‘GDP เวียดนาม’ ปี 67 โต 6.5% เหตุส่งออกฟื้นตัว

วินาแคปปิตอล กรุ๊ป (VinaCapital Group) บริษัทจัดการกองทุนเวียดนาม คาดการณ์ว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในปี 2567 จะขยายตัว 6.5% ในปีหน้า โดยได้แรงหนุนมาจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออก และได้ตั้งข้อสังเกตว่าแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามเป็นไปในเชิงบวก จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่เป็นแรงผลักดันการเติบโตเศรษฐกิจเวียดนามในปีหน้า

ทั้งนี้ สินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ในช่วงปลายปีที่แล้ว สาเหตุสำคัญมาจากธุรกิจต่างๆ สั่งซื้อมากจนเกินไปในช่วงห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก เนื่องจากโควิด-19 ในปี 2564 และความคาดหวังว่ามีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังวิกฤตโควิด แต่ว่าไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

ด้วยเหตุนี้ บริษัทสหรัฐฯ จึงต้องจัดการกับสินค้าคงคลังส่วนเกินตลอดทั้งปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวกำลังสิ้นสุดลงแล้ว แสดงให้เห็นว่ายอดคำสั่งซื้อและผลผลิตในเวียดนามจะกลับมาฟื้นตัว

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-gdp-growth-to-rebound-to-65-in-2024-vinacapital/270154.vnp

‘เวียดนาม-ไทย’ ตั้งเป้ามูลค่าการค้า 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายฟาม มินห์ จิญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หารือร่วมกันในการส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเครือข่ายภายใต้ห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการเชื่อมโยงไปยังภาคอุตสาหกรรม ท้องถิ่น ธุรกิจและอื่นๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ นายปานปรีย์ กล่าวว่าธุรกิจไทยมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของสภาพแวดล้อมการลงทุนในเวียดนาม และหวังว่าจะขยายกิจการให้เติบโตขึ้น ในขณะเดียวกัน นายกฯเวียดนาม เสนอให้รัฐบาลไทยส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับชุมชนชาวเวียดนามในไทย และรู้สึกยินดีกับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ เวียดนามและไทย ได้ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า 25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขจัดอุปสรรคทางการค้าและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.nationthailand.com/world/asean/40032235

สปป.ลาว หารือร่วมเวียดนาม หลังเข้าร่วมประชุม GCC ที่ซาอุดีอาระเบีย

สอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว หารือทวิภาคีร่วมกับ ฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ในวาระเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC Summit) ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างลาวและเวียดนาม ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะผลักดันการดำเนินการตามความตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เวียดนาม-ลาวในช่วงปี 2564-2573 ข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคีลาวและเวียดนาม ในช่วงปี 2564-2566 และการลงนามข้อตกลงและแผนในด้านต่างๆ อีกทั้งได้ตกลงร่วมกันที่จะมุ่งเน้นการขจัดอุปสรรคสำหรับโครงการความร่วมมือที่สำคัญ เช่น การพัฒนาท่าเรือหวุงอังหมายเลข 1, 2 และ 3 รวมถึงโครงการที่เชื่อมต่อการจราจรทางถนนและทางรถไฟในทิศทางตะวันออก-ตะวันตก เป็นต้น

ที่มา : https://kpl.gov.la/EN/detail.aspx?id=77599

UMFCCI และรัฐบาลฉงชิ่ง จับตาดูระเบียงการค้าเชื่อมทางบกและทางทะเลระหว่างประเทศสายใหม่

ดร. วิน ซี ทู รองประธาน สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพเมียนมา (UMFCCI) และนาย Zhao Yin ผู้อำนวยการสำนักงานการต่างประเทศ นครฉงชิ่ง ประเทศจีน หารือประเด็นด้านการลงทุนและความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างเมียนมาร์ และจีน (ฉงชิ่ง) และความเป็นไปได้ในการดำเนินกิจกรรมการค้าบนระเบียงการค้าเชื่อมทางบกและทางทะเลระหว่างประเทศสายใหม่ ในวันที่ 24 ตุลาคม ณ ห้องโถงของ UMFCCI โดยระเบียงการค้าเชื่อมทางบกและทางทะเลระหว่างประเทศสายใหม่เป็นเส้นทางการค้าและโลจิสติกส์ที่สำคัญที่เชื่อมโยงจีน (ฉงชิ่ง) และอาเซียน โดยส่งเสริมการขนส่ง การค้า และการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคเหล่านั้น ที่ประชุมเน้นย้ำความร่วมมือกับเมียนมาในการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการขนส่งตามแนวระเบียงการค้าดังกล่าว อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือสำหรับกิจกรรมการพัฒนาบนระเบียงการค้า การผลิต การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/umfcci-chongqing-govt-eye-trade-boost-on-new-land-sea-trade-corridor/

การส่งเสริมการค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ รัสเซีย-เมียนมา

สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งสหภาพเมียนมา (UMFCCI) ระบุว่า ได้รับการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจจะระหว่างเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และเมียนมา ในภาคส่วนสินค้าประเภท ข้าวและถั่วพัลส์ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เฟอร์นิเจอร์ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยประธานคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย นาย Grigoriev Evgeny Dmitrievich และสมาชิกได้พบกับนักธุรกิจชาวเมียนมารจากภาคส่วนต่างๆที่สำนักงาน UMFCCI โดย Grigoriev Evgeny Dmitrievich กล่าวว่า ปัจจุบัน ข้าว ถั่ว ข้าวโพด งา เฟอร์นิเจอร์ และการประมงเป็นธุรกิจที่ทำกำไรให้กับเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีสิทธิพิเศษสำหรับทั้งสองประเทศ รวมทั้ง ผู้ส่งออกจากภาคส่วนเหล่านี้ได้หารือถึงความยากลำบากที่พบในการส่งออกสินค้าไปยังรัสเซีย ทั้งในเรื่องของระบบการชำระเงินสำหรับการส่งออกโดยตรงไปยังรัสเซีย และเงื่อนไขสำหรับโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของรัสเซียที่จะเข้ามาลงทุนในเมียนมาร์ อย่างไรก็ตาม คณะผู้แทนรัสเซียยังได้เชิญนักธุรกิจชาวเมียนมาร์มาลงทุน ที่เมืองท่าครอนชตัดท์ ซึ่งมีเทคโนโลยีล่าสุดในการส่งออกและนำเข้าสินค้าทางทะเล การตรวจสอบสินค้านำเข้าและการคืนสินค้า ทำให้ประหยัดเวลา มีความราบรื่นของเส้นทางการขนส่ง และเทคโนโลยีล่าสุดในการขนถ่ายสินค้า

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/russia-myanmar-trade-and-economic-cooperation-to-be-promoted/

‘เวียดนาม’ ส่งออกกาแฟ 1.7 ล้านตัน ปี 66

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม เปิดเผยว่าการส่งออกกาแฟของเวียดนามในปีนี้ อยู่ที่ 1.7 ล้านตัน มูลค่า 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 152 ล้านบาท ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ หลังจากทำสถิติส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว

ทั้งนี้ Pham Quang Anh ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลการแลกเปลี่ยนการค้าเวียดนาม เปิดเผยว่าการส่งออกกาแฟของเวียดนามมีแนวโน้มที่จะทำสถิติส่งออกสูงสุดในปีนี้ เนื่องจากราคาในประเทศและราคาโลกปรับตัวพุ่งสูงสุดในรอบ 15 ปี เหตุจากการขาดแคลนผลผลิต ปริมาณกาแฟสำรองที่ต่ำและความต้องการกาแฟทั่วโลกที่แข็งแกร่ง

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าอุตสาหกรรมกาแฟจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพ เพื่อยกระดับมูลค่าเพิ่มและการส่งออกที่ยั่งยืน

ที่มา : https://thailand.postsen.com/world/200821/Vietnam-expects-%E2%80%98coffee%E2%80%99-exports-to-reach-17-million-tons-in-2023.html

‘เวียดนาม’ เผยยอดค้าต่างประเทศ ทะลุ 500 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันที่ 15 ต.ค. ว่าการส่งออกและการนำเข้าของเวียดนาม อยู่ที่ 523 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากข้อมูลตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงเดือน ต.ค. พบว่า เวียดนามมีมูลค่าการส่งออก 272.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงราว 24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 250.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามเกินดุลการค้า 22.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ โทรศัพท์และชิ้นส่วนเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้มากที่สุด มีมูลค่า 41.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและอะไหล่ เครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีการเติบโตมากที่สุดในกลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม เพิ่มขึ้น 75.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/viet-nam-s-foreign-trade-exceeds-us-500-bln-2206129.html

ทางการกัมพูชาหวังดึงนักลงทุนจีนเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ

ทางการกัมพูชาพร้อมดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกโดยรัฐบาลแห่งชาติ ผ่านการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อเอื้อต่อภาคการลงทุนภายในประเทศ หวังดึงดูดการลงทุนของจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น ตามคำกล่าวของ Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ในระหว่างการประชุมความร่วมมือจีน-กัมพูชา ประจำปี 2023 ณ ประเทศจีน โดยงานนี้จัดขึ้นโดย Global Logistic Alliance (GLA) ซึ่งเป็นเครือข่ายของบริษัทผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับโลจิสติกส์มากกว่า 5,000 แห่ง ที่ได้ทำการลงทุนกระจายไปยังกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ด้านรองนายกฯ ยังได้กล่าวเสริมอีกว่าแผนดังกล่าว สอดคล้องกับแผนแม่บทของกัมพูชา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า 174 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายใน 10 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา ถนน ระบบราง ทางน้ำ สายการบิน ท่าเรือ โลจิสติกส์ และระบบขนส่งอัตโนมัติ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501381311/infra-push-set-to-lure-chinese-investments/