เปิดทิศทางความร่วมมือระหว่างจีน-อาเซียน ปี 2021

ความร่วมมือ “จีน-อาเซียน” ในปี 2021 เปิดโอกาสใหม่ในการปรับปรุงรวมทั้งยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน และการขยายความร่วมมือเชิงปฏิบัติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลวิเคราะห์เกี่ยวกับความร่วมมือจีน – อาเซียนจะดำเนินไปอย่างไรในปี ๒๐๒๑ (พ.ศ.๒๕๖๔) ตอนที่ ๑ เช่น ความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ “ภายใต้สถานการณ์ใหม่จีนถือว่าอาเซียนเป็นทิศทางลำดับความสำคัญของการทูตเพื่อนบ้านและการก่อสร้างร่วมกันที่มีคุณภาพสูงของพื้นที่สำคัญ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (ข้อริเริ่ม “สายแถบและเส้นทาง” “Belt and Road Initiative : BRI) สนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียนสนับสนุนตำแหน่งศูนย์กลางของอาเซียนในความร่วมมือเอเชียตะวันออกและ สนับสนุนอาเซียนในการสร้างโครงสร้างภูมิภาคที่เปิดกว้างและครอบคลุมมีบทบาทมากขึ้น” และ “จีนจะขยายการเปิดสู่โลกภายนอกอย่างไม่หยุดยั้ง เพิ่มผลการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจภายในและระหว่างประเทศและขับเคลื่อนการฟื้นตัวร่วมกันของโลกด้วยการฟื้นตัวของตนเองและทุกประเทศในโลกรวมทั้งอาเซียนจะได้รับประโยชน์” เป็นต้น

ที่มา : https://www.thansettakij.com/content/columnist/467241

ราคาข้าวเวียดนามพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี

ราคาข้าวหัก 5% ของเวียดนาม ปรับตัวเพิ่มขึ้น 500-505 เหรียญสหรัฐต่อตันในปี 2564 ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 รองประธานสมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) กล่าวว่าราคาที่สูงขึ้นดังกล่าวบ่งบอกถึงคุณภาพข้าวของเวียดนาม และชี้ให้เห็นถึงความต้องการนำเข้าข้าวที่เพิ่มขึ้นจากตลาดต่างประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2564 มีผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ในภูมิภาค ได้แก่ จีน บังกลาเทศและฟิลิปปินส์ นำเข้าข้าวจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก อาจเห็นว่าในปีนี้ ปริมาณการส่งออกข้าวลดลง เนื่องมาจากบาทแข็งค่า นอกจากนี้แล้ว ข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนามและสหภาพยุโรป (EVFTA) จะทำให้กลุ่มสมาชิกสหภาพยุโรปจัดสรรโควตาภาษีแก่ข้าวของเวียดนาม ประมาณ 10,000 ตันในปีนี้ ขณะที่ ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอังกฤษ – เวียดนาม (UKVFTA) จะลดภาษีนำเข้าสำหรับข้าวเวียดนามถึง 0%

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-rice-prices-hit-10-year-high-316147.html

จำนวนธุรกิจที่จดทะเบียนใหม่ในเวียดนาม พุ่ง 21.9% ในเดือน ม.ค.

สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าบริษัทที่จดทะเบียนใหม่ในเดือนมกราคม อยู่ที่ราว 10,100 แห่ง เพิ่มขึ้น 21.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เงินทุนจดทะเบียนรวม 155.1 ล้านล้านด่อง (6.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และจำนวนแรงงาน 115,900 คน เพิ่มขึ้น 25.9 และ 37.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ ทั้งนี้ โดยภาพรวม มีเงินทุนไหลเข้าเศรษฐกิจพุ่ง 395.1 ล้านล้านด่อง เพิ่มขึ้น 10.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม เงินทุนจดทะเบียนเฉลี่ย 15.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ จำนวนธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการ 6,503 แห่ง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/number-of-newlyestablished-firms-surges-219-percent-in-january/195842.vnp

คนขับรถบรรทุกร้องให้ลดข้อจำกัด COVID-19 ในเมียนมา

คนขับรถบรรทุกที่ให้เดินรถในเส้นทางย่างกุ้ง  มัณฑะเลย์ มูเซ อยู่ในระหว่างร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลดข้อจำกัด COVID-19 สำหรับการขนส่งทางไกล เพราะต้องขอใบรับรองสุขภาพถึงสองครั้ง  ซึ่งจะต้องจาก 3 วันเป็น 7 วัน จากย่างกุ้งไปยังมูเซซึ่งเป็นด่านชายระว่างเมียนมา-จีน ที่ใหญ่ที่สุด และยังร้องขออนุญาตให้ขับรถเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเนื่องจากปัจจุบันถูกห้ามให้ขับรถตอนกลางคืน ทั้งนี้ยังต้องจ่าย 10,000 จัตสำหรับการทดสอบ ซึ่งรวมแล้วต้องจ่ายถึง 20,000 จัต ในการเดินทางต่อครั้ง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/truckers-seek-reductions-myanmar-covid-19-restrictions.html

