เมียนมาส่งออกยางพารากว่า 76,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 94 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 5 เดือน

จากการรายงานของกระทรวงพาณิชย์เมียนมา ยางพารามากกว่า 76,594 ตันถูกส่งออกไปยังต่างประเทศในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (เมษายน-สิงหาคม) ของปีงบประมาณปัจจุบัน พ.ศ. 2566-2567 โดยมีมูลค่าประมาณ 94.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การผลิตยางพาราของเมียนมาจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 ตันต่อปี โดยที่ยางพาราส่วนใหญ่ของเมียนมาถูกผลิตในรัฐมอญ และกะเหรี่ยง รวมถึงภูมิภาคตะนาวศรี พะโค และย่างกุ้ง ทั้งนี้ จากข้อมูลฤดูกาลยางพาราปี 2561-2562 เมียนมามีพื้นที่ปลูกยางพารามากกว่า 1.628 ล้านเอเคอร์ โดยรัฐมอญมีพื้นที่ 497,153 เอเคอร์ รองลงมาคือเขตตะนาวศรี 348,344 เอเคอร์ และรัฐกะเหรี่ยง 270,760 เอเคอร์ จากการส่งออกยางพาราในปีงบประมาณ 2563-2564 เมียนมามีรายได้มากกว่า 449 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ ในปีงบประมาณ 2562-2563 มีรายได้กว่า 264.442 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2565-2566 ที่ผ่านมา เมียนมามีการผลิตยางพาราจำนวนมากกว่า 360,000 ตัน โดยกว่า 200,000 ตัน ถูกส่งออกไปยังคู่ค้าต่างประเทศ ยางพาราร้อยละ 70 ที่ผลิตในเมียนมาถูกส่งออกไปยังประเทศจีน นอกจากนี้ ยังส่งออกไปยัง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ อีกด้วย จากข้อมูลของสมาคม ความต้องการยางพาราในตลาดโลก ปริมาณการผลิตยางพาราในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอุปทานในตลาด นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคายางพาราของเมียนมา

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-exports-76000-tonnes-of-rubber-worth-us94-mln-in-5-months/#article-title

ราคายางพาราดีดตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 1,750 จ๊าดต่อปอนด์ หลังลดลงต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า

ราคายางพาราของเมียนมาดีดตัวกลับมาอยู่ที่ประมาณ 1,750 จ๊าดต่อปอนด์ในตลาดยางของรัฐมอญ หลังจากราคาลดลงอย่างต่อเนื่องมาสองสัปดาห์ เนื่องจากธุรกิจยางหยุดชะงักไประยะหนึ่งในช่วงฤดูมรสุมและกลับมาดำเนินการอีกครั้งในช่วงประมาณกลางเดือนกันยายน ซึ่งทำให้ช่วงกลางเดือนกันยายน ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 แตะระดับต่ำสุดที่ 1,590 จ๊าดต่อปอนด์ของ และราคายางตากแห้งอยู่ที่ 1,610 จ๊าดต่อปอนด์  ณ สิ้นเดือนกันยายน ราคายางตากแห้ง ขยับขึ้นเป็น 1,730 จ๊าดต่อปอนด์ และราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 อยู่ที่ 1,750 จ๊าดต่อปอนด์

ด้านสมาคมผู้ผลิตยางพาราในรัฐมอญ กล่าวว่า รัฐมอญซึ่งเป็นรัฐที่มีการผลิตยางรายใหญ่ในเมียนมาร์ มีการผลิตยางพาราของเมียนมาร์ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 300,000 ตัน ซึ่งยางพาราร้อยละ 70 ที่ผลิตในเมียนมาร์ถูกส่งออกไปยังประเทศจีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ อีกด้วย โดยในปี 2563-2564 ที่ผ่านมา เมียนมาร์มีรายได้จากการส่งออกยางพารามากกว่า 449 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 รายงานการผลิตยางในปี 2565-2566 ที่ผ่านมามีจำนวนมากกว่า 360,000 ตัน โดยกว่า 200,000 ตันถูกส่งออกไปยังคู่ค้าต่างประเทศ ด้านสมาคมผู้ผลิตยางพาราในรัฐมอญกล่าวว่ามีเป้าหมายที่จะส่งออกยางพารา 300,000 ตันในปี 2566-2567

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rubber-price-rebounds-to-k1750-per-pound-after-two-week-fall/

