นายกฯ สปป.ลาว จะนำประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อกระตุ้นการพัฒนาที่ยั่งยืน

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวในระหว่างเข้าร่วมประชุมณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 80 ถึงการนำนวัตกรรมดิจิทัลที่เป็นหัวใจสำคัญในการกระตุ้นความก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งปัจจุบันยังดำเนินไปอย่างช้าๆ ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันการปฏิบัติตาม SDGs นั้น เป็นไปตามแผนเพียง 15% เท่านั้น ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการเร่งการดำเนินการ SDG ในประเทศลาว ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี 2030 เพื่อสร้างขีดความสามารถในด้านนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อช่วยพัฒนาเส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_76_PM_y24.php

สปป.ลาว – เอกชนจีน ลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าลาวไปยังจีน

สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป.ลาว และบริษัท Shanghai Zhe Zhe Qang Co., Ltd และ Lao Konsin International Group สัญชาติจีน ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าของ สปป.ลาว ไปยังประเทศจีน โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าอุตสาหกรรม และสมุนไพรพื้นบ้าน โดยปลัดกระทรวงฯ กล่าวว่า “การลงนามดังกล่าวนี้จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือในด้านองค์ความรู้โดยเฉพาะด้านการวางแผนการผลิต การฝึกอบรม และการปรับปรุงคุณภาพสินค้าของ สปป.ลาว เพื่อให้สินค้าได้มาตรฐานการส่งออกและสามารถส่งออกไปยังประเทศจีนได้ และในที่สุดจะสามารถจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างประเทศในประเทศลาว ผ่านความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าและหัตถกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์”

ที่มา : https://kpl.gov.la/En/Detail.aspx?id=82033

เศรษฐกิจของรัฐมีแนวโน้มเติบโต มูลค่าสกุลเงินจะพุ่งสูงขึ้นหลังการคว่ำบาตรและความท้าทายทางการค้า

เช้าวานนี้ ได้มีการประชุมรัฐบาลสหภาพครั้งที่ 4/2567 จัดขึ้นที่สำนักงานประธาน SAC ในเมืองเนปิดอว์ โดยมีประธานสภาบริหารแห่งรัฐ นายกรัฐมนตรี พลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย เป็นประธาน ซึ่งนายกรัฐมนตรี มิน ออง หล่ายได้เปิดเผยว่ารัฐบาลมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพด้วยหลักนิติธรรม จัดการราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้มีความยุติธรรม และรับประกันมูลค่าสกุลเงินที่แข็งแกร่งของประเทศ โดยเขากล่าวต่อว่า เมียนมากำลังเผชิญกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการปิดกั้นเส้นทางการค้าเพื่อชะลอการไหลของสินค้าโภคภัณฑ์เนื่องจากขาดความสงบสุขและเสถียรภาพที่กระทำโดยบุคคลที่ไร้ศีลธรรมบางคน อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวเพิ่มเติมในภาคส่วนอื่นๆ อีกว่า หากเกษตรกรสามารถพัฒนารูปแบบการปลูกพืชอย่างเป็นระบบ ผลผลิตทางการเกษตรจะดีขึ้นในประเทศ เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหาร และสนับสนุนการจัดหาอาหารให้กับประชาคมระหว่างประเทศ สำหรับในภาคส่วนน้ำมันเพื่อการบริโภค นายกรัฐมนตรียังสั่งเจ้าหน้าที่ว่า ผลผลิตพืชน้ำมันต่อเอเคอร์ที่สูงจะช่วยตอบสนองความต้องการน้ำมันสำหรับบริโภค และลดการใช้จ่ายเป็นเงินตราต่างประเทศ ในส่วนของภาคการเพาะปลูกฝ้าย นายกรัฐมนตรีชี้ว่าการผลิตเส้นด้ายคุณภาพจากสำลีที่บ้านสามารถลดปริมาณการนำเข้าเส้นด้ายและสิ่งทอได้ นอกจากนี้ เขาเน้นย้ำถึง การเพิ่มพื้นที่ป่าในพื้นที่หมู่บ้านที่เกี่ยวข้องเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า และในภาคการศึกษา พลเอกอาวุโสกล่าวว่าโรงเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานในบางภูมิภาคกำลังเผชิญกับความล่าช้าในการเรียนรู้ด้วยเหตุผลหลายประการ และจำเป็นต้องเตรียมการสำหรับการเปิดโรงเรียนอีกครั้งและการกลับมาเรียนอีกครั้ง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/prospects-brighten-state-economy-set-to-thrive-currency-value-to-surge-in-post-sanctions-and-trade-challenges/

นักการทูตจีนเยือนกัมพูชา พร้อมดันโครงการ BRI

รัฐมนตรีต่างประเทศเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการประสานงานระหว่างรัฐบาล (ICC) ครั้งที่ 7 ระหว่าง จีน-กัมพูชา ซึ่งมีเป้าหมายในการดำเนินโครงการภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่วันที่ 21-23 เมษายน นำโดยรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) เป็นประธานร่วมในการประชุม ซึ่งการปรากฏตัวของรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ชี้ให้เห็นถึงการให้ความสำคัญด้านการส่งเสริมการบูรณาการทางด้านเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เช่นเดียวกับการยึดมั่นในพันธกรณีของจีนในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่เผชิญหน้าประเทศต่างๆ ภายในภูมิภาคเพื่อให้บรรลุผลประโยชน์ร่วมกันและการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501475828/top-chinese-diplomat-in-kingdom-to-push-bri-projects/

ศุลกากรกัมพูชาตรวจยึดเนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย พร้อมเผาทำลายกว่า 7.5 ตัน

กรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา (GDCE) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เผาทำลายเนื้อสัตว์กว่า 7,595 กิโลกรัม ซึ่งนำเข้าโดยไม่มีเอกสาร รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อีกทั้งการขนส่งที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้คุณภาพเสียหาย โดยรายละเอียดกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปราบปราม 2 คดี คดีที่ 1 ตรวจยึดและเผาทำลายเนื้อไก่และเครื่องในไก่ราว 395 กิโลกรัม ที่ถูกลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมายผ่านทางชายแดน ขณะที่คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนและปราบปรามการลักลอบขนสินค้าเข้าเขต 5 ได้ตรวจยึดเครื่องในไก่และขาเป็ดจำนวน 7,200 กิโลกรัม และเผาทำลาย หลังจากปราบปรามและยึดจากผู้ค้า ซึ่งขนส่งโดยรถยนต์โดยสาร 2 คัน เข้ามายังกัมพูชาอย่างผิดกฎหมาย

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501476170/more-than-7-5-tonnes-of-damaged-chicken-meat-chicken-parts-and-duck-legs-destroyed/

ไทย สปป.ลาว และออสเตรเลีย ร่วมฉลองครบรอบ 30 ปีของการเปิดสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1

ตัวแทนของประเทศไทย สปป.ลาว และออสเตรเลีย เข้าร่วมงานฉลองการก่อสร้างสะพานมิตรภาพลาว-ไทยแห่งแรก ซึ่งเปิดใช้มาตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2537 เพื่อสร้างสายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพที่ยั่งยืนระหว่างทั้งสามประเทศ โดยสะพานแห่งนี้รัฐบาลออสเตรเลียได้ร่วมให้ทุนสนับสนุนการก่อสร้าง ซึ่งเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างเวียงจันทน์ สปป.ลาว กับจังหวัดหนองคายของไทย โดยตระหนักถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน สะพานแห่งนี้ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างลาวและไทย และตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา สะพานแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการคมนาคม การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนระหว่างลาว ไทย และทั่วทั้งภูมิภาค

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_75_LaoThai_y24.php