 1 ปี ทะลุ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

บริษัทรัฐวิสาหกิจ Yunnan International Railway Service ระบุว่าการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศโดยรถไฟจีน-ลาว มีมูลค่าเกินกว่า 10 พันล้านหยวน (1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพียงแค่ 1 ปี หลังจากเปิดให้บริการเดินขบวนรถไฟ ในขณะที่ปริมาณขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนของบริษัท เพิ่มขึ้นจากเดิมต่ำกว่า 30,000 ตันต่อเดือน ขยับมาอยู่ที่ 200,000 ตันต่อเดือน ทั้งนี้ ตามภูมิภาคทั่วประเทศ มีสินค้ากว่า 1,200 รายการที่ใช้บริการเส้นทางรถไฟจีน-ลาว และขนส่งไปยัง 10 ประเทศที่อยู่ภายใต้โครงการ “Belt and Road Initiative (BRI)” ได้แก่ สปป.ลาว ไทย เมียนมาและเวียดนาม นอกจากนี้ สถาบันการวิจัยทางด้านสังคมศาสตร์ของมณฑลยูนาน ชี้ให้เห็นว่าการเปิดเส้นทางรถไฟแห่งนี้ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจตลอดเส้นทางเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการก่อสร้างระเบียงเศรษฐกิจจีน-ลาว และประชาคมแห่งอนาคตร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศ

ที่มา : http://www.chinadaily.com.cn/a/202212/01/WS6387fd3aa31057c47eba2087.html

อุตสาหกรรมท่องเที่ยว สปป.ลาว บนเส้นทางสู่การฟื้นตัว

ธุรกิจหลายแห่งภายใน สปป.ลาว เริ่มฟื้นตัว หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ไปในช่วงกลางปีที่ผ่านมา รวมถึงปริมาณนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางกลับยัง สปป.ลาว ตามการเปิดเผยของตัวแทนภาคธุรกิจ โดยปัจจุบัน ธุรกิจที่เติบโตได้ดีและเติบโตอย่างรวดเร็ว คือธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยว กล่าวโดย Daovone Phachanthavong รองประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติ สปป.ลาว ซึ่งได้กล่าวเสริมว่า การเปิดทางรถไฟ สปป.ลาว-จีน เมื่อปลายปีที่แล้ว ถือเป็นการช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง เนื่องจากทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางใน สปป.ลาว ได้ง่ายขึ้น โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะไทยและเวียดนาม รวมถึงนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten233_Tourism.php