‘เวียดนาม’ เผยยอดการค้า ม.ค.-พ.ค. พุ่ง 16%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) รายงานว่ามูลค่าการค้าระหว่างประเทศของเวียดนามในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ 305.53 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลในเดือน พ.ค.67 พบว่าการส่งออกของเวียดนาม ปรับตัวขึ้น 15.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี มูลค่าที่ 32.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 33.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้เวียดนามขาดดุลการค้าในเดือนนี้ อยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดสหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม มีมูลค่าการส่งออกราว 44 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้าจากจีนมากที่สุด อยู่ที่ 54.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/trade-revenue-up-over-16-in-jan-may/

เขตอุตสาหกรรม และเขตต่อขยาย มีโอกาสส่งเสริมสินค้าส่งออกได้มาก

คณะกรรมการกลางพัฒนาอุตสาหกรรมและเขตอุตสาหกรรมจัดการประชุมครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องประชุมกระทรวงอุตสาหกรรม ในเมืองเนปิดอว์ เมื่อบ่ายวานนี้ โดยมีประธานคณะกรรมการกลาง รองประธานสภาบริหารแห่งรัฐ โดยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.โซ วิน. กล่าวว่า คณะกรรมการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมและกำกับดูแลจะต้องกำกับดูแลมาตรการเพื่อพิจารณาว่าเขตอุตสาหกรรมเปิดดำเนินการจริงและอนุญาตให้มีกระบวนการทำงานของธุรกิจเดียวกันได้หรือไม่ ในคำปราศรัยเน้นย้ำว่า เมียนมาต้องพัฒนาเขตอุตสาหกรรมหลัก 28 แห่ง อุตสาหกรรมสาขา 53 แห่ง และเขตอุตสาหกรรม 5 แห่ง พร้อมเขตอุตสาหกรรมอีก 2 แห่งที่อยู่ระหว่างการจัดตั้ง เพื่อแก้ไขประเด็นที่ไม่สอดคล้องกับกฎหมายและกฎเกณฑ์ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกลางจำเป็นต้องกำหนดนโยบายและแก้ไขปัญหา ในขณะที่คณะกรรมการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมท้องถิ่นและกำกับดูแลและรัฐบาลส่วนภูมิภาคต้องกำกับดูแลการดำเนินงานของเขตอุตสาหกรรมที่ตั้งไว้แล้ว และเขตอุตสาหกรรมที่จะจัดตั้งและเขตอุตสาหกรรมให้ประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้ ยังพบปัญหาเขตอุตสาหกรรมตั้งอยู่ใกล้เขตที่อยู่อาศัยด้วย ซึ่งต้องหาทางแก้ไขปัญหาภายใต้กฎหมายและกฎเกณฑ์เขตอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่ภูมิภาคมะเกวส่งมา ได้รับการจัดสรรให้กับกลุ่มพื้นที่น้อยกว่า 500 เอเคอร์เป็นหลัก เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มที่ทำจากพืชน้ำมัน ถั่ว และฝ้าย ส่งผลให้รัฐบาลเขตมะเกวจำเป็นต้องยื่นข้อเสนอใหม่สำหรับเขตอุตสาหกรรมเพื่อใช้อุตสาหกรรมฝ้ายและด้ายและพืชน้ำมัน รวมทั้ง ต้องดำเนินการเขตอุตสาหกรรมของตนให้สอดคล้องกับกฎหมายและกฎเกณฑ์อุตสาหกรรมจึงจะประสบความสำเร็จได้

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/industrial-zones-and-extended-zones-have-great-chance-to-boost-export-products/

‘เวียดนาม’ ส่งออก พ.ค.67 โต 15.8% ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว 8.9%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าการส่งออกของเวียดนามในเดือน พ.ค.67 มีมูลค่าอยู่ที่ 32.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยได้รับอนิสงค์มาจากการส่งออกโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่การนำเข้า มีมูลค่าอยู่ที่ 33.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้เวียดนามขาดดุลการค้าราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

อีกทั้ง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค.67 เพิ่มขึ้น 8.9% ต่อปี รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคและยอดค้าปลีก เพิ่มขึ้น 4.44% และเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.marketscreener.com/news/latest/Vietnam-May-exports-up-15-8-y-y-industrial-production-up-8-9-46846255/