สปป.ลาวเผยขาดดุลการค้า 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2563

สปป.ลาวขาดดุลการค้า 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธันวาคม 2563 ตามข้อมูลล่าสุดจาก เว็บไซต์ the Lao people’s Democratic Republic  Trade Portal โดยรายงานระบุว่าการส่งออกของสปป.ลาวในช่วงเดือนธันวาคมมีมูลค่า 468 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 546 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ แร่ทองแดง กล้วย เยื่อไม้และเศษกระดาษ ชิ้นส่วนกล้อง ทองแดงและผลิตภัณฑ์ทองแดงเสื้อผ้า ยาง กาแฟ มันสำปะหลังและข้าว สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ยานพาหนะทางบกซึ่งไม่รวมรถจักรยานยนต์เครื่องจักรกล (ไม่รวมยานยนต์) อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า ดีเซล ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์รวมทั้งกระจกและโซ่ เหล็กเส้นและเหล็กแปรรูป ผลิตภัณฑ์พลาสติกและผลิตภัณฑ์เคมี ซึ่งจีนยังคงเป็นประเทศ การส่งออกอันดับต้น ๆ ของสปป.ลาว ตามด้วยเวียดนามและไทย ในขณะที่ประเทศหลักในการนำเข้าคือไทย จีนและเวียดนาม  ทั้งนี้ตัวเลขเหล่านี้ไม่รวมรายได้จากการส่งออกไฟฟ้าและจะอัปเดตเมื่อมี

ที่มา : https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2021/02/03/laos039-trade-deficit-reaches-us78mil-in-december-2020

สปป.ลาวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เดินทางกลับจากไทย

หน่วยงานแห่งชาติเพื่อการป้องกันและควบคุมโควิด -19 รายงานสถานการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาพบหญิงชาวสปป.ลาวอายุ 20 ปีตรวจพบเชื้อโควิด -19 ซึ่งมีประวัติเดินทางกลับจากประเทศไทยที่ปัจจุบันเกิดการระบาดโควิด-19 ระลอกสอง กรณีล่าพบผู้ติดเชื้อล่าสุดนี้ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันทั้งหมดของสปป.ลาวอยู่ที่ 45 รายในขณะที่การแพร่ระบาดของโรคระบาดในบางประเทศในภูมิภาคและทั่วโลกสถานการณ์ยังไม่ดีนัก รัฐบาลสปป.ลาวกำลังเข้มงวดมาตรการป้องกันและควบคุมโดยเฉพาะตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนเข้าสปป.ลาวอย่างผิดกฎหมาย

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Laos24.php

CDC ประกาศโครงการการลงทุนใหม่รวม 16.2 ล้านดอลลาร์ในกัมพูชา

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ประกาศว่าได้อนุมัติโครงการใหม่ 4 โครงการมูลค่าเงินลงทุนรวม 16.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก CDC เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้แก่บริษัท Taperite Plastic Co Ltd., Xin Yunfeng (Cambodia) Fashion Co Ltd., Unicorn Footwear Co Ltd. และ Laurence Footwear Co Ltd. โดยโครงการลงทุนครอบคลุมการผลิตผลิตภัณฑ์หลายประเภท เช่น เทปกาว เสื้อผ้า และรองเท้า ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นได้ 3,862 ตำแหน่ง ภายในเดือนนี้ CDC ได้อนุมัติโครงการโรงงานผลิตกระเป๋ามูลค่า 2.4 ล้านดอลลาร์ และการลงทุนสิ่งทอ 7.8 ล้านดอลลาร์ คาดว่าจะสร้างงาน 718 และ 843 ตำแหน่ง ตามลำดับ แม้ในขณะที่การระบาดของ Covid-19 ยังคงดำเนินอยู่ก็ตาม โดยปีก่อน CDC อนุมัติโครงการลงทุนทั้งหมด 238 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนจดทะเบียนรวมกันถึง 8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างงานเป็นอย่างน้อย 151,000 ตำแหน่งในกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50809970/cdc-announces-slate-of-new-investments-totalling-16-2-million/

การเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างกัมพูชากับเกาหลีใต้ได้สิ้นสุดลงแล้ว

กัมพูชาและเกาหลีใต้ได้สรุปการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) แล้ว โดยจะมีการลงนามในสนธิสัญญาขั้นสุดท้ายในปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นข้อตกลงการค้าเสรีฉบับที่ 2 ที่กัมพูชาได้ทำในรูปแบบทวิภาคีกับคู่ค้าหลัก โดย FTA ทวิภาคีครั้งแรกกัมพูชาได้ลงนามกับประเทศจีน ซึ่งการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้มีมูลค่าสูงถึง 884 ล้านดอลลาร์ ณ เดือนธันวาคม 2020 ถึงแม่จะลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบเป็นรายปีตามตัวเลขของสมาคมการค้าระหว่างประเทศของเกาหลีใต้ โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคม 2020 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปเกาหลีใต้ 317 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งกัมพูชาได้นำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 567 ล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 5 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งการประกาศข้อสรุปของการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสองชาติจัดขึ้นที่โรงแรม โซฟิเทล พนมเปญ โดยกระทรวงพาณิชย์ (MoC)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50810013/kingdoms-free-trade-pact-talks-with-south-korea-concluded/