ราคาอ้างอิงน้ำมันปาล์มย่างกุ้งลดลงเล็กน้อย

สำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 6 กรกฎาคม อัตราอ้างอิงราคาขายส่งน้ำมันปาล์มสำหรับตลาดย่างกุ้งลดลงเหลือ 6,060 จ๊าดต่อviss จากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายนที่มีราคาอยู่ที่ 6,080 จ๊าดต่อviss ทั้งนี้ ตามข้อมูลของคณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าและจำหน่ายน้ำมันพืช คณะกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าและจำหน่ายน้ำมันพืชภายใต้กระทรวงพาณิชย์ได้เฝ้าติดตามราคา FOB ในมาเลเซียและอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิด โดยเพิ่มค่าขนส่ง ภาษีศุลกากร และบริการธนาคารเพื่อตัดสินใจอัตราอ้างอิงราคาขายส่งน้ำมันพืชรายสัปดาห์ในตลาด แม้จะมีราคาอ้างอิง แต่ราคาตลาดก็สูงเกินไป เพื่อควบคุมการขายเกินราคา กรมกิจการผู้บริโภคภายใต้กระทรวงพาณิชย์เรียกร้องให้ผู้บริโภคไม่ซื้อน้ำมันปาล์มในราคาสูง คณะกรรมการแจ้งว่าบุคคลใดก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโก่งราคาและการจัดเก็บน้ำมันเพื่อพยายามปั่นราคาตลาดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายสินค้าและบริการที่จำเป็น อย่างไรก็ดี การบริโภคน้ำมันปาล์มในประเทศเมียนมาอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี โดยมีการผลิตน้ำมันปาล์มในท้องถิ่นอยู่ที่ประมาณ 400,000 ตัน และมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย ประมาณ 700,000 ตันทุกปีเพื่อตอบสนองความต้องการภายในประเทศ

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/yangon-palm-oil-reference-price-shows-slight-decline/

ส่งออกกุ้งทะลุ 1,200 เมตริกตันในปีงบประมาณ 2568-2569

สถิติกรมประมงเมียนมา ระบุว่า เมียนมาส่งออกกุ้ง 1,273.933 เมตริกตันในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568-2569 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ซึ่งสร้างรายได้ 3.666 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ในปีงบประมาณ 2567-2568 ที่ผ่านมา (1 เมษายน 2567-31 มีนาคม 2568) เมียนมามมีการส่งออกกุ้งทางทะเล ทั้งหมด 1,115.953 เมตริกตัน มูลค่า 2.812 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และผ่านทางชายแดน 157.98 เมตริกตัน มูลค่า 0.854 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยผลิตภัณฑ์ประมงของเมียนมาถูกส่งออกไปยัง 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงญี่ปุ่น บังกลาเทศ จีน และไทย ผ่านช่องทางการค้าทางทะเลและชายแดน

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/shrimp-exports-top-1200mt-in-fy2025-26/#article-title

