เมียนมาส่งออกอ้อยกว่า 50,000 ตัน ไปจีนผ่านชายแดนรุ่ยลี่

รถบรรทุกอ้อยทั้งหมด 7 คัน บรรทุกอ้อยกว่า 50,000 ตัน ไปจีนผ่านเขตการค้ามูเซ 105 ไมล์ เข้าสู่ชายแดนรุ่ยลี่ ทั้งนี้จีนได้สร้างถนนเส้นใหม่สำหรับรถบรรทุกอ้อย ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าในการขนส่ง  โดยการส่งออกอ้อยภายในหนึ่งเดือนผ่านชายแดนรุ่ยลี่หลังจากกลับมาเปิดชายแดนอีกครั้ง มีปริมาณอ้อยทั้งหมด 5,440 ตัน (2.448502 ล้านหยวน)

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/over-50000-tonnes-of-sugarcane-exported-to-china-via-ruili/#article-title

เมียนมาปิดถนนเมียวดี-ดอนา-ตอง-จอ กระทบค้าส่งออกชายแดนเมียนมา-ไทย หลายแสนจัต !

ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.2565 การปิดถนนถนนเมียวดี-โดนา-ตอง-จอ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าสำคัญบริเวณชายแดนเมียนมา-ไทย ส่งผลให้ชาวเมียนมาหลายแสนคนต้องกลายเป็นคนว่างงาน รถบรรทุกขนาดเล็กและขนาดใหญ่กว่า 1,000 คัน รวมทั้งรถยนต์นั่งต้องหยุดทำการวิ่งขณะขนส่งสินค้าเข้าจากไทยผ่านชายแดนเมียวดี ซึ่งการปิดชายแดนทำให้สินค้าเกษตรเกิดความเสียหายหลายแสนรายการในทุกๆ วัน โดยสินค้าเกษตรที่ส่งจากเมียวดีไปยังไทย ได้แก่ พริกสด ถั่วลิสง และหัวหอม ซึ่งจะเน่าเสียหายเพราะเก็บไว้ไม่ได้นาน ในขณะที่การนำเข้าน้ำอัดลมและอาหารลดลงเมื่อสองเดือนก่อน อีกทั้งจากข้อจำกัดในการนำเข้าส่งผลให้ การนำเข้าเหล็ก ดีบุก ซีเมนต์ และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ต้องลดลงไปด้วย

ที่มา : https://news-eleven.com/article/228319

จีนระงับการนําเข้าสินค้า 7 รายการจากเมียนมาผ่านทางชายแดน

หอการค้าชายแดนมูเซ-น้ำคำ รายงานว่า หน่วยเฉพาะกิจป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ในเมืองรุ่ยลี่ ประเทศจีน แจ้งคณะทำงานของเชายแดนมูเซว่าจะมีการระงับการนำเข้าสินค้า 7 รายการ หนึ่งในนั้นรวมไปถึงข้าวจากเมียนมา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19 โดยสินค้าที่ถูกระงับการนำเข้าทั้ง 7 รายการ ได้แก่ ข้าว, ข้าวหัก, พริกสด, สินค้าที่ขนส่งในระบบห่วงโซ่ความเย็น, สินค้าแช่แข็ง, สินค้าประมง และ สินค้าประเภทของใช้ประจำวัน รวมถึงสินค้าอาหารบรรจุหีบห่อ ณ ด่านตรวจว่านติง-มังมาน ณ วันที่ 4 มี.ค. 2565 ของงบประมาณย่อย (ต.ค. 2564- มี.ค. 2565) การปิดชายแดนมูเซทำให้มูลค่าการค้า  ลดลงเหลือ 579.48 ล้านดอลลารณ์สหรัฐฯ  ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างมากจาก 2.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน โดยปกติเมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว ถั่วและข้าวโพด และผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปู กุ้ง เป็นต้น นอกจากนี้ การค้าผ่านชายแดนมูเซ-รุยลี เมียนมาส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังจีน ด้านการนำเข้าจะเป็นวัตถุดิบ CMP ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม, เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2563-2564 การค้าชายแดนมูเซ ระหว่างจีน-เมียนมา มีมูลค่า 4.057 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการส่งออกมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้ามูลค่า 1.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/china-to-temporarily-halt-imports-of-seven-items-including-rice/#article-title

 

