‘Digital Transformation’ กุญแจดอกสำคัญของธุรกิจเสื้อผ้าเวียดนาม

จากงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม “SaigonTex and SaigonFabric 2024” จัดโดยสมาคมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนาม (VITAS) ทางด้านคุณ นาง เหงียน ถิ เตี๊ยก มาย รองเลขาธิการสมาคมฯ กล่าวระหว่างการประชุมว่ารัฐบาลอนุมัติแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในปี 2573 มีวิสัยทัศน์ถึงปี 2578 และจะมุ่งเน้นไปที่การยกระดับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง การปรับปรุงชีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดต่างประเทศและตอบสนองกับความต้องการของคนในประเทศ ในขณะเดียวกัน ตัวแทนของสมาคมฯ กล่าวว่าหนึ่งในแนวทางการขับเคลื่อนสำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล หรือ Digital Transformation สิ่งนี้จะทำให้ธุรกิจต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและเป็นการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/digital-transformation-optimal-choice-for-vietnamese-garment-textile-firms/285158.vnp

‘MoMo’ แอพกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมมากที่สุดในเวียดนาม

จากการวิเคราะห์และติดตามระบบเครือข่ายข้อมูลของเวียดเทล (Viettel) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของเวียดนาม เปิดเผยการจัดอันดับอุตสาหกรรมฟินเทค ปี 2566 ว่า ‘MoMo’ ยังคงเป็นผู้นำในการให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเวียดนาม นับเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน และมีคะแนนรวม 138.23 สูงกว่า VTCPay 2.5 เท่า รั้งอันดับที่ 2 ถึงแม้ว่าคะแนนรวมของ MoMo จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2565 แต่แอปพลิเคชันให้บริการทางการเงินดังกล่าว ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคชาวเวียดนามที่มองหาการทำธุรกรรมดิจิทัลที่มีความสะดวกและปลอดภัย

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/momo-remains-most-popular-ewallet-in-vietnam/279729.vnp

JICA ส่งมอบระบบแบ่งปันข้อมูลดิจิทัลให้กระทรวงโยธาฯ สปป.ลาว

สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ส่งมอบระบบแบ่งปันข้อมูลดิจิทัล ได้แก่ VirGo (https://virgo.mpwt.gov.la) ให้กับกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว โดยมีตัวแทนจากกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง กรมโยธาธิการและขนส่งเวียงจันทน์ สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และทีมผู้เชี่ยวชาญของ JICA จากการสำรวจสภาพปัจจุบันในระยะนำร่องของโครงการพัฒนาขีดความสามารถด้านการควบคุมและส่งเสริมการพัฒนาเมืองในประเทศลาว (CDUDCP) เว็บไซต์ VirGo ได้รับการพัฒนาภายใต้โครงการ CDUDCP ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย JICA ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 เว็บไซต์ดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการวางผังเมืองและการพัฒนาเมือง ไม่เพียงแต่สำหรับหน่วยงานของรัฐเท่านั้น แต่ยังสำหรับประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจเอกชน โดยการใช้งานผ่านเว็บไซต์ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลและข้อมูลอย่างเป็นทางการต่างๆ เช่น แผนการใช้ที่ดิน แผนที่เครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน กฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ได้ตลอดเวลา โดยใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือสมาร์ทโฟน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_15_Jica_y24.php

 

‘สปป.ลาว จัดงาน Digital Week’ เพื่อแสดงผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร สปป.ลาว จะจัดงานสัปดาห์ดิจิทัลขึ้นในวันที่ 10-14 มกราคม 2567 เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของลาว เพื่อให้ประเทศสามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ภายใต้หัวข้อหลักของงาน คือ “การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่มากขึ้นและการเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่น” โดยกิจกรรมภายในงานจะมีการประชุมพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล ตลอดจนนิทรรศการผลิตภัณฑ์โทรคมนาคมและนวัตกรรมที่พัฒนาโดยสตาร์ทอัพของ สปป.ลาว และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง โดยมีบูธแสดงนิทรรศการกว่า 100 บูธ นอกจากนี้ จะมีการอภิปรายเกี่ยวกับอุตสาหกรรม 4.0 เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีอัจฉริยะ และเทคโนโลยีดิจิทัล และการจับคู่ทางธุรกิจและกิจกรรมการสร้างเครือข่ายเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันและความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร ทั้งนี้ การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการส่งเสริมความร่วมมือและการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการประยุกต์ใช้การวิจัยทางเทคโนโลยี และขับเคลื่อนนวัตกรรม การพัฒนาอุตสาหกรรม และการส่งมอบบริการในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ

ที่มา : https://english.news.cn/20231121/9999859670804b6e8993489f1a620b4c/c.html

Moc จับมือบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน IT จากจีน หวังกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจกัมพูชา

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา (MoC) ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของจีนอย่าง บริษัท Converge Cloud Co., Ltd. หวังดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาและส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์ในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นำโดย Someth Somnea ปลัดกระทรวงกระทรวงการต่างประเทศ ในระหว่างการเป็นประธานในพิธีเปิดตัวบริษัท Converge Cloud ณ กรุงพนมเปญ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 พ.ย.) ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ให้เกิดการแพร่หลายและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันบริษัทมีบริษัทคลาวด์รายใหญ่ อย่างเช่น Google, Amazon, Huawei, Alibaba, Tencent, Basihan และ Azure เป็นหลัก ร่วมถึงรัฐบาลให้ความสำคัญด้านอีคอมเมิร์ซ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่เป็นก้าวสำคัญต่อไปในการเร่งความร่วมมือในระดับทวิภาคี พร้อมทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501387364/moc-join-hands-with-chinese-it-firms-to-boost-economic-growth/