‘เมียนมา’ เผยราคายางพาราร่วงหนัก 1,600 จ๊าตต่อปอนด์

ราคายางพาราในตลาดรัฐมอญ ปรับตัวลดลง 1,600 จ๊าตต่อปอนด์ ในขณะที่ธุรกิจยางพาราของเมียนมาหยุดชะงักในช่วงระยะหนึ่ง และกลับมาดำเนินกิจการอีกครั้งในเดือน ก.ย. ราคาเปิดของยางแผ่นรมควัน (Local 3) อยู่ที่ 1,770 จ๊าตต่อปอนด์ และราคายางพาราตากแห้ง 1,750 จ๊าตต่อปอนด์ โดยสาเหตุสำคัญของการเปลี่ยนแปลงราคายางพาราของเมียนมาขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านอุปสงค์ยางพาราโลก ผลผลิตของกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอุปทานของตลาด ทั้งนี้ การผลิตยางพาราของเมียนมา พบว่ากำลังการผลิตยางพาราอยู่ที่ประมาณ 3 แสนตันต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่ราว 70% ผลิตเพื่อส่งออกไปยังจีน นอกจากนี้ยังส่งออกไปยังสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ อินเดีย ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rubber-price-dips-to-approximately-k1600-per-pound/#article-title

‘เวียดนาม’ หนึ่งในซัพพลายเออร์ยางพารารายใหญ่ของเกาหลีใต้

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่าในปัจจุบัน เวียดนามเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่อันดับ 4 ของเกาหลีใต้ รองจากไทย อินโดนีเซียและจีน โดยการส่งออกยางพาราของเวียดนามไปยังเกาหลีใต้ มีมูลค่า 18.92 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 15% และปริมาณ 12,470 ตัน เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ราคาส่งออกยางพาราของตลาดเกาหลีใต้ อยู่ที่ 1,517 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ปรับตัวลดลง 19.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งนี้ กรมศุลกากรเกาหลีใต้ ระบุว่าไทย อินโดนีเซีย จีน เวียดนามและญี่ปุ่นเป็นซัพพลายเออร์ยางพารารายใหญ่อันดับ 5 ของตลาดเกาหลีใต้ อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้มีการเพิ่มสัดส่วนการนำเข้ายางพาราจากอินโดนีเซียและจีนมากขึ้น แต่ลดการนำเข้าจากไทย เวียดนามและญี่ปุ่น เมื่อเทียบกับปี 2565

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnam-among-largest-rubber-suppliers-to-rok-post125709.html

กัมพูชาส่งออกยางพุ่ง 41% ในปีนี้

กัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์จากยางพารามูลค่ารวมแตะ 260 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี ขยายตัวกว่าร้อยละ 41.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDC) โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวกัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพารากว่า 53.5 ล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดปีนี้นับตั้งแต่เดือนมกราคม ด้านสมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ (ANRPC) ซึ่งมีสำนักงานในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้รายงานสถานการณ์การผลิตยางธรรมชาติทั่วโลก (NR) ว่ามีการเติบโตลดลงที่ร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือคิดเป็นปริมาณ 896,000 ตัน ในช่วงเดือนเมษายน และด้วยการผลิตที่ลดลง แต่ความต้องการยางธรรมชาติทั่วโลกกลับเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 2.7 ส่งผลทำให้ราคายางพาราปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2022 ตลาดยางธรรมชาติทั่วโลก คาดว่าจะมีปริมาณการผลิตถึง 14.693 ล้านตัน ขณะที่การบริโภคคาดว่าจะอยู่ที่ 14.738 ล้านตัน ตลอดทั้งปี ซึ่งโดยเฉพาะในตลาดยางพาราอย่าง จีน เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย และสหภาพยุโรป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501311550/cambodias-rubber-exports-surge-by-over-41/

“เมียนมา” เผยราคายางพารา ดีดทะลุ 1,400 จ๊าตต่อปอนด์

ราคายางพาราในรัฐมอญ (Mon State) ทะลุ 1,400 จ๊าตต่อปอนด์ ได้แรงหนุนจากแนวโน้มราคายางระหว่างประเทศที่พุ่งสูงขึ้น โดยในปัจจุบันราคายางพาราแบบแห้ง (Local 3) อยู่ที่ราว 1,405 จ๊าตต่อปอนด์ ในขณะที่ยางพาราแผ่นรมควันราคาประมาณ 1,425 จ๊าตต่อปอนด์ ทั้งนี้ สถานการณ์ราคายางพาราในเมียนมา ได้รับอิทธิผลมาจากอุปสงค์โลก ผลผลิตยางพาราในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผลผลิตของตลาด ซึ่งปัจจัยข้างต้นมีส่วนสำคัญต่อรัฐมอญ เนื่องจากรัฐมอญเป็นศูนย์กลางการผลิตยางพาราที่สำคัญของเมียนมา นอกจากนี้ สมาคมผู้ปลูกและผลิตยางพาราของประเทศเมียนมา ได้ตั้งเป้ายอดการส่งออกยางพาราไว้ที่ 300,000 ตัน ในปีงบประมาณ 2566-2567

