‘โรงงานเวียดนาม’ 4 แห่ง ดันรายได้ซัมซุง 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

จากรายงานผลประกอบการล่าสุดของบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ (Samsung Electronics) พบว่ารายได้ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 54 พันล้านเหรียญสหรัฐ และหากพิจารณากำไรของบริษัทจะเห็นได้ว่าเพิ่มขึ้น 4 เท่า คิดเป็นมูลค่าราว 5.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยในบรรดาโรงงานของบริษัทที่ดำเนินกิจการทั่วโลก เห็นได้ว่ามีโรงงานที่ดำเนินการอยู่ในประเทศเวียดนาม จำนวน 4 แห่ง ทำรายได้รวมมากว่า 16 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อหักเหลือกำไรสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 1.18 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 23% ของกำไรรวมของบริษัทแม่ ทั้งนี้ โรงงานซัมซุง ‘Samsung Electronics Vietnam Thai Nguyen’ ตั้งอยู่ในตังหวัดไทเหงียน ทำรายได้สูงสุดที่ 690 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมาโรงงาน Samsung Electronics Vietnam และ Samsung Display Vietnam อยู่ที่ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 120 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี ซัมซุงยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะคู่แข่งอย่างหัวเว่ย และมีรายงานของบริษัทวิจัยการตลาด เปิดเผยว่าซัมซุงได้สูญเสียตำแหน่งผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนแบบพับให้กับหัวเว่ยในไตรมาสแรกของปีนี้

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/four-vietnam-factories-generate-us12-bln-in-net-profit-for-samsung-post1100774.vov

‘วินฟาสต์’ ชะลอเปิดโรงงานอีวี 4 พันล้านดอลลาร์อีกรอบ เหตุขาดทุนยับในสหรัฐ

ก่อนหน้านี้ วินฟาสต์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) สัญชาติเวียดนาม ประกาศเมื่อปี 2565 ว่าจะสร้างโรงงานรถอีวี และแบตเตอรี่ในสหรัฐฯ โดยโรงงานดังกล่าวจะสามารถผลิตรถยนต์ได้ 150,000 คันต่อปี พยายามใช้ประโยชน์จากที่รัฐบาลโจ ไบเดน มีนโยบายอุดหนุนการลงทุนต่างชาติที่เข้ามาตั้งโรงงานรถอีวีในสหรัฐฯ ซึ่งเดิมทีบริษัทวางแผนการสร้างโรงงานให้แล้วเสร็จในเดือน ก.ค.2567 แต่ต่อมาได้เลื่อนเปิดการดำเนินการไปปีหน้า และกำลังพิจารณาขยายการเปิดดำเนินการออกไปอีกครั้ง

ทั้งนี้ โฆษกของรัฐนอร์ทแคโรไลนา เปิดเผยว่าวินฟาสต์ได้ยื่นปรับแก้ขนาดอาคารของโรงงานดังกล่าวถึง 2 ครั้ง โดยล่าสุดได้ยื่นเข้ามาเมื่อเดือน เม.ย. และตอนนี้อยู่ระหว่างที่แผนการอนุญาตของเคาน์ตีรัฐนอร์ทแคโรไลนาทำการตรวจสอบอยู่

อย่างไรก็ตาม มีรายงานระบุว่ารถยนต์ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในประเทศก็ขายให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท โดยในปีที่แล้ว ผลประกอบการขาดทุนเพิ่มขึ้น 15% หรือ 2.4 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/world/1129137

‘VinFast’ รถไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม รุกหน้าเปิดร้านตัวแทนจำหน่ายแห่งแรกในอินโดนีเซีย

วินฟาสต์ (VinFast) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนาม ประกาศร่วมมือกับบริษัทในท้องถิ่น ‘PT Gallerie Setia Utama’ ในการเปิดร้านตัวแทนจำหน่ายแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเมืองเดป็อก (Depok) จังหวัดชวาตะวันตก โดยร้านตัวแทนจำหน่ายจะเริ่มจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น VF5 และ VF e34 ขณะที่บริษัทวินฟาสต์มีแผนที่จะขยายเครือข่ายการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในหัวเมืองใหญ่ของประเทศอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ นาย Nguyen Duc Thanh รองประธานกรรมการบริหารของบริษัทวินฟาสต์ กล่าวว่าการเปิดตัวตัวแทนจำหน่ายของอินโดนีเซียในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการนำรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงและการให้บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยมนำเสนอสู่ผู้บริโภค

นอกจากนี้ วินฟาสต์ วางแผนที่จะสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้า มูลค่ากว่า 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ บนพื้นที่ 200 เฮคเตอร์ในเบอกาซี และจะจัดหารถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซียและออสเตรเลีย รวมถึงแบตเตอรี่ EV และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

ที่มา : https://jakartaglobe.id/business/vietnams-vinfast-opens-first-dealer-store-in-indonesia

