“ตลาดสปป.ลาว” เนื้อหอมนักลงทุนเวียดนาม

คุณ Le Thi Phuong Hoa ที่ปรึกษาการค้าเวียดนามในประเทศสปป.ลาว กล่าวว่าตลาดสปป.ลาว ยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของนักลงทุนชาวเวียดนามจำนวนมาก เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นประเทศเพื่อนบ้านและสปป.ลาวได้การรับรองจากประเทศผู้ส่งออก นอกจากนี้ สินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปยังสปป.ลาว ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรในอัตราศูนย์และอยู่ในความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) รวมถึงข้อตกลงการค้าทวิภาคีของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ จากข้อมูลทางสถิติของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า พบว่าในปีที่แล้ว เวียดนามส่งออกไปยังตลาดสปป.ลาว มีมูลค่า 594.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การนำเข้าจากสปป.ลาวเพิ่มขึ้น 69.8% อยู่ที่ 778.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี เวียดนามได้ลงทุนในสปป.ลาว อยู่ที่ราว 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวม 417 โครงการ ทำให้เวียดนามขึ้นมาเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ และสปป.ลาวให้ความสำคัญกับนักลงทุนชาวเวียดนามในหลายด้านด้วยกัน อาทิ การเกษตรปลอดพิษ การผลิตและแปรรูป เป็นต้น

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1269814/laos-market-favoured-by-many-vietnamese-investors-trade-counsellor.html

สปป.ลาวอนุญาตให้บริษัทเอกชนศึกษาการสร้างสายส่งไฟฟ้าไปเวียดนาม

รัฐบาลสปป.ลาวได้ให้ไฟเขียวสำหรับบริษัทเอกชนสองแห่งในการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าขนาด 220kV ซึ่งจะนำไฟฟ้าจากเขื่อน 5 แห่งทางตอนเหนือของสปป.ลาวไปยังเวียดนาม หากการศึกษาได้รับการอนุมัติ สายการผลิตจะส่งกระแสไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำอู๋ที่ 3, 4, 5, 6 และ 7 ผ่านจังหวัดหลวงพระบางและจังหวัดพงสาลีไปยังเวียดนาม การศึกษาความเป็นไปได้จะใช้เวลา 18 เดือน และหากผลลัพธ์เป็นบวก การก่อสร้างในสายการผลิตจะเริ่มทันทีหลังจากนั้น การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในบริบทที่สปป.ลาวต้องการเพิ่มการส่งออกไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของเวียดนาม ปัจจุบันสปป.ลาวส่งออกไฟฟ้ามากกว่า 6,423MW ส่วนใหญ่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงเวียดนาม

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/laos-allows-private-firms-to-study-building-power-line-to-vietnam-post922950.vov

ม.ค. 2022 เพียงเดือนเดียว กัมพูชาส่งออกข้าวสารไปแล้วกว่า 5.3 หมื่นตัน

ในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว กัมพูชาส่งออกข้าวสารจำนวนกว่า 53,036 ตัน คิดเป็นมูลค่าสุทธิ 35.72 ล้านดอลลาร์ รายงานโดยสหพันธ์ข้าวกัมพูชา (CRF) ซึ่งระบุว่าปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 54.75 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021 โดยจีนยังคงเป็นผู้นำเข้าข้าวสารรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ด้วยการนำเข้าข้าวสารจากกัมพูชารวมกว่า 31,181 ตัน หรือร้อยละ 58.79 ของการส่งออกข้าวสารในช่วงเดือนมกราคม นอกจากนี้ กัมพูชายังได้ส่งออกข้าวเปลือกเป็นจำนวนกว่า 275,511 ตัน ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สร้างรายได้ 60.61 ล้านดอลลาร์ เข้าประเทศ ซึ่งในปีที่แล้วกัมพูชาส่งออกข้าวสารจำนวน 617,069 ตัน มูลค่ารวมกว่า 418 ล้านดอลลาร์ ไปยังจีนและประเทศในสหภาพยุโรปรวม 24 ประเทศ และประเทศสมาชิกอาเซียน 7 ประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501019580/january-2022-sees-more-than-53000-tonnes-of-cambodian-rice-exports-worth-35-72-million/

เช็คเลย สินค้าไทยตัวไหน โอกาสทองส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน

โดย ฐานเศรษฐกิจดิจิทัล

เช็คเลย  สินค้าไทยตัวไหน ไทยส่งออกประเทศเพื่อนบ้านแล้วปังยอดขายถล่มทลาย แนะผู้ประกอบการไทย โอกาสทองในตลาดจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว กัมพูชา เมียนมา หลังยอดส่งออกผ่านชายแดน-ผ่านแดนขยายตัวต่อเนื่อง

