EDL จับมือ Huawei ศึกษาพลังงานแสงอาทิตย์

Electricite Du Laos (EDL) และ Huawei Technologies (Lao) Sole Co., Ltd. ได้ตกลงที่จะร่วมกันดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของพลังงานแสงอาทิตย์ บันทึกความเข้าใจ (MOU) ครอบคลุมความร่วมมือระหว่าง EDL และ Huawei สปป.ลาวในหัวข้อกว้าง ๆ ในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงมาตรฐานพลังงานแสงอาทิตย์แบบออนกริด มาตรฐานอินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์ การวิจัยตลาดร่วมกันสำหรับพลังงานหมุนเวียนในสปป.ลาว และการฝึกอบรมเกี่ยวกับโซลาร์ฟาร์มและการติดตั้งบนชั้นดาดฟ้า การเชื่อมต่อพลังงานแสงอาทิตย์กับกริดจะช่วยลดการสูญเสียของระบบและปรับปรุงแรงดันไฟฟ้าตกได้  ในขณะที่การทำงานร่วมกันเกี่ยวกับผลกระทบของการเชื่อมต่อพลังงานแสงอาทิตย์กับระบบไฟฟ้าและมาตรฐานของ On-Grid Solar และ Inverter จะปรับปรุงความเสถียรของระบบไฟฟ้าของเรา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_EDL_58.php

เวียดนาม เล็งขยายเส้นทางเดินเรือไปยังกัมพูชาและไทย

ผู้ประกอบการเวียดนามร้องขอให้รัฐบาลช่วยขยายเส้นทางเดินเรือขนส่งระหว่างเกาะฟูโกว๊กของประเทศเวียดนาม ไปยังชายฝั่งประเทศกัมพูชาและไทย ซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงด้านความร่วมมือช่องทางการเดินเรือชายฝั่งทะเล ระหว่างเวียดนาม กัมพูชา และไทย ที่เคยมีการตกลงกันก่อนหน้านี้ ในปี 2014 โดยความร่วมมือด้านการขนส่งทางชายฝั่งคาดว่าจะเพิ่มโอกาสมากขึ้นสำหรับเรือบรรทุกสินค้าขนาดกลางและขนาดเล็กในเส้นทางระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มการลงทุนในสามประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501046123/vietnam-seeks-shipping-navigation-route-expansion-with-cambodia-thailand/

กัมพูชาสนับสนุนการก่อสร้างท่าเทียบเรือและห้องเย็น สำหรับกิจกรรมทางการค้า

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกัมพูชา สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าและห้องเย็นในบริเวณท่าเทียบเรือใกล้กับท่าเรือพนมเปญในจังหวัดกันดาล ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการค้าระหว่างประเทศ ในส่วนของการก่อสร้างห้องเย็นจะทำการลงทุนโดย บริษัท InfraCo Asia ผ่านบริษัท Khmer Cold Chain Company โดยห้องเย็นแห่งนี้จะมีพื้นที่ให้บริการมากกว่า 36,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น และเพื่อตอบสนองต่อผู้ประกอบการในท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าโครงการลงทุนดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายแก่นักลงทุน ผู้ค้า นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไป ที่ต้องการใช้บริการของบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกและนำเข้าสินค้าต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501045913/cross-docking-and-cold-storage-facility-to-serve-export-import-activities/

จุรินทร์ รวมพลหามาตรการดูแลผลไม้ปี’65 รุกส่งออกดันให้โต 15%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาผลไม้ปี 2565 และการแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ว่าจากการประเมินผลผลิตผลไม้ทั่วประเทศปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 13% หรือมีปริมาณ 5.4 ล้านตัน โดยได้กำหนดมาตรการเชิงรุกในการผลักดันการส่งออกและดูแลผลไม้มี 17+1 ดูแลผลผลิตผลไม้และมีการเตรียมตลาดรองรับไว้แล้ว 450,000 ตัน ส่วนที่เหลือจะเป็นไปตามกลไกตลาด ที่เกษตรกรผลิตผลไม้ที่ได้คุณภาพ ล้งรับซื้อตามมาตรฐานและราคาที่เป็นธรรม ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกดำเนินการเตรียมการส่งออกต่อไป สำหรับผลไม้ไทย ตลาดใหญ่คือประเทศจีน ตลาดจีนส่งออกปี 2564 มีมูลค่า 163,000 ล้านบาท ปริมาณ 2,200,000 ตัน ซึ่งการส่งออกไปจีนทำได้ 3 เส้นทางหลักมีสัดส่วน คือ ทางเรือ 51% ทางบก 48% และทางอากาศ 0.54% ขณะที่เป้าหมายการส่งออกผลไม้ในปี 2565 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 15% โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 287,500 ล้านบาท

