ครึ่งปี 65 สหรัฐฯ เร่งนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นจากตลาดเวียดนาม

ตามตัวเลขทางสถิติ เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2565 เวียดนามส่งออกข้าวอยู่ที่ระดับประมาณ 4.19 ล้านตัน คิดเป็นรายได้ราว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปริมาณและมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น 20.5% และ 9% ตามลำดับ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือว่าอยู่ในระดับการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในด้านการส่งออกข้าว แต่สินค้าเวียดนามยังคงได้รับความนิยมในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ แหล่งนำเข้าข้าวเวียดนาม พบว่าสหรัฐฯ นำเข้าข้าวเวียดนามมากที่สุด เพิ่มขึ้น 63.3% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 รองลงมาฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นตลาดที่มีการบริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วน 44.5% ของส่วนแบ่งตลาดรวม

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/us-increases-rice-imports-from-vietnamese-market-in-first-half-post961046.vov

กัมพูชาส่งออกข้าวไปยังจีนมูลค่า 89 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกข้าวสารปริมาณ 169,766 ตัน ไปยังจีนในช่วง 7 เดือนแรกของปี สร้างรายได้เข้าประเทศ 89 ล้านดอลลาร์ รายงานโดยสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) โดยจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ครองสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 48.3 ของปริมาณการส่งออกข้าวทั้งหมด ซึ่งกัมพูชาคาดหวังเป็นอย่างมากที่จะส่งออกข้าวไปยังจีนมากขึ้น ผ่านความตกลงการค้าเสรี RCEP โดยนอกจากการส่งออกแล้ว ทางการกัมพูชายังคาดหวังที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในภาคส่วนต่างๆ ในประเทศ รวมถึงในอุตสาหกรรมการผลิตข้าว เพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปไปยังประเทศกลุ่มสมาชิก RCEP ซึ่งตามรายงานของ CRF กัมพูชาส่งออกข้าวสารทั้งหมดทั้งสิ้น 350,902 ตัน ไปยัง 56 ประเทศทั่วโลก ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบเป็นรายปี สร้างรายได้รวม 218 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501125411/cambodia-earns-89-million-from-milled-rice-export-to-china-in-jan-july/

เดือนเม.ย.-ก.ค.65 เมียนมาส่งออกข้าวไปแล้วกว่า 733,000 ตัน สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ 249 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) เผย 4 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ (เม.ย.-ก.ค.2565) เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหักจำนวน 733,098 ตัน โดยมีรายได้ประมาณ 249 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังพบว่าการส่งออกในเขตชายแดนลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วสาเหตุความล่าช้าเกิดจากความเข้มงวดของชายแดนจีน ปัจจุบันมีการส่งออกข้าวและข้าวหักมากกว่า 10,000 ถุง ผ่านชายแดนมูเซไปยังจีนทุกวัน ส่วนใหญ่เมียนมาส่งออกข้าวไปยัง 20 ประเทศ เช่น จีน (92,622 ตัน) และฟิลิปปินส์ (91,374 ตัน) เป็นต้น โดยราคาพันธุ์ข้าวขาวอยู่ที่ประมาณ 325-360 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน และพบว่าราคาข้าวของเมียนมาค่อนข้างต่ำกว่าคู่แข่งอย่างไทยและเวียดนาม ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมามีรายได้ถึง 700 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ จากการส่งออกข้าว 2 ล้านตันไปยังต่างประเทศ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-249-mln-worth-of-over-733000-mt-of-rice-in-past-4-months/

วิกฤติขาดแคลนข้าวสาลี เหตุจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ดันส่งออกข้าวเวียดนามดีขึ้น

ปัญหาการหยุดชะงักของอุปทานข้าวสาลีทั่วไปที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้ผู้นำเข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแสวงหาวัตถุดิบหรือธัญพืชอื่นมาแทน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อข้าวเวียดนาม โดยข้าวเวียดนามปรับราคาสูงขึ้นอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาและสูงกว่าข้าวไทยอีกด้วย ข้าวคุณภาพสูงของเวียดนามในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 10-15 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณการส่งออกข้าว อยู่ที่ 2.77 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าหลักที่มีความต้องการอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดแอฟริกา ฟิลิปปินส์และมาเลเซีย ความต้องการข้าวเวียดนามที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่เพียงแต่สามารถสังเกตได้ในตลาดดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังสามารถสังเกตได้ในตลาดระดับบนหรือตลาดไฮเอนด์ เช่น เยอรมนี สวีเดนและโปแลนด์ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะยินดีกับทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้นำเข้าหลายรายเริ่มมองหาซัพพลาย เพื่อหาราคาข้าวที่ถูกกว่าท่ามกลางราคาข้าวเวียดนามที่เพิ่มสูงขึ้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1266243/wheat-shortages-bode-well-for-vietnamese-rice.html