โรงงานประกอบรถยนต์ในเมืองกันดาลของกัมพูชาใกล้แล้วเสร็จ

GTV Motor Co., Ltd. บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งจัดตั้งโรงงานในประเทศกัมพูชา ประกาศว่าการลงทุนในโรงงานประกอบรถยนต์บนเส้นทางถนน National Road 2 ในเขตจังหวัดกันดาลใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยโรงงานดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 100,000 ตารางเมตร และคาดว่าจะมีกำลังการผลิตรถยนต์สูงสุดถึง 35,000 คันต่อปี ด้วยเม็ดเงินลงทุนมูลค่ารวมกว่า 15.6 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการอนุมัติครั้งแรกจากสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ในเดือนมิถุนายน 2022 ขณะที่การจ้างงานคาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานใหม่สำหรับคนในพื้นที่กว่า 738 ตำแหน่ง และเพื่อเป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เหมาะสมกับภาคการผลิตยานยนต์ต่อไป บริษัทยังได้จัดตั้ง “GTV Automotive Electronics Research Institute (GTV AERI)” ในประเทศกัมพูชา โดยได้รับความร่วมมือจาก เยอรมนี จีน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ทำงานร่วมกับสถาบันโพลีเทคนิคแห่งชาติกัมพูชา เพื่อจัดการฝึกอบรมวิชาชีพขั้นสูง เพื่อการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501416846/automotive-assembly-plant-nears-completion-in-kandal/

‘เวียดนาม’ เล็งเข้ามามีบทบาทในห่วงโซ่อุปทานด้านการบินและอวกาศ

สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุนของฮานอย (HANSIBA) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงานแถลงข่าวและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดสำหรับระบบการจัดการคุณภาพในภาคการบิน เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการของสมาชิกในสมาคมอุตฯ และบริษัทข้ามชาติ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

ทั้งนี้ มัตสึโมโตะ อิซูมิ เลขาธิการคนแรกของสถานทูตญี่ปุ่นในเวียดนาม กล่าวว่าบริษัทโอนัมบะของญี่ปุ่นได้เปิดโรงงานในเวียดนาม เพื่อผลิตชิ้นส่วนให้กับผู้ผลิตเครื่องบินโบอิ้ง และยังกำหนดเป้าหมายให้มีการเชื่อมโยงกับองค์กรจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเวียดนามเข้าด้วยกัน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-seeks-to-become-player-in-aerospace-supply-chains/270906.vnp

CDC อนุมัติโครงการลงทุนแห่งใหม่ในจังหวัดสีหนุวิลล์

คณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษกัมพูชา (CSEZB) หน่วยงานของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ได้อนุมัติการออกใบรับรองการจดทะเบียนสำหรับโครงการลงทุนใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 64.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในบรรดาโครงการลงทุนใหม่อย่าง บริษัท Huale Steel (Cambodia) Co., Ltd. ได้ยื่นขอเสนอโครงการลงทุนมูลค่ากว่า 40 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กทุกชนิด ในเขตเศรษฐกิจพิเศษท่าเรือสีหนุวิลล์ (SPSEZ) พร้อมจ้างงานกว่า 523 คน ทำนองเดียวกัน บริษัท Wangmao (Cambodia) Homeware Co., Ltd. วางแผนจัดตั้งโรงงานผลิตเครื่องใช้ภายในบ้าน ด้วยเงินลงทุนมูลค่า 6.2 ล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าจะสร้างการจ้างงานถึง 1,369 ตำแหน่ง ตามมาด้วย บริษัท Cambodian Luheng Food Co., Ltd. ในการจัดตั้งโรงงานอาหารสัตว์ มูลค่าการลงทุน 3 ล้านดอลลาร์ ใกล้กันกับ บริษัท Ultimate Motion Co., Ltd. ที่มีการวางแผนลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ มูลค่าการลงทุน 3 ล้านดอลลาร์ สำหรับ บริษัท Jushi (Cambodia) Co., Ltd. วางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก สายไฟ และสายเคเบิล ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยโครงการลงทุนของ บริษัท Starblaze (Cambodia) Plastic & Metal Co., Ltd. มูลค่าการลงทุน 3.6 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย บริษัท Wanan Gas Control (Cambodia) Co., Ltd. คาดว่าจะลงทุน 2 ล้านดอลลาร์ และ บริษัท He Dui Optoelectronics Co., Ltd. วางแผนที่จะลงทุน 1.5 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501364491/cdc-approves-40m-steel-factory-project-in-sihanoukville/

‘LEGO’ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในเวียดนาม ช่วงครึ่งหลังปีหน้า