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-893317

ต้นทุนขนส่งจุดเปลี่ยนส่งออก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่าจะยังสามารถขยายตัวได้ โดยตั้งเป้าหมายการส่งออกขยายตัว 4% เนื่องจากมองเห็นปัจจัย การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจึงต้องกำหนดตัวเลขด้วยความระมัดระวัง แต่ล่าสุดปัจจัยสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน จะเป็นปัจจัยหลักกดดันการส่งออกของประเทศ เพราะถึงแม้ว่าการส่งออกโดยตรงระหว่างไทยรัสเซียและยูเครนจะมีตัวเลขไม่มากนัก แต่ผลกระทบทางอ้อมต้องยอมรับว่าหนัก ปิดท่าเรือสำคัญ 2 แห่ง การขนถ่ายสินค้าล่าช้า ราคาน้ำมัน,ค่าระวางเรือพุ่งขึ้นไม่หยุด

ที่มา : https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_310036/

การผลิตรถยนต์ต่ำ ฉุดซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานยนต์เวียดนาม

ปริมาณการผลิตรถยนต์ขั้นต่ำอยู่ที่ 50,000 คันต่อปี สำหรับการเติบโตของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เวียดนาม แต่มีผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายที่สามารถบรรลุระดับการผลิตยานยนต์ดังกล่าวได้ ผู้ผลิตยานยนต์อย่างโตโยต้า (Toyota) และฮุนได้ (Hyundai) ผ่านเกณฑ์ระดับการผลิตยานยนต์ในปี 2564 ด้วยปริมาณการผลิตยานยนต์ 64,172 และ 56,028 คัน ตามลำดับ ในขณะที่เกีย (Kia) ไม่ผ่านระดับการผลิตยานยนต์อยู่ที่ 35,181 คัน รองลงมาวินฟาสต์ (VinFast) 34,746 คัน และมิตซูบิชิ (Mitsubishi) 26,346 คัน

ทั้งนี้ คุณ Truong Thị Chí Bình ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันยุทธศาสตร์และนโยบายอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม กล่าวว่าระดับการผลิตยานยนต์ขั้นต่ำถือเป็นความล้มเหลวของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของเวียดนาม และปริมาณการผลิตที่อยู่ในระดับต่ำ แสดงให้เห็นถึงความต้องการชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศต่ำ ทำให้ซัพพลายเออร์ไม่กล้าที่จะลงทุนในสายการผลิตใหม่

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1166036/low-level-of-car-production-holds-back-vietnamese-auto-part-suppliers.html

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด “ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน” ซ้อน “โควิด” กระทบธุรกิจเวียดนาม

บรรดาผู้ประกอบการเวียดนามต้องเผชิญกับอุปสรรคทางการส่งออกไปยังประเทศรัสเซีย ยูเครนและเบลารุส ประกอบกับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของค่าขนส่งและธนาคารของรัสเซียถูกตัดออกจากระบบสวิฟต์ (SWIFT) ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ อีกทั้งธุรกิจจำนวนมากที่ยังคงมีปัญหาจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน

ทั้งนี้ นาย Nguyen Dang Hien ผู้อำนวยการของบริษัท Tan Quang Minh Manufacturing and Trading Company Limited (TQM) เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม กล่าวว่าบริษัทอยู่ในช่วงฟื้นตัว แต่ยังคงดิ้นรนกับปัญหาห่วงโซ่อุปทานในปัจจุบัน อาทิ คู่ค้าต่างชาติปิดค้าขายในช่วงการแพร่ระบาดและการนำเข้าวัตถุดิบใช้เวลานานกว่าแต่ก่อน ผลลัพธิดังกล่าวได้ผลักดันต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่กิจการไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าได้มากนัก

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/ukraine-conflict-covid-make-it-doublewhammy-for-vietnamese-businesses/223860.vnp