“เวียดนาม” ยกระดับการส่งออกข้าวคุณภาพสูง

สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) เปิดเผยว่าราคาข้าวขาวหัก 5% ของเวียดนามสูงกว่าราคาข้าวไทย อินเดียและปากีสถาน โดยเฉพาะราคาข้าวเวียดนาม 418 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน สูงกว่าราคาข้าวไทย 8 ดอลลาร์สหรัฐและสูงกว่าราคาข้าวปากีสถาน ($30) และอินเดีย ($75) ตามลำดับ ในขณะที่ราคาส่งออกข้าวขาวหัก 25% ของเวียดนามในปัจจุบัน อยู่ที่ 403 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เท่ากับข้าวไทย แต่ยังสูงกว่าราคาข้าวปากีสถานและอินเดีย นอกจากนี้ ข้าวคุณภาพสูงของเวียดนามจะส่งออกไปยังญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป โดยเร็วๆนี้ทางบริษัท Tan Long Group JSC กับธนาคารญี่ปุ่น “Kiraboshi” ได้ร่วมจัดพิธีในกรุงโตเกียว มีวัตถุประสงค์เพื่อโปรโมทข้าว “ST25” ซึ่งเป็นข้าวหอมที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2562 สู่ตลาดญี่ปุ่น

 

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-boosts-export-of-highquality-rice/232263.vnp

เดือน เม.ย.-มิ.ย.65 เมียนมาส่งออกข้าวไปแล้วกว่า 550,000 ตัน

รายงานของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) พบว่า  สามเดือนที่ผ่านมาของปี 2565 (เม.ย.-มิ.ย.) เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหักมากกว่า 550,547 ตัน จากบริษัทผู้ส่งออกข้าวประมาณ 38 บริษัทผ่านการค้าทางทะเล ในขณะที่ 33,593 ตันถูกส่งออกผ่านด่านชายแดน ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้วเนื่องจากความเข้มงวดของจีน ส่วนใหญ่แล้วเมียนมาสงออกข้าวไปยังฟิลิปปินส์ (65,990 ตัน) และจีน (54,635 ตัน) ปัจจุบันราคาข้าวขาวคุณภาพต่ำอยู่ที่ประมาณ 320-360 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งราคาส่งออกค่อนข้างต่ำกว่าราคาขาวของไทยและเวียดนาม แต่ยังสูงกว่าราคาของอินเดียและปากีสถาน ทั้งนี้ราคาข้าวส่งออก (คุณภาพต่ำ) อยู่ในช่วง 29,000 และ 30,000 จัตต่อถุง (น้ำหนัก 108 ปอนด์) ราคาขึ้นอยู่กับพันธุ์ข้าวที่ในประเทศ ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2564 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2565 ของปีงบประมาณย่อย (2564-2565)  เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหักมากกว่า 1.4 ล้านตัน ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563-2564  เมียนมาการส่งออกข้าว 2 ล้านตัน สร้างรายได้กว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-over-550000-mt-of-rice-in-april-june/#article-title

ความต้องการข้าวจากในประเทศและต่างประเทศเพิ่ม หนุนราคาข้าวเมียนมาพุ่งสูงขึ้น

นาย อู่ ธาน อู เลขาธิการศูนย์ขายส่งข้าวบุเรงนอง เผย ราคาข้าวหักเมียนมาเริ่มปรับตัวขึ้นเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ค้าทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันราคาข้าวหักอยู่ระหว่าง 27,000-30,000 จัตต่อตะกร้า (น้ำหนัก 108 ปอนด์) โดยราคาไม่ต่างจากราคาข้าวคุณภาพต่ำที่ส่งออกมากนัก เมื่อเดือนเม.ย.2565 ที่ผ่านมา เมียนมาส่งออกข้าวและข้าวหักมากกว่า 170,000 ตัน โดยมีมูลค่าประมาณ 58.933 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ การส่งข้าวมูลค่ากว่า 119,260 ตัน เป็นการส่องออกยังทางทะเล มูลค่า 41.298 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ผ่านชายแดน มูลค่า 4,180 ตัน ผ่านชายแดนจีน โดยตลาดนำเข้าหลัก ได้แก่ ไอวอรี่โคสต์ (10,000 ตัน) แคเมอรูน (9,000 ตัน) แองโกลา (15,000 ตัน) มาดากัสการ์ (8,500 ตัน) จีน (14,300 ตัน) ฟิลิปปินส์ (12,200 ตัน) ศรีลังกา (250 ตัน) และฮ่องกง (180 ตัน) ส่วนการส่งออกไปสหภาพยุโรป ได้แก่ โปแลนด์ (8,800 ตัน), ลิทัวเนีย (8,200 ตัน), อิตาลี (8,690 ตัน), สเปน (15,180 ตัน), บัลแกเรีย (7,750 ตัน) และเบลเยียม (700 ตัน)