งบประมาณย่อย 64-65 ค้าชายแดนเมียนมา ดิ่งลง 966 ล้านเหรียญดอลลาร์หรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย มูลค่าการค้าชายแดนทั้งหมดจากด่านชายแดน 18 แห่งมีมูลค่าเกิน 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงงบประมาณย่อย 64-65 ลดลง 966 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 2.409 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ถึง 24 ธ.ค.ของปีงบประมาณ 64-65 แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 1.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าเป็น 427.7 ล้านดอลลาร์ โดยด่านเมียวดีติดอันดับชายแดนที่มีมูลค่าการค้าสูงสุด 581.36 ล้านดอลลาร์หรัฐฯ ตามมาด้วยด่านทิกิที่ 402.06 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ผลิตภัณฑ์ทางทะเล แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ สินค้าการผลิต และอื่นๆ ในขณะที่การนำเข้าจะเป็นสินค้าทุน สินค้าขั้นกลาง และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/total-border-trade-value-decreases-by-us966-mln-this-mini-budget-period/#article-title

19 พ.ย. 64 ค้าชายแดนเมียนมา-บังกลาเทศ แตะ 3.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา เผย ณ วันที่ 19 พ.ย.64 ของปีงบประมาณย่อยปี 2564-2565 การค้าชายแดนระหว่างเมียนมาร์และบังกลาเทศอยู่ที่ 3.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 5.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แบ่งเป็นการส่งออก 3.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้ามูลค่า 0.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการค้าชายแดนส่วนใหญ่ผ่านจุดผ่านแดนเมืองซิตต์เวย์และเมืองมองตอ โดยสินค้าที่ซื้อขายระหว่างสองประเทศ ได้แก่ ไม้ไผ่ ขิง ถั่วลิสง กุ้งทะเลและปลา พรุน กระเทียม ข้าว ถั่วเขียว ผ้าห่ม ลูกอม แยมลูกพลัม รองเท้า อาหารแช่แข็ง สารเคมี หนัง ผลิตภัณฑ์จากปอกระเจา ยาสูบ พลาสติก ไม้ เสื้อถัก และเครื่องดื่ม

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-bangladesh-border-trade-hits-3-88-mln-as-of-19-nov/

25 พ.ย. 64 พร้อมเปิดชายแดนเมียนมา-จีน (Kyinsankyawt)

วันที่ 22 พฤศจิกายน การค้าผ่านแดนจะเริ่มทดสอบโดยเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. ในช่วงบ่ายเป็นเวลาสามวัน หากการทดสอบเสร็จสิ้นลงแล้ว จะกลับมาเปิดดำเนินการในวันที่ 25 พ.ย. ตามที่กำหนดไว้ ซึ่งรถบรรทุกสินค้าประมาณ 10,000 คันซึ่งถูกจัดเก็บในคลังสินค้าในด่านมูเซ 105 ไมล์ จะถูกวิ่งเพื่อทำการทดสอบก่อนก่อน ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 2564 จีนได้ปิดชายแดน (Kyinsankyawt, Wamting) หลังแพร่ระบาดของ COVID-19 ในเมียนมา ส่งผลให้คนงานราว 400,000-600,000 คนต้องตกงาน นอกจากนี้ ผู้ค้าจากด่านชายแดนมูเซยังสูญเสียรายได้จากการปิดด่านในครั้งนี้ โดยเมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว ถั่วและข้าวโพด และผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปู กุ้ง เป็นต้น นอกจากนี้ การส่งออกก๊าซธรรมชาติของเมียนมาไปยังจีนยังดำเนินการผ่านพรมแดนมูเซ-รุ่ยลีอีกด้วย ส่วนการนำเข้าจะเป็น วัตถุดิบ CMP เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-china-kyinsankyawt-border-post-to-resume-operations-on-25-nov/#article-title

ค้าชายแดนมูเซ ลดฮวบ 487 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา มูลค่าการค้าระหว่างเมียนมาและจีนผ่านชายแดนมูเซ ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ของงบประมาณย่อย (ต.ค. 264 – มี.ค. 65) ดิ่งลง 487 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งลดลงจาก 582.399 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การส่งออกไปยังจีนผ่านด่านมูเซ มีมูลค่า 93.633 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 1.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทั้งส่งออกและน้ำเข้าหดตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยจีนปิดด่านชายแดน ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 จากการระบาดของ COVID-19 ในเมียนมา ส่งผลให้คนงานด่านชายแดนมูเซ ราว 400,000-600,000 คน ต้องตกงาน นอกจากนี้ ผู้ค้ายังได้รับผลกระทบจากการระงับการค้า ทำให้รายได้จากภาษีหยุดชะงัก ทั้งนี้เมียนมาได้ส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว ถั่วและข้าวโพด และผลิตภัณฑ์ประมง เช่น ปู กุ้ง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังส่งออกก๊าซธรรมชาติไปจีนผ่านชายแดนมูเซ-รุ่ยลีอีกด้วย ส่วนการนำเข้าจะเป็นวัตถุดิบ CMP เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/muse-border-trade-down-by-us487-mln-as-of-11-nov/

เช็คเลย สินค้าไทยตัวไหน โอกาสทองส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน

โดย ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล

เช็คเลย  สินค้าไทยตัวไหน ไทยส่งออกประเทศเพื่อนบ้านแล้วปังยอดขายถล่มทลาย แนะผู้ประกอบการไทย โอกาสทองในตลาดจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา เมียนมา หลังยอดส่งออกผ่านชายแดน-ผ่านแดนขยายตัวต่อเนื่อง

 

หลังจากเห็นยอดส่งออกสินค้าชายแดนและผ่านแดน ขยายตัวสุดปัง 9 เดือน ขยายตัว38%   ทั้งปี ตั้งเป้าขยายตัว 3% ต้องทำตัวเลขการส่งออกให้ได้ 789,198 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า โอกาสของสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องทั้งปี  ซึ่งปัจจัยสนับสนุนการส่งออกยังคงเป็นค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งช่วยให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น   บวกกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในสินค้าจำเป็นทั้งเพื่อการอุปโภคบริโภค และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการ Work From Home และการป้องกันหรือรักษาโรคในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสินค้าไทยยังคงได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการในตลาดเพื่อนบ้าน

 

สินค้าไหนของไทยที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วยอดขายถล่มทลายและมีโอกาสโตในอนาคต ต้องบอกว่า “มาเลเซีย” ถือว่าเป็นประเทศส่งออกอันดับ 1 ของไทย ซึ่งสินค้าที่ ส่งออกสำคัญๆ ที่ยังขยายตัวเป็นบวกมาอย่างต่อเนื่อง  ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ฯ  ,ยางพารา , และเครื่องวีดิโอ เครื่องเสียงฯ

 

“เมียนมา” สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล ,น้ำมันดีเซล , และปุ๋ย

“กัมพูชา” สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 1,รถยนต์นั่ง , เครื่องจักรกลและส่วนประกอบอื่น ๆ

“สปป.ลาว” สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป , น้ำมันดีเซล , น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ

 

ส่วน การค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม ซึ่งประกอบด้วย  จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ   จะเห็นได้ว่าในเดือนกันยายนไทยส่งออกสินค้าผ่านแดน  มีมูลค่าการส่งออก 43,000 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง +31.95% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน  โดยมี “จีน” เป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่ง สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์, ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ,%) ยางพารา, ไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ยาง

 

รองลงมาเป็น “สิงคโปร์” สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ฯ , เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบฯ , และแผงวงจรไฟฟ้า , และอันดับสาม “เวียดนาม”  สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด ,เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และหม้อแบตเตอรี่และส่วนประกอบ

 

ผู้ประกอบการไทยคงต้องเร่งมองหาโอกาสและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพอาศัยความได้เปรียบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้เร่งเจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น และคาดการณ์ว่าความต้องการสินค้าไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่องด้วยภาพลักษณ์ของสินค้าไทยที่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก

ที่มา : https://www.thansettakij.com/economy/503105

ราคายาง รัฐมอญ พุ่งทะลุ 1,150 จัต สูงกว่าปีที่แล้ว ผลจากค่าเงินจัตอ่อนค่า

ปัจจุบันรัฐมอญ ราคายาง 1 ปอนด์มีราคา 1,150 จัต เพิ่มขึ้นจาก 700 จัตในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ผลจากการอ่อนค่าของเงินจัตและการซื้อยางทางเลือก แม้การส่งออกที่ชายแดนจีนปิดตัวลง สถานการณ์ปัจจุบันคือเมื่อเงินอ่อนค่าลง ผู้ที่ถือเงินจัตมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้น จึงทำให้คนเมียนมาเลือกที่จะถือเงินสกุลอื่นหรือสิ่งอื่นเพื่อซื้อสินค้าแทน ส่งผลให้ปัจจุบันราคายางต่อปอนด์จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,150 / 1,200 จัต

ที่มา : https://news-eleven.com/article/216737

ราคากระเทียมพุ่ง หลังปิดชายแดนจีน-เมียนมา

ราคาของกระเทียม (พันธุ์ Kyukok) ที่ส่งออกไปยังจีนพุ่งขึ้นภายหลังการปิดด่านชายแดนเมียนมา-จีน  ส่งผลให้การขึ้นราคาในตลาดค้าปลีกมีราคาสูงถึง 5,100 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กก.) โดยราคากระเทียมขยับอยู่ในช่วง 1,900-2,950 จัตต่อ viss ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 อย่างไรก็ตาม ตลาดเห็นการเพิ่มขึ้นทีละน้อยในราคาระหว่าง 3,500- 4,000 ต่อ viss ทั้งนี้ราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยในวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ราคาจะระหว่าง 2,600 – 5,100 ต่อ viss ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/garlic-price-jumps-on-closure-of-sino-myanmar-border-post/