‘เวียดนาม’ ส่งออกปลาสวาย มีแนวโน้มฟื้นตัว

จากข้อมูลทางสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าเวียดนามทำรายได้จากการส่งออกปลาสวาย (Tra fish) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ราว 725 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลของเวียดนาม (VASEP) ระบุว่าสหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำเข้าปลาสวายจากเวียดนามรายใหญ่ที่สุด รองลงมาจีน สหภาพยุโรปและอเมริกาใต้ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกปลาแช่แข็งของเวียดนามที่ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ทำรายได้มากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือคิดเป็นสัดส่วน 98% ของสินค้าส่งออกปลาสวายทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญ มองว่าแนวโน้มการส่งออกปลาสวายไปยังตลาดยุโรปจะปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดของสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ทำให้เวียดนามต้องใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรียุโรป-เวียดนาม (EVFTA) เพื่อที่จะเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-tra-fish-export-tipped-to-bounce-back-post287558.vnp

‘สถาบันวิจัย’ คาดเศรษฐกิจเวียดนามปีนี้ ขยายตัว 6%

สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและนโยบายของเวียดนาม (VEPR) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2567 จะขยายตัว 5.6% – 6% โดยได้ปัจจัยหนุนมาจากการส่งออก การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและภาคอุตสาหกรรม ในขณะที่อุปสงค์ในประเทศยังคงอ่อนแอ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจของเวียดนามในปีนี้ จะเห็นได้ว่าทิศทางของเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสแรก บ่งชี้ให้เห็นสัญญาณเชิงบวก อย่างไรก็ดียังมีความไม่แน่นอนอยู่ นอกจากนี้ เวียดนามยังได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศและการผลิตของภาคอุตสาหกรรม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1655818/vepr-forecasts-vietnamese-economy-growth-at-below-6-per-cent.html

การส่งออกประมงของเมียนมามีมูลค่า 55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนที่ผ่านมา

สถิติของกระทรวงพาณิชย์เผยว่าการส่งออกประมงของเมียนมา เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 54.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม ในปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2567-2568 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน โดยตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้น 25.5 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 29.46 ล้านดอลลาร์ที่บันทึกไว้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2023-2024 อย่างไรก็ดี ปัจจุบันการส่งออกสินค้าประมงเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ปริมาณการส่งออกสินค้าประมงยังต่ำกว่าที่บันทึกไว้ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ เมียนมาส่งออกสินค้าประมง เช่น ปลา ปู และกุ้ง ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (จีนและไทย) ผ่านด่านชายแดน Muse, Myawady, Kawthoung, Myeik, Sittway และ Maungtaw นอกจากนี้ยังจัดส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น ประเทศในยุโรป จีน ไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคผ่านช่องทางเดินเรือ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmars-fishery-exports-hit-us55m-in-one-month/#article-title

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาจับมือสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเมียนมา ส่งออกข้าวโพดและข้าว กระตุ้นเศรษฐกิจ

มีรายงานว่า ข้าวโพดกว่า 5,400 ตันถูกส่งออกจากท่าเรือ Min Htet Min (MHM) พร้อมด้วย 2,700 ตันจากท่าเทียบเรือ Shweme (SMJ) และข้าว 4,850 ตันจากท่าเรือ Wilmar International Port ซึ่งจุดเริ่มต้นด้านการส่งออกดังกล่าวนี้ ดำเนินการผ่านความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์และสหภาพสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเมียนมา (UMFCCI) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม มีการส่งออกเพิ่มเติม ได้แก่ ข้าวโพด 71,900 ตัน และข้าว 6,000 ตันจากท่าเรือ Sule Port Wharves (SPW) ข้าวโพด 53,500 ตันจากท่าเรืออุตสาหกรรมเมียนมา (MIP), ข้าวโพด 58,400 ตัน และข้าว 12,500 ตันจากท่าเรือ Ahlon International Port Terminal (AIPT), ข้าวโพด 29,500 ตันจาก The Myanmar Terminal-TMT, ข้าวโพด 5,400 ตันจากท่าเรือ Min Htet Min (MHM), 11,000 ตันจากท่าเทียบเรือนานาชาติย่างกุ้ง (YIGT) และข้าวโพด 2,700 ตันจาก Myanmar Five Star Line ( MFSL) ซึ่งการส่งออกเหล่านี้ได้ถูกกำหนดให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/moc-collaborates-with-umfcci-to-export-maize-and-rice-boosting-economy/

เมียนมาคาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำในปีนี้จะมีมูลค่ามากกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของกรมประมง คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปยังต่างประเทศจะเกิน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณปัจจุบัน สำหรับในปีงบประมาณที่แล้ว มีการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำมากกว่า 520,000 ตัน สร้างรายได้จากต่างประเทศเกือบ 730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำจากเมียนมา ส่งออกไปยังต่างประเทศผ่านช่องทางการค้าทางทะเลและการค้าชายแดน แม้ว่าขณะนี้การส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำยังดำเนินการไปได้ดีแต่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เท่าสถานการณ์ก่อนโควิด ทั้งนี้ จากข้อมูลของผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงปลาและกุ้ง เมียนมามีฟาร์มเลี้ยงปลาและกุ้ง 480,000 แห่ง พร้อมด้วยห้องเย็นกว่า 120 แห่ง รวมทั้งเมียนมามีการส่งออกปลามากกว่า 20 ชนิด ไปยังประเทศต่างๆ เช่น จีน ไทย และประเทศเพื่อนบ้านเป็นประจำผ่านการค้าชายแดน ตลอดจนประเทศญี่ปุ่นและประเทศในยุโรป

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-expects-over-us-800-million-in-aquatic-product-exports-this-year/

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เร่งการส่งออก

ในขณะที่รัฐบาลส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศด้วยการเพิ่มการส่งออก กระทรวงพาณิชย์และสมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพเมียนมาจึงร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงภาคการส่งออก โดยเมื่อวันที่ 20 เมษายน มีการส่งออกข้าวโพดจำนวน 12,700 ตันผ่านทาง The Myanmar Terminal – TMT (เดิมชื่อ Bo Aung Kyaw Jetty) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ ในวันที่ 21 เมษายน ข้าวโพดจำนวน 6,600 ตันจะถูกส่งออกจากท่าเรือ Ahlon International Port Terminal 3 ในวันที่ 22 เมษายน ข้าวโพด 2,700 ตันจากท่าเรือ Min Htet Min และอีก 7,150 ตันจากท่าเรือเมียนมา ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/commerce-ministry-boosts-export/#article-title

เมียนมาจัดส่งข้าวโพดประมาณ 80,000 ตันไปยัง 3 ประเทศ

ตามการระบุของกระทรวงพาณิชย์ เมียนมาส่งออกข้าวโพดประมาณ 80,000 ตันไปยังต่างประเทศ 3 ประเทศเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 จากการที่เมียนมาเร่งความพยายามในการสนับสนุนการส่งออกเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของรัฐ เมียนมาจึงส่งข้าวโพด 25,000 ตันไปยังฟิลิปปินส์ทางเรือ (MV Manta Hatice) ผ่านท่าเรือ No 6 Sule Wharf ส่งออก 12,700 ตันถึงไทยทางเรือ (MV Tay Son 4) ผ่านทางท่าเรือ TMT และ 2,700 ตัน ทางเรือ (MV MCL 20) ผ่านทางท่าเทียบเรือ MHM และส่งออกไปยังอินเดียทางเรือ 27,500 ตัน (MV Seiyo Harmony) ผ่านท่าเรืออุตสาหกรรมเมียนมา 2 และ เมื่อวันที่ 8 เมษายน ตามลำดับ  อย่างไรก็ดี เมียนมาส่งออกข้าวโพดไปยังประเทศไทยครั้งละ 5,400 ตันโดยเรือ 2 ลำ (MV MCL 8 และ MV MCL 7) ผ่านทางท่าเทียบเรือ MHM เมื่อวันที่ 9 เมษายน และมีกำหนดส่งออกข้าวโพด 6,600 ตันไปยังฟิลิปปินส์โดยเรือ (MV. RAINBOW SYMPHONY) ผ่าน AIPT-3 วันที่ 10 เมษายน นอกจากนี้ เมียนมายังจัดส่งข้าวโพดมากกว่า 2 ล้านตันให้กับคู่ค้าต่างประเทศในฤดูข้าวโพดปี 2565 ซึ่งส่วนใหญ่ถูกส่งมายังประเทศไทย และส่วนที่เหลือไปยังจีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ข้าวโพดปลูกในรัฐฉาน กระฉิ่น คะยา และคะยิน รวมถึงภูมิภาคมัณฑะเลย์ สะกาย และมะเกว ซึ่งเมียนมามีฤดูข้าวโพด 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูร้อน และมรสุม ผลผลิตข้าวโพดของเมียนมาต่อปีอยู่ที่ประมาณ 2.5-3 ล้านตัน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-around-80000-tonne-corn-to-3-countries/#article-title