บริษัทและโรงงานกว่า 1,700 แห่งแข่งขันเพื่อขอรับการรับรอง GACC

ตามข้อมูลของแผนกการค้าในประเทศ (ทีม GACC) ขององค์กรส่งเสริมการค้าเมียนมาภายใต้กระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2021 ถึง 11 เมษายน 2025 บริษัทแปรรูปอาหารและโรงงานในเมียนมารวม 1,727 แห่งได้ยื่นใบสมัคร 3,583 ใบต่อสำนักงานบริหารศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) โดยผ่านกรมเกษตร (3,411 ใบ) กรมประมง (149 ใบ) กรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์ (14) และกรมอาหารและยา (9 ใบ) ตามพระราชกฤษฎีกา GACC ฉบับที่ 248 และ 249 ที่กำหนดให้ผู้ส่งออกอาหารต้องลงทะเบียน GACC เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2022 เป็นต้นไป เพื่อวางสินค้าของตนในตลาดจีน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับการขึ้นทะเบียนกับ GACC ได้แก่ กิจการน้ำมันพืช น้ำมันเมล็ดพืช ผลิตภัณฑ์ขนมอบสอดไส้ รังนกที่รับประทานได้และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ธัญพืชที่รับประทานได้ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่สีเมล็ดพืชและมอลต์ ผักสดและแห้ง ถั่วแห้ง พันธุ์พืช ถั่วและเมล็ดพืช ผลไม้แห้ง กาแฟและเมล็ดโกโก้ที่ยังไม่คั่ว อาหารพิเศษเฉพาะทางที่ไม่รวมนมผง อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง ผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำรวมถึงผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ อาหารสัตว์ และธุรกิจปศุสัตว์ กรมเกษตร กรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์ กรมประมง และกรมอาหารและยา ทั้งนี้ ผู้ส่งออกสามารถเข้าถึงระบบ China International Trade Single Window ได้โดยตรงผ่าน https://cifer.singlewindow.cn เพื่อสร้างบัญชีสำหรับกลุ่มอาหารที่ไม่อยู่ใน 18 กลุ่มดังกล่าว อย่างไรก็ดี ในส่วนของการขึ้นทะเบียนบริษัทผู้นำเข้านั้น กรมกักกันสัตว์และพืชภายใต้ GACC จะตรวจสอบการเข้าออกด่านกักกันสำหรับเมล็ดพืชที่นำเข้า (เมล็ดกาแฟดิบ เมล็ดโกโก้ ผักสดและอบแห้ง เครื่องปรุงรสพืช (เครื่องเทศพืช) เมล็ดพืชที่รับประทานได้ ถั่วแห้ง เมล็ดพืชน้ำมัน (พืชน้ำมัน) และผลิตภัณฑ์จากสัตว์และพืชสมุนไพรเพื่อระบุแหล่งที่มา บริษัทต่างๆ ไม่สามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนโดยตรงได้และจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนนี้ผ่านหน่วยงานที่มีอำนาจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยส่งอีเมลมาที่  dapq@customs.gov.cn  หรือยื่นจดหมายถึงสถานทูตจีนประจำเมียนมาหรือสถานทูตเมียนมาประจำประเทศจีน

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/1700-firms-factories-vie-for-gacc-certification/#article-title

ธนาคารกลางเมียนมาทุ่ม 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สู่ภาคอุตสาหกรรมน้ำมันเชื้อเพลิง

ธนาคารกลางเมียนมา (CBM) ประกาศเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมาว่า จะอัดฉีดเงิน 25 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมน้ำมันเชื้อเพลิง โดยในวันดังกล่าว ธนาคารกลางเมียนมา มีการขายเงินตราต่างประเทศกว่า 319,900 เหรียญสหรัฐ และ 106,080 บาท นอกจากนี้ ยังประกาศขายเงินตราต่างประเทศ 55 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 เมษายน ธนาคารกลางเมียนมามีการขายเงินตราต่างประเทศมากกว่า 2.35 ล้านบาท วันที่ 4 เมษายน ขายเงินตราต่างประเทศ 500,000 หยวน วันที่ 7 เมษายน มีการประกาศว่าจะอัดฉีดเงิน 30 ล้านเหรียญสหรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมน้ำมันเชื้อเพลิง  รวมทั้งมีการขายเงินตราต่างประเทศ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ และมากกว่า 6 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 10 เมษายน มีการขายเงินตราต่างประเทศเกือบ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐ  อย่างไรก็ดี สำหรับช่วงที่ผ่านมา ในเดือนมีนาคม CBM อัดฉีดเงินเข้าระบบกว่า 126 ล้านเหรียญสหรัฐ 320 ล้านบาท และ 3.6 ล้านหยวน ในเดือนกุมภาพันธ์ มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบกว่า 88 ล้านเหรียญสหรัฐ 7.5 ล้านหยวน และ 161 ล้านบาท และในเดือนมกราคมอัดฉีดเงินเข้าระบบกว่า 124 ล้านดอลลาร์ 13.8 ล้านบาท และ 4.8 ล้านหยวน นอกจากนี้ ธนาคารกลางเมียนมา ยังมีเป้าหมายที่จะควบคุมความไม่มั่นคงในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการลดค่าเงิน

ที่มา : http://• https://www.gnlm.com.mm/cbm-to-infuse-us25m-into-fuel-oil-industry/