กัมพูชาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธีในเมียนมา

โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชาได้กล่าวถ้อยแถลงแสดงถึงความสนับสนุนของกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาวิกฤตในเมียนมาอย่างสันติ โดยในฐานะเพื่อนและสมาชิกของประชาคมอาเซียนกัมพูชาก็เช่นเดียวกับประเทศสมาชิกอาเซียนและประชาคมอื่น ๆ ซึ่งได้ร่วมติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิดและเสียใจกับความรุนแรงที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิต รวมถึงในขณะที่กัมพูชาเคารพหลักการสำคัญในการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิก กัมพูชาได้ให้การสนับสนุน ถ้อยแถลงของประธานอาเซียนเกี่ยวกับการพัฒนาในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ที่ออกเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2021 และ ถ้อยแถลงของประธานเกี่ยวกับการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2021 ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤตในเมียนมาอย่างสันติวิธี โดยกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือเมียนมาบนเส้นทางสู่ภาวะปกติในทุกบทบาทและในรูปแบบใด ๆ ก็ตามที่สอดคล้องกับหลักการของกลุ่มสมาคมอาเซียน และให้เป็นที่ยอมรับของทุกคน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50822768/cambodia-supports-peaceful-solution-to-current-crisis-in-myanmar/

กัมพูชาพร้อมเป็นเจ้าภาพ ATF ครั้งที่ 40

สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหรัฐอเมริกายืนยันว่าพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมการท่องเที่ยวอาเซียนครั้งที่ 40 ณ กรุงพนมเปญ ระหว่างวันที่ 16 ถึง 22 มกราคมในปี 2022 โดยฟอรัมนี้จะเป็นเวทีที่ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและส่งเสริมแบบองค์รวม ในการร่วมกันพัฒนาและแก้ปัญหาในอุตสาหกรรมทางด้านการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคอาเซียนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งกัมพูชามีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะพัฒนาภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ อีกทั้งกัมพูชาในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูมิภาค จึงยื่นเสนอเป็นเจ้าภาพในการจัดสัมนาครั้งนี้ขึ้น โดยฟอรัม ATF ประจำปี 2022 ตั้งเป้าที่จะดึงดูดผู้เข้าร่วมมากกว่า 2,000 คน จากกว่า 25 ประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50822832/cambodia-ready-to-host-40th-atf-in-january-2022/

INFOGRAPHIC : เวียดนามเผยช่วง 2 เดือนแรกของปี 2564

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ดัชนีผลผลิตของภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

หากจำแนกรายอุตสาหกรรม พบว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป เพิ่มขึ้น 10.4%, ภาคการผลิจและจำหน่ายไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 4.3% และภาคการบำบัดน้ำเสีย 4.8% ในขณะที่ ภาคการขุดเหมือง หดตัว 11%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/twomonth-industrial-production-index-up-74/197131.vnp

ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของโฮจิมินห์ เพิ่มขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้

สำนักงานสถิติของเมืองโฮจิมินห์ เผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (IIP) ของโฮจิมินห์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2564 ถึงแม้ว่าจะลดลง 24.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาดัชนีอุตสาหกรรมดั้งเดิม จะพบว่าปรับตัวลดลง 9.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ หากจำแนกอุตสาหกรรมที่สำคัญของดัชนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน ได้แก่ การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (32.4%) ตามมาด้วยการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า (28%), การผลิตอุตสาหกรรมแร่โลหะ (22.4%), เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ทางเคมี (10.8%) และการผลิตอาหารและแปรรูป (9.8%) นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอุสาหกรรมส่วนใหญ่ในเมืองโฮจิมินห์ กล่าวว่าเวียดนามยังสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ แต่ด้วยสถานการณ์ไวรัสที่แพร่กระจายไปทั่วโลกนั้น ส่งผลให้ขาดแคลนวัตถุดิบและกระทบยอดขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

ที่มา : https://vnexplorer.net/ho-chi-minh-citys-industrial-production-index-increase-in-two-months-a2021131032.html

ธนาคารโลกให้เงินทุน 86.3 ล้านเหรียญ เพื่อส่งเสริมโครงการประหยัดพลังงานในเวียดนาม

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ตามข้อมูลของธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่าเงินทุน 8.3 ล้านเหรียญสหรัฐจากทั้งหมด 11.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ถูกนำไปใช้ในโครงการภาคเอกชน เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการดำเนินโครงการประหยัดพลังงาน ซึ่งธนาคารโลกในนามกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (GCF) ได้ร่วมลงนามกับธนาคารกลางเวียดนาม ด้วยมูลค่า 11.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อมุ่งส่งเสริมตลาดทางการเงินเชิงพาณิชย์และโครงการประหยัดพลังงานในเวียดนาม ทั้งนี้ โครงการในครั้งนี้ ยังให้การสนับสนุนทางเทคนิคแก่กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เพื่อหาแนวทางกำหนดนโยบายและควบคุมกฎระเบียบที่เข็มงวดในการส่งเสริมตลาดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/wb-funded-us-863-million-to-support-energy-efficiency-projects-in-vietnam-29000.html

มณฑลจื้อเจียงรุกจัดงานแสดงสินค้าออนไลน์ เร่งดันไทยเป็นประตูการค้าบุกอาเซียน

สำนักงานพาณิชย์แห่งมณฑลจื้อเจียงจัดงานแสดงสินค้าออนไลน์ 2021 Zhejiang Export Online Fair (Thailand ? Hardware &Electromachanical) ฝ่าวิกฤติโควิด-19 โดยตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นประตูการค้าในการขยายตลาดอาเซียน ภายหลังความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP มีผลบังคับใช้งาน 2021 Zhejiang Export Online Fair (Thailand – Hardware&Electromachanical Products) ได้รับความสนใจจากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำด้านเครื่องจักร เครื่องมือกล และอุปกรณ์ จากมณฑลจื้อเจียงกว่า 40 บริษัท ที่มองหาพันธมิตรและคู่ค้าในประเทศไทย นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีในรูปแบบออนไลน์แล้ว ยังมีการเจรจาธุรกิจออนไลน์ผ่านโปรแกรมซูมกับผู้ประกอบการไทยตลอดระยะเวลา 5 วันของการจัดงาน โดยคาดว่าจะมีการประชุมเจรจาธุรกิจออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 200 รอบ และนำไปสู่มูลค่าการซื้อขายที่ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านดอลลาร์ภายหลังการลงนามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ได้นำไปสู่การลดภาษีของสินค้ากว่า 90% เป็นศูนย์ ซึ่งเอื้อประโยชน์ทางการค้าระหว่างจีนและอาเซียนเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันมูลค่าการค้าอาเซียน-จีนมีมูลค่าเกือบ 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสัดส่วนเป็นเกือบ 60% ของการค้าในภูมิภาคเอเซีย และ 13% ของมูลค่าการค้าโลก ซึ่งถือได้ว่าเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก รองจากสหภาพยุโรป และ เขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ดังนั้นประเทศไทยจึงเป็นประเทศยุทธศาสตร์สำหรับการเปิดประตูสู่การค้ากับประเทศสมาชิกอาเซียนได้เป็นอย่างดี

  ที่มา : https://www.ryt9.com/s/iq03/3207095

บริษัท จีนต้องการปลูกทุเรียน 4,800 เฮกตาร์ในสปป.ลาว

บริษัท จีนต้องการเช่าที่ดินในเวียงจันทน์จำนวน 3,200 ถึง 4,800 เฮกตาร์เพื่อปลูกทุเรียนและส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะมีการส่งออกทุเรียนจำนวนมากจากสปป.ลาวและเวียดนามใน 3-5 ปีข้างหน้า ทุเรียนได้รับการปลูกในเชิงพาณิชย์ในสปป.ลาวในช่วงสิบปีที่ผ่านมาโดยส่วนใหญ่อยู่บนที่ราบสูงทางตอนใต้ที่เย็นและอุดมสมบูรณ์ซึ่งเหมาะแก่การเพราะปลูกทุเรียนไม่เพียงแค่ด้านผลผลิตที่เติบโต ด้านตลาดก็มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งผู้บริโภคในประเทศรวมถึงด้านการส่งออกจากปัจจัย ค่าเช่าที่ดินและแรงงานที่ต่ำตลอดจนข้อตกลงการค้าเสรีหลายฉบับยกเว้นภาษีจาก 16 ประเทศ ทำให้การส่งออกทุเรียนของไทยมีแนวโมที่จะเติบโตได้ในอนาคต

ที่มา : https://www.freshplaza.com/article/9301231/chinese-companies-looking-to-grow-4-800-hectares-of-durians-in-laos/

อินเดียเล็งนำเข้าพริกไทยและขมิ้นจากกัมพูชา

สถานทูตอินเดียประจำกัมพูชาระบุถึงความต้องการของอินเดียที่จะนำเข้าสินค้าภาคการเกษตร ของกัมพูชา โดยเฉพาะพริกไทยและขมิ้นเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ทางสถานทูตอินเดียประจำประเทศกัมพูชาจะจัดให้มีการประชุมเสมือนจริงระหว่างคณะกรรมการเครื่องเทศของอินเดียและคู่สัญญาผู้ผลิตผลผลิตทางการเกษตรของกัมพูชา ในการหารือเกี่ยวกับโอกาสสำหรับเครื่องเทศกัมพูชาในตลาดอินเดีย พร้อมกับข้อกำหนดด้านสุขอนามัยพืช หลังจากการหารือดังกล่าวบริษัทอินเดียและกัมพูชาจะต้องมีการประชุมแบบ B2B อีกทั้งรัฐบาลกัมพูชายังสนับสนุนให้บริษัทผู้ผลิตสินค้าทางการเกษตรมองหาโครงการในลักษณะปลอดภาษีอากรภายในประเทศอินเดีย ที่ขยายไปยังประเทศที่พัฒนาน้อยกว่า (LDCs) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้อง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50822835/india-seeking-pepper-and-turmeric-from-cambodia/

FTAs, FDIs และการท่องเที่ยว คาดเป็นส่วนสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกัมพูชา

แม้ว่าวัคซีนจะเริ่มถูกนำมาใช้ในกัมพูชาแล้ว แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงไม่แน่นอน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงกว่าร้อยละ 70 ในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายนของปี 2020 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกยังส่งผลทำให้การส่งออกของกัมพูชาชะลอตัวลงตามไปด้วย รวมถึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ลดลงทำให้การไหลเวียนของเงินทุนและการจ้างงานลดลงภายในกัมพูชา แต่อย่างไรก็ตามธนาคารโลก (WB) ระบุว่าการท่องเที่ยวของกัมพูชาอาจจะฟื้นตัวช้า ส่งผลต่อการเติบโตในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 แต่ในทางกลับกันภาคธุรกิจอาจจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีการกระจายวัคซีนให้กับประชาชนภายในประเทศบ้างแล้ว รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้กัมพูชายังได้ทำการลงนาม FTA ในระดับภูมิภาคหลายครั้ง โดยมีการลงนามบนข้อตกลงกับจีนและเกาหลีใต้ไปแล้ว ซึ่ง FDI ในปี 2021 จีนยังคงเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในกัมพูชา โดยลงทุนไปยังภาคส่วนสำคัญ ๆ เช่น ผลิตเสื้อผ้า โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การเกษตร เหมืองแร่ และพลังงานถ่านหิน ไปจนถึงภาคการท่องเที่ยว

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50822760/ftas-fdis-and-tourism-essential-for-cambodias-economic-bounce-back/