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/domestic-foreign-demand-drive-broken-rice-price-up/

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าดันส่งออกข้าวในตลาดอาเซียน

สำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนาม (Vietrade) กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ได้ประสานงานกับสำนักงานการค้าเวียดนามในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อหารือเรื่องการส่งออกข้าว โดยในปีที่แล้วฟินิปปินส์เป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม จำนวน 2.45 ล้านตัน เป็นมูลค่าราว 1.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากตลาดข้างต้นแล้ว เวียดนามยังส่งออกไปยังตลาดสำคัญ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซียและบรูไน เป็นต้น นอกจากนี้ ตามข้อมูลของสำนักข่าวเวียดนาม (VNA) เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกข้าวไปยังตลาดมาเลเซียในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นอย่างมาก 104.4% และ 67.5% ในด้านของปริมาณส่งออกและมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

 

ที่มา : https://www.bernama.com/en/world/news.php?id=2078125

 

งบประมาณย่อย 64-65 เมียนมาส่งออกข้าวไปแล้วกว่า 1.4 ล้านตัน

จากข้อมูลของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) พบว่า เมียนมาส่งมอบข้าวและข้าวหักมากกว่า 1.4 ล้านตัน ไป 27 ประเทศ ในช่วงงบประมาณย่อย (ต.ค. 2564 ถึงมี.ค. 2565) ตลาดหลักของการส่งออกคือ จีน ตามด้วยเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม สเปน ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ โดยราคาพันธุ์ข้าวขาวเกรดต่ำอยู่ที่ประมาณ 340-355 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งราคาค่อนข้างต่ำกว่าไทยและเวียดนาม แต่ยังสูงกว่าราคาตลาดของอินเดียและปากีสถาน ปัจจุบันผู้ส่งออกได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางเมียนมา (CBM) ซึ่งการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้นผู้ค้าข้าวในเมียนมาที่จะต้องฝากเข้าบัญชีที่ธนาคารที่ได้รับอนุญาตและแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินท้องถิ่นที่เรตอ้างอิง คือ 1,850 จัตต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบัน ผู้ค้าต้องส่งออกข้าวทางทางทะเลแทนการค้าชายแดน เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้เมียนมามีรายได้กว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกข้าวในปีงบประมาณ 2562-2563 จากการส่งออกข้าว 2.5 ล้านตัน ส่วนในปีงบประมาณ 2563-2564 มีรายได้กว่า 700.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการส่งออกข้าวและข้าวหัก 1.87 ล้านตัน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/7-april-2022/#article-title

กัมพูชาส่งออกข้าวมูลค่า 413 ล้านดอลลาร์ ในช่วง Q1/2022

ไตรมาส 1 ปี 2022 กัมพูชาส่งออกข้าวสารปริมาณมากกว่า 170,000 ตัน และข้าวเปลือกอีกกว่า 1.3 ล้านตัน ไปยัง 49 ประเทศ โดยการส่งออกไปยังจีนและฮ่องกงคิดเป็นกว่าร้อยละ 52 ของการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็น 88,646 ตัน มูลค่ารวมกว่า 45.19 ล้านดอลลาร์ รองลงมาคือประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปซึ่งคิดเป็นร้อยละ 31 หรือคิดเป็น 52,222 ตัน ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 35.95 ล้านดอลลาร์ และกัมพูชาได้ทำการส่งออกไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนเพียงร้อยละ 10 ของการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็นปริมาณเพียง 17,310 ตัน มูลค่ารวม 10.64 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากตลาดดังกล่าวกัมพูชายังได้ส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวไปยังประเทศแอฟริกา โอเชียเนีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศอื่นๆ ในขณะที่การส่งออกข้าวเปลือกของกัมพูชาประเทศเวียดนามถือเป็นตลาดสำคัญ โดยมีการส่งออกไปจำนวน 1.39 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 313 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501053884/more-than-413-million-earned-through-rice-exports-prior-to-end-of-q1/