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rubber-price-rebounds-surpasses-k1400-per-pound/#article-title

Q1 กัมพูชาส่งออกยางพาราขยายตัวเกือบร้อยละ 43

กัมพูชาส่งออกยางพาราเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.8 ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มูลค่า 168 ล้านดอลลาร์ รายงานโดยกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDCE) ซึ่งการส่งออกยางในช่วงเดือนมีนาคมมีมูลค่าแตะ 55 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับในปีที่แล้ว กัมพูชาส่งออกยางพาราไปยังต่างประเทศที่มูลค่ารวม 541.66 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.3 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยตลาดยางพาราที่สำคัญของกัมพูชาประกอบด้วย จีน เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย และสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งในปี 2023 แนวโน้มตลาดยางธรรมชาติทั่วโลกคาดว่าจะมีปริมาณการผลิตสูงถึง 14.693 ล้านตัน ขณะที่การบริโภคคาดว่าจะอยู่ที่ 14.738 ล้านตัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501274657/cambodias-rubber-exports-surge-by-43-in-q1/

ราคายางพาราเมียนมา พุ่งแตะ 1,300 จัตต่อปอนด์

ราคายางพาราในรัฐมอญ พุ่งแตะ 1,300 จัตต่อปอนด์ โดยที่ผ่านมาราคาเคยพุ่งไปถึง 1,600 จัตต่อปอนด์ ในเดือนกันยายน ปี 2565  เป็นผลมาจากความต้องการยางพาราและผลผลิตจากทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น ล้วนส่งผลให้ราคายางในตลาดเมียนมามีความผันผวน ซึ่งจากข้อมูลปี 2561-2562 เมียนมามีพื้นที่เพาะปลูกยางพารา 1.628 ล้านเอเคอร์ ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐมอญ รัฐกะเหรี่ยง ภาคตะนาวศรี ภาคพะโค และภาคย่างกุ้ง มีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 300,000 ตันต่อปี โดยร้อยละ 70 ของผลผลิตทั้งหมดส่งออกไปยังจีน ส่วนที่เหลือส่งออกไปยังสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ อินเดีย ญี่ปุ่น ฯลฯ ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2563-2564 ที่ผ่านมา เมียนมามีรายได้จากการส่งออกยางมากกว่า 449 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/rubber-price-hits-k1300-per-pound-in-domestic-market/

กัมพูชาส่งออกยางพาราเพิ่มขึ้น 3% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี

กัมพูชาส่งออกเนื้อยางแห้ง 105,048 ตัน ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2022 เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 168 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1.7% จาก 171 ล้านดอลลาร์ รายงานโดยผู้อำนวยการ General Directorate of Rubber ซึ่งปัจจุบันยางแห้ง 1 ตัน มีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1,604 ดอลลาร์ ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 71 ดอลลาร์ โดยกัมพูชาได้ทำการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไปยังประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และจีนเป็นหลัก ในแง่ของการเพาะปลูกกัมพูชาได้ปลูกต้นยางบนพื้นที่ทั้งหมด 404,044 เฮกตาร์ ซึ่งต้นยาง 77% ของพื้นที่เพาะปลูกมีอายุที่สามารถเก็บเกี่ยวได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501092229/cambodias-rubber-export-up-3-pct-in-first-5-months-of-2022/

“เวียดนาม” ส่งออกยางพาราฟื้นตัวพุ่งขึ้น

กระทรวงอุตสาหกรรม อ้างรายงานทางสถิติของกรมศุลกากร เปิดเผยว่าเวียดนามส่งออกพาราในเดือนพ.ค. อยู่ที่ 111,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 181 ล้านเหรียญสหรัฐ ในแง่ของปริมาณเพิ่มขึ้น 40.4% และในแง่ของมูลค่า เพิ่มขึ้น 27.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ตัวเลขข้างต้นนั้น แสดงให้ถึงการปรับตัวพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า โดยราคาส่งออกยางพาราเฉลี่ย เดือนพ.ค. อยู่ที่ 1,645 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จีนเป็นผู้นำเข้ายางพาราและยางสังเคราะห์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ทั้งนี้ สมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ (ANRPC) คาดการณ์ว่าความต้องการยางพาราทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในเร็วๆนี้ เนื่องจากการผ่อนคลายการจำกัดการเดินทางและการเปิดพรมแดนของประเทศอีกครั้ง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถกลับมาดำเนินการได้

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-rubber-exports-enjoy-drastic-upturn-post949051.vov