 

หลังจากเห็นยอดส่งออกสินค้าชายแดนและผ่านแดน ขยายตัวสุดปัง 9 เดือน ขยายตัว38%   ทั้งปี ตั้งเป้าขยายตัว 3% ต้องทำตัวเลขการส่งออกให้ได้ 789,198 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า โอกาสของสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องทั้งปี  ซึ่งปัจจัยสนับสนุนการส่งออกยังคงเป็นค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งช่วยให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น   บวกกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในสินค้าจำเป็นทั้งเพื่อการอุปโภคบริโภค และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการ Work From Home และการป้องกันหรือรักษาโรคในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งสินค้าไทยยังคงได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการในตลาดเพื่อนบ้าน

 

สินค้าไหนของไทยที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วยอดขายถล่มทลายและมีโอกาสโตในอนาคต ต้องบอกว่า “มาเลเซีย” ถือว่าเป็นประเทศส่งออกอันดับ 1 ของไทย ซึ่งสินค้าที่ ส่งออกสำคัญๆ ที่ยังขยายตัวเป็นบวกมาอย่างต่อเนื่อง  ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ฯ  ,ยางพารา , และเครื่องวีดิโอ เครื่องเสียงฯ

 

“เมียนมา” สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สายไฟฟ้า สายเคเบิ้ล ,น้ำมันดีเซล , และปุ๋ย

“กัมพูชา” สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 1,รถยนต์นั่ง , เครื่องจักรกลและส่วนประกอบอื่น ๆ

“สปป.ลาว” สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป , น้ำมันดีเซล , น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ

 

ส่วน การค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม ซึ่งประกอบด้วย  จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ   จะเห็นได้ว่าในเดือนกันยายนไทยส่งออกสินค้าผ่านแดน  มีมูลค่าการส่งออก 43,000 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง +31.95% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน  โดยมี “จีน” เป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่ง สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์, ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ,%) ยางพารา, ไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ยาง

 

รองลงมาเป็น “สิงคโปร์” สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ฯ , เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบฯ , และแผงวงจรไฟฟ้า , และอันดับสาม “เวียดนาม”  สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด ,เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และหม้อแบตเตอรี่และส่วนประกอบ

 

ผู้ประกอบการไทยคงต้องเร่งมองหาโอกาสและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพอาศัยความได้เปรียบจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้เร่งเจาะตลาดประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น และคาดการณ์ว่าความต้องการสินค้าไทยยังคงมีอย่างต่อเนื่องด้วยภาพลักษณ์ของสินค้าไทยที่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก

ที่มา : https://www.thansettakij.com/economy/503105

รัฐบาลสปป.ลาวให้คำมั่นที่จะกระจายแหล่งพลังงานเพื่อลดการนำเข้า

รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะกระจายแหล่งพลังงานโดยการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในฤดูแล้ง การพัฒนาเหล่านี้จะสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลในการเพิ่มปริมาณการส่งออกพลังงาน และลดปริมาณการนำเข้าไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาวมีศักยภาพมหาศาลในการผลิตพลังงานจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ แสงอาทิตย์ และพลังงานลมเพื่อจำหน่ายให้กับไทย เวียดนาม และกัมพูชา ณ ปี 2020 สปป.ลาวมีแหล่งพลังงาน 82 แหล่ง โดยมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมมากกว่า 10,000 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ความท้าทายหลักคือโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่มีศักยภาพประมาณ 1,500 เมกะวัตต์สูญเสียไปโดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำในช่วงฤดูฝนที่มีกระแสน้ำไหลสูง แต่ลาวต้องนำเข้าไฟฟ้าจากประเทศไทยมากขึ้นในฤดูแล้ง ราคาที่ EDL จ่ายสำหรับไฟฟ้าที่นำเข้านี้ทำให้มีราคาแพงกว่าไฟฟ้าที่นำเข้าจาก กฟผ. เกือบสองเท่า นี้เป็นสาเหตุสำคัญในการที่สปป.ลาวจำเป็นอย่างยิ่งในการลดการนำเข้าเละเพิ่มผลลิตไฟฟ้าในประเทศ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govt_220_21.php

KOICA มอบเงิน 13 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการอัพเกรดถนนแห่งชาติหมายเลข 8

สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของเกาหลี (KOICA) ในประเทศสปป.ลาวและกระทรวงโยธาธิการและการขนส่งได้ลงนามเกี่ยวกับโครงการ ‘การยกระดับ 6 สะพานและความปลอดภัยทางถนนบนถนนแห่งชาติหมายเลข 8 (ทางหลวงเอเชีย 15)’ โดย KOICA จะมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 13 ล้านเหรียญสหรัฐ โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับสะพาน 6 แห่ง เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยให้อยู่ในระดับ Asian Highway Class II และยกระดับการเชื่อมต่อระหว่างลาวกับประเทศเพื่อนบ้านเวียดนามและไทย ตลอดจนการเชื่อมต่อทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังจะเสริมสร้างขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ของรัฐในงานสาธารณะและภาคการขนส่งผ่านการถ่ายทอดทักษะทางเทคโนโลยีขั้นสูงของเกาหลี ซึ่งรวมถึงการบำรุงรักษาสะพานและการตรวจสอบความปลอดภัยทางถนน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_KOICA_215_21.php

การค้าระหว่างประเทศเมียนมาพุ่ง 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากของกระทรวงพาณิชย์ การในช่วง 9 เดือนแรก (1 ต.ค-9 ก.ค.) ของปีงบประมาณ 63-64 ส่งผลให้เกินดุลการค้า 363.9 ล้านเดอลลาร์สหรัฐฯ แม้มูลค่าการค้ารวมจะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 62-63 โดยการส่งออกอยู่ที่ 11.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้า 11.6 พันดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 23.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 29.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของปีก่อน การค้าระหว่างประเทศเมียนมาโดนผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านต้องคุมเข้มชายแดนและจำกัดการค้าขายในบางพื้นที่ชายแดน การค้าหยุดชะงักจากขนส่ง และการปิดทำการของธนาคารทำให้การค้าลดลง ทั้งนี้เมียนมาส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แร่ธาตุ ผลิตภัณฑ์จากป่า และสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ส่วนการนำเข้าจะเป็นสินค้าทุน วัตถุดิบอุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค จากสถิติพบว่าเมียนมากขาดดุลการค้ามาตลอด โดยในในปีงบฯ 62-63 ขาดดุลที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ,ปีงบฯ 61-62 ขาดดุลที่ 1.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ, ,ปีงบฯ 60-61 ขาดดุลที่ 3.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ , ปีงบฯ 59-60 ขาดดุลที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์ และปีงบฯ 58-59 ขาดดุลที่ 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ

ที่มา : https://gnlm.com.mm/regional-trade-tops-6-billion-in-seven-months-reports-moc/#article-title

EDL-Generation Plc (EDL-Gen ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่สปป.ลาว กำลังมองหาพันธมิตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ

บริษัทใหญ่ EDL-Generation Plc (EDL-Gen) ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของสปป.ลาว กำลังมองหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรวม 25% เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2,435 เมกะวัตต์ภายในปี 2572 จาก 1,949 เมกะวัตต์ในปัจจุบัน EDL-Generation Plc (EDL-Gen) มุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายของรัฐบาลสปป.ลาวในการเป็น “แบตเตอรี่แห่งเอเชีย” ผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำซึ่งสามารถผลิตได้มากถึง 30,000 เมกะวัตต์ทั่วประเทศอีกทั้งบริษัท กำลังส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์ มาเลเซียและสิงคโปร์ซึ่งเป็นตลาดใหม่ของสปป.ลาวผ่านโครงการ “Asean Power Grid” EDL-Gen ไม่เพียงแค่สริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในอาเซียน แต่ยังมุ่งมันที่จะพัฒนาพลังงานควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อมที่ดีอีกด้วยตามแนวทางของรัฐบาลที่วางไว้

ที่มา : https://www.bangkokpost.com/business/2106631/lao-power-generation-firm-seeking-partners-to-boost-capacity

กัมพูชาเร่งดำเนินการก่อสร้างถนนโครงการ National Road 10

ถนนแห่งชาติหมายเลข 10 ซึ่งจะเชื่อมโยงพระตะบองกับจังหวัดเกาะกงขณะนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วร้อยละ 43.75 และมีกำหนดเปิดให้สัญจรในปี 2023 กล่าวโดยรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ในระหว่างการเยือนรัฐมนตรีต่างประเทศได้เรียกร้องให้ China Road and Bridge Corp. (CRBC) และ WACC Technical Consulting Co. ดำเนินการก่อสร้างต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานทางเทคนิค โดยถนนมีความยาวกว่า 199 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างจังหวัดพระตะบองกับจังหวัดเกาะกงและผ่านจังหวัดโพธิสัตว์ ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่าการก่อสร้างอยู่ที่ 188 ล้านดอลลาร์ รัฐบาลกัมพูชาเป็นผู้ดำเนินโครงการจากเงินกู้ยืมระยะยาวของจีนร่วมกับงบประมาณของภาครัฐบาลกัมพูชา โดยมีจุดประสงค์ในการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคโดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยมีมูลค่าสูงถึง 7.236 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 ลดลงร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับปี 2019 ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ของไทย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50807538/national-road-10-project-construction-on-track/