‘ศก.ดิจิทัลเวียดนาม’ ปี 68 มูลค่า 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามรายงานประจำปีของกูเกิล (Google), เทมาเส็ก (Temasek) และ Bain & Company เปิดเผยว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของเวียดนามในปี 2566-2568 คาดว่าจะขยายตัว 20% ต่อปี และมีมูลค่ารวมประมาณ 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 โดยการขยายตัวของการชำระเงินทางดิจิทัลในเวียดนาม เป็นผลมาจากการได้รับแรงหนุนจากการส่งเสริมของภาครัฐฯ การลงทุนจากธนาคารพาณิชย์ และความนิยมในการใช้จ่ายผ่าน QR Code

ที่มา : https://www.reuters.com/article/southeast-asia-digital-economy-vietnam/vietnams-digital-economy-on-track-to-reach-around-45-bln-by-2025-industry-report-idINL4N3C20Y0

อาเซียนดันการค้าดิจิทัล จัดทำยุทธศาสตร์ความเป็นกลางทางคาร์บอน

นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 55 เมื่อวันที่ 19-22 ส.ค.66 ณ เมืองเซอมารัง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้สรุปผลลัพธ์สำคัญที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) และผู้นำอาเซียน วันที่ 3-7 ก.ย.66 โดยมีประเด็นสำคัญ คือ การจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน (DEFA) การจัดทำยุทธศาสตร์ความเป็นกลางทางคาร์บอน และปฏิญญาว่าด้วยกรอบการดำเนินงานสำหรับโครงการพื้นฐานด้านอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจใหม่ของอาเซียนที่ตอบสนองเชิงรุกต่อแนวโน้มการค้าของโลก รวมถึงเตรียมจัดทำวิสัยทัศน์อาเซียนฉบับใหม่ที่จะใช้ภายหลังปี 68 เพื่อยกระดับการรวมตัวของอาเซียนไปสู่การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ “ที่ประชุมเห็นชอบเอกสารที่จำเป็นในการเปิดเจรจาจัดทำความตกลง DEFA รวมถึงเอกสารผลการศึกษาประโยชน์และผลกระทบของ DEFA เอกสารแนวทางในการเจรจา และร่างแถลงการณ์ผู้นำอาเซียนในเรื่องนี้ โดยตั้งเป้าจะเริ่มเจรจาปลายปีนี้ และให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี คาดว่า DEFA จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าด้านดิจิทัลในอาเซียนให้สูงถึง 400,000-600,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 73 ส่วนยุทธศาสตร์อาเซียนเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในเศรษฐกิจสีเขียวและสนับสนุนการเติบโตที่ยั่งยืนของภูมิภาค”

ที่มา : https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ/2721446

วงการกาแฟเวียดนามจ่อปรับตัวตามกฎระเบียบด้านป่าไม้ของอียู

เวียดนาม นิวส์ (Vietnam News) สื่อท้องถิ่นของเวียดนาม รายงานว่า อุตสาหกรรมกาแฟของเวียดนามควรยกระดับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของห่วงโซ่คุณค่า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR) ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม เผยว่าการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของที่ดินทุกแปลง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของกฎระเบียบฯ ถือเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุด เนื่องจากเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับผู้ดำเนินงานจำนวนมาก จึงทำให้เวียดนามต้องพัฒนาฐานข้อมูลระดับชาติเกี่ยวกับพื้นที่ปลูกป่าและกาแฟ

ที่มา : https://www.infoquest.co.th/2023/327681

“ผู้เชี่ยวชาญ” ชี้เวียดนามมียอดการชำระเงินผ่านธนาคารสูงถึง 40 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน

คุณฝั่ม แอง ต๋วน (Pham Anh Tuan,) ผู้อำนวยการฝ่ายระบบการชำระเงินของธนาคารแห่งชาติเวียดนาม เปิดเผยว่าการชำระเงินแบบไร้เงินสดในเวียดนามเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 สังเกตได้จากมูลค่าการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารเฉลี่ย 40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารกลางเวียดนามได้ตั้งเป้าว่าบัญชีทั้งประเทศกว่าครึ่งหนึ่งของระบบการเงินจะหันมาใช้วิธีการชำระเงินแบบไร้เงินสดทั้งหมดภายในปี 2568 โดยจัดความสำคัญมาที่การส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานของระบบการชำระเงินให้ครอบคลุม เข้าถึงได้และมีความปลอดภัย เพื่อให้การชำระเงินแบบดิจิทัลเป็นรูปแบบการทำธุรกรรมที่ต้องการสำหรับทุกคน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/average-payments-via-banks-reach-40-billion-usd-a-day-insider/254892.vnp

“นายกฯ เวียดนาม” เยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการครั้งแรก

นายฟาม มินห์ ชินห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม จะเดินทางเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการครั้งแรก ระหว่างวันที่ 8-10 กุมภาพันธ์ 2566 ตามคำเชิญของนายลีเซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ โดยการเยือนในครั้งนี้เพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตในโอกาสที่ครบรอบ 50 ปี และครบรอบ 10 ปี ของหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ (MFA) เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศจะเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงทวิภาคี ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือหลายด้านระหว่างสิงคโปร์และเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/singapore/vietnam-prime-minister-pham-minh-chinh-official-visit-singapore-anniversary-3259141