บริษัทขนส่งในกัมพูชาอาจจะเผชิญกับปัญหาหากการแพร่ระบาดไม่คลี่คลาย

ท่าเรือสีหนุวิลล์ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ดำเนินกิจการท่าเรือน้ำลึกในกัมพูชา รายงานว่าบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในช่วงครึ่งแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020 มาอยู่ที่ 44 ล้านดอลลาร์ โดยปริมาณขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 5 คิดเป็นกว่า 3.5 ล้านตัน ซึ่งแบ่งออกเป็นการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 5 คิดเป็น 2.6 ล้านตัน การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 สู่ 830,000 ตัน โดยการจัดส่งสินค้าจากกัมพูชาส่วนใหญ่ได้แก่ วัตถุดิบผ้า เสื้อผ้า รองเท้า ข้าว เครื่องจักร ไม้แปรรูป และบุหรี่ เป็นสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม ประธานสมาคมโลจิสติกส์แห่งกัมพูชา ได้เตือนว่าบริษัทภายในประเทศมากกว่าร้อยละ 60 กำลังประสบกับปัญหารายรับที่ลดลง และอีกร้อยละ 30 กำลังจะล้มละลายหรือมีแนวโน้มว่าจะเลิกกิจการลง เว้นแต่สถานการณ์โดยภาพรวมจะดีขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50893244/transport-firms-face-bankruptcy-if-pandemic-worsens/

อาเซียน-ฮ่องกง FTA อีก 5 สาขาไทยได้ประโยชน์

นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมการประชุมและทำหน้าที่ประธานฝ่ายอาเซียนในการประชุมคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA-JC) ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการเจรจาเรื่องการลงทุน กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดเฉพาะรายสินค้า และการบังคับใช้ตารางการลดภาษี ที่มีการแปลงพิกัดจากของภาคีสมาชิก ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงบรูไน ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และที่ประชุมได้เห็นชอบขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการภายใต้ความตกลง AHKFTA เพิ่มเติมใน 5 สาขา ได้แก่ สุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค ทรัพย์สินทางปัญญา เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และ การส่งเสริมการลงทุน จากเดิมที่เห็นชอบแล้ว 5 สาขา โดยไทยมีความตกลงกับฮ่องกง 2 ฉบับ คือ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) และความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน-ฮ่องกง (AHKIA) ซึ่งครอบคลุมการเปิดเสรีการค้าสินค้าและการค้าบริการ การส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ

ที่มา : https://www.innnews.co.th/news/news_144568/

รัฐบาลลาวและ Electricité De France (EDF) ได้ลงนามในข้อตกลงการพัฒนาโครงการ Nam Theun 2-Solar

รัฐบาลลาวและ Electricité De France (EDF) ได้ลงนามในข้อตกลงการพัฒนาโครงการ Nam Theun 2-Solar ซึ่งเป็นโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบลอยตัวแบบไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ 3.2 ตารางกิโลเมตร คาดจะมีกำลังการผลิตติดตั้ง 240MWp ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในสปป.ลาว ผู้พัฒนาโครงการที่นำโดย EDF ร่วมกับ Lao Holding State Enterprise (LHSE) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้า (EGCO) ของประเทศไทยตั้งเป้าที่จะเริ่มการก่อสร้างในปี 2565 และเริ่มดำเนินการในปี 2567 โครงการน้ำเทิน-2 โซลาร์จะจัดหาไฟฟ้าที่สะอาด ปลอดภัย โดยไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสังคม ที่สำคัญประหยัดน้ำซึ่งช่วยให้สามารถเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์แบบแปรผันเป็นไฟฟ้าพลังน้ำเพิ่มเติมและมีเสถียรภาพ เป็นนวัตกรรมในการผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนในลักษณะที่น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติสปป.ลาวในการส่งเสริมพลังงานควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Namtheun2_135.php

เวียดนามเล็งพัฒนา เงินดิจิทัล รับกระแสสังคม ไร้เงินสด

เวียดนามเล็งพัฒนา’เงินดิจิทัล’รับกระแสสังคม’ไร้เงินสด’ หลังจากห้ามประชาชนในประเทศลงทุนสกุลเงินคริปโตมานานหลายปี หลังจากประกาศห้ามประชาชนในประเทศลงทุนสกุลเงินดิจิทัลหรือสกุลเงินเสมือนจริงมานานหลายปี รวมทั้งออกประกาศเตือนว่า สกุลเงินคริปโตอาจทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่ แต่ล่าสุด รัฐบาลเวียดนามมีคำสั่งให้ธนาคารกลางทำการศึกษาและพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง หวังควบคุมการลงทุนในระบบการเงินที่รัฐบาลมองว่าไม่มีตัวกลางนี้มากขึ้น หลังจากประชาชนจำนวนมากเข้าไปลงทุนในสกุลเงินคริปโตตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/948596

เวียดนามเผยครึ่งแรกของปี สินค้าส่งออกสำคัญ 25 รายการ ทำรายได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า รายงานว่าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของเวียดนาม จำนวน 25 รายการ ทำรายได้ต่อชิ้นกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 88.9% ของยอดการส่งออกรวม โดยโทรศัพท์และชิ้นส่วน ทำรายได้สูงที่สุดเป็นมูลค่า 25.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี รองลงมาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ 23.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.1%, เครื่องจักรและอุปกรณ์, เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม ตามลำดับ ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่า 45.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 43.3% ตามมาด้วยจีน 24.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสหภาพยุโรป ในขณะเดียวกัน อาเซียนมีมูลค่าการส่งออก 13.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.3%, เกาหลีใต้ 10.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.2% และญี่ปุ่น 9.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.9%

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/25-export-commodities-earning-above-us1-billion-each-in-first-half-873520.vov

สมาคมยานยนต์เวียดนามเผยเดือนมิ.ย. ยอดขายรถยนต์ลดลง

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม (VAMA) รายงานสถิติเมื่อวันที่ 12 ก.ค.2564 ว่าในเดือนมิ.ย. 2564 สมาชิกของสมาคมฯ มียอดขายยานยนต์ 23,587 คัน ลดลง 8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยรถยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 15,802 คัน ลดลง 10% จากเดือนพฤษภาคม, รถยนต์เชิงพาณิชย์ 7,131 คัน ลดลง 5% และรถยนต์เพื่อการใช้งานเป็นพิเศษอีก 654 คัน ลดลง 25% อย่างไรก็ดี โตโยต้า (Toyota) ครองแชมป์แบรนด์รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด จำนวน 5,127 คัน รองลงมาเกีย (Kia) 3,290 คัน, มาสด้า (Mazda) 1,862 คัน, ฮอนด้า (Honda) 1,550 คัน และฟอร์ด (Ford) 1,284 คัน เป็นต้น

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vama-members-see-fall-in-car-sales-in-june-873427.vov