บริษัทผลิตของเล่นระดับโลก “LEGO” เปิดเผยว่าโรงงานของบริษัทที่ตั้งอยู่ในจังหวัดบิ่นห์เยือง (Binh Duong) เตรียมที่จะผลิตของเล่นชิ้นแรกในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ขณะที่ Preben Elnef รองประธานของ LEGO Group กล่าวว่าโรงงานแห่งนี้มีแรงงานกว่า 2 พันคน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 44 เฮกตาร์ในนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม-สิงคโปร์ และมีแนวโน้มว่าจำนวนคนงานจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีนี้ นอกจากนี้ โรงงานแห่งนี้นับเป็นโรงงานแห่งที่ 6 ของบริษัท และยังเป็นโรงงานแห่งที่ 2 ในเอเชียที่เป็นโรงงานคาร์บอนแห่งแรกของบริษัท โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์

ที่มา : https://e.vnexpress.net/news/business/companies/lego-plant-in-vietnam-to-start-launching-products-in-h2-next-year-4654152.html

ครึ่งแรกของปี กัมพูชาส่งออกยางรถยนต์มูลค่ารวม 125 ล้านดอลลาร์

กัมพูชาส่งออกยางรถยนต์ในช่วงครึ่งแรกของปีมูลค่ารวม 125 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) โดยปัจจุบันกัมพูชามีโรงงานผลิตยางรถยนต์ทั้งสิ้น 3 แห่ง ดำเนินการอยู่ในจังหวัด สวายเรียง พระสีหนุ และกระแจะ ซึ่งโรงงานแรกเป็นของ บริษัท Sailun Group Co., Ltd. ของจีน สามารถผลิตยางเรเดียลผสมเหล็กได้ 5 ล้านเส้นต่อปี สำหรับโรงงานที่สองเป็นของ บริษัท General Tyre Technology (กัมพูชา) ด้วยเม็ดเงินลงทุนมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ สามารถผลิตยางเรเดียลกึ่งเหล็ก 5 ล้านเส้น และยางเรเดียลเสริมเหล็ก 900,000 เส้นต่อปี ขณะที่โรงงานของ บริษัท Newbustar (Cambodia) Tyre Co., Ltd. สามารถผลิตยางเรเดียลสมรรถนะสูงได้ถึง 8.5 ล้านเส้นต่อปี โดยการส่งออกส่วนใหญ่ส่งออกไปยังยุโรป สหรัฐอเมริกา เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501346714/cambodia-auto-tire-exports-at-125-million-in-h1/

‘H&M’ เร่งสอบโรงงานในเมียนมา หลังเผชิญแรงกดดัน

เอช แอนด์ เอ็ม (H&M) แบรนด์สินค้าแฟชั่นชั้นนำของสวีเดน และผู้ค้าปลีกสินค้าแฟชั่นรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรายงานว่ากำลังตรวจสอบ 20 รายที่ถูกละเมิดสิทธิแรงงานในโรงงานผลิตเสื้อผ้าในเมียนมา โดยกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนในอังกฤษ และศูนย์ธุรกิจกับทรัพยากรสิทธิมนุษยชน (BHRRC) ได้ติดตามคดีละเมิดสิทธิแรงงานในโรงงานผลิตเสื้อผ้าในเมียนมา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 – ก.พ. 2566 ทั้งหมดอยู่ที่ 156 ราย เพิ่มขึ้นจาก 56 รายในปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงการลดทอนของสิทธิแรงงานในเมียนมาตั้งแต่มีการรัฐประหารในเดือน ก.พ. 2564 โดยเฉพาะข้อกล่าวหาการลดค่าจ้างและการโกงค่าจ้างที่รายงานมากที่สุด รองลงมาการเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมและการถูกบังคับให้ทำงานล่วงเวลา

ที่มา : https://www.todayonline.com/world/hm-probes-alleged-myanmar-factory-abuses-pressure-intensifies-2234581

ในช่วงครึ่งแรกของปีจำนวนโรงงานในกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) รายงานสถานการณ์การจัดตั้งโรงงานใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แม้ว่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมจะลดลงเนื่องจากความต้องการที่ชะลอตัวจากตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป โดยจำนวนโรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,995 แห่ง ณ เดือนมิถุนายนปีนี้ สร้างการจ้างงานใหม่เกือบ 1 ล้านตำแหน่ง ซึ่งในช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการจดทะเบียนจัดตั้งโรงงานใหม่ที่ 1,974 แห่ง สำหรับการส่งออกของกัมพูชาลดลงเล็กกน้อยร้อยละ 2.1 หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 11,489 ล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ นับเป็นการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มอยู่ที่ 3,654 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 19 การส่งออกรองเท้ามูลค่า 702 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 17.2 สินค้าเดินทางที่มูลค่า 999 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 17.1 การส่งออกจักรยานคิดเป็น 332 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 30.5 อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1.3 เท่าหรือคิดเป็นมูลค่ารวมกกว่า 1,440 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501338601/number-of-factories-in-kingdom-rises-in-h1/