ระบบขนส่งด้านศุลกากร ออนไลน์ใหม่ของอาเซียนและสหภาพยุโรป เพิ่มการค้าในภูมิภาคอาเซียน

ปัจจุบันภาคเอกชนในอาเซียนสามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ใหม่อันทรงพลัง นั่นคือ ระบบการขนส่งด้านศุลกากรของอาเซียน (ASEAN Customs Transit System หรือ ACTS) ซึ่งจะลดอุปสรรคในการค้าภายในกลุ่มสมาชิกประเทศอาเซียน เพื่อให้บริษัทต่างๆได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และการเคลื่อนย้ายสินค้าได้อย่างมีอิสระตลอดทั่วภูมิภาคอาเซียน โดยในปี พ.ศ.2560 รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนตั้งเป้าหมายสองเป้าหมายที่เหมือนกันในการลดค่าใช้จ่ายด้านธุรกรรมการค้าลงถึง 10% ภายในปี 2563 และเพิ่มการค้าภายในกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นสองเท่าภายในปี 2560 ถึง 2563 เมื่อตระหนักถึงเป้าหมายนี้ จึงได้มีการพัฒนาระบบขนส่งด้านภาษีของอาเซียนเพื่อทำให้ภาคธุรกิจยื่นการแจ้งทางอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการขนส่งสินค้าโดยตรงกับหน่วยงานด้านศุลกากรของอาเซียน และติดตามการเคลื่อนย้ายสินค้าจากการบรรทุกจากสถานที่นำสินค้าออกมาจนถึงจุดหมายปลายทางที่ส่งสินค้า ทั้งนี้ นายดาโต๊ะ ลิม จ็อค ฮอย เลขาธิการอาเซียนเปิดเผยว่า การนำระบบ ASEAN Customs Transit System มาบังคับใช้ จึงมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างราบรื่นในภูมิภาค ผมเชื่อว่า ระบบนี้จะเป็นเครื่องมือยอดเยี่ยมในการเพิ่มการค้าและเครือข่ายการผลิตของอาเซียน เช่นเดียวกับการจัดตั้งตลาดที่รวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวมากขึ้นสำหรับบริษัทและผู้บริโภค ระบบ ACTS ยังอาจช่วยการฟื้นฟูทางการค้าหลังวิกฤติโควิด-19 โดยการเร่งการเคลื่อนย้ายการขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ วัคซีน และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลระหว่างประเทศสมาชิก

ที่มา : https://siamrath.co.th/n/201168

เผยผลสำรวจดัชนีภาคการผลิตเวียดนามดิ่งลง เหตุภัยธรรมชาติ

ผลสำรวจล่าสุดซึ่งจัดทำโดยนิกเกอิ ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเวียดนาม ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.9 ในเดือนพฤศจิกายน สะท้อนถึงสภาพธุรกิจที่ไม่เปลี่ยนแปลงในวงกว้าง อีกทั้ง ผลผลิตลดลงเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งการลดลงดังกล่าวอาจเป็นแค่ชั่วคราว เนื่องจากธุรกิจหลายแห่งประสบปัญหาน้ำท่วมและพายุที่รุนแรง ทำให้การผลิตหยุดชะงัก รวมถึงการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อผลผลิต ในขณะที่ยอดคำสั่งซื้อใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ว่านับเป็นส่วนน้อยของการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าผลการดำเนินธุรกิจในเดือนพฤศจิกายนไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าธุรกิจหลายแห่ง มองว่าการผลิตจะกลับมาขยายตัวได้ในปีหน้า ด้วยความมั่นใจที่ว่าเวียดนามจะยังคงควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ต่อไป

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-manufacturing-activity-dips-in-nov-amid-storms-and-flooding-315078.html

โควิด-19 กระทบภาคการท่องเที่ยวเวียดนามรุนแรง

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเวียดนามในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ประมาณ 3.8 ล้านคน ลดลงร้อยละ 76.6 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องมาจากเวียดนามระงับการเข้ามาของชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ประกอบไปด้วยนักลงทุนต่างชาติ ผู้เชี่ยวชาญ แรงงานที่มีทักษะสูง ผู้จัดการธุรกิจและครอบครัวของผู้โดยสารดังกล่าวที่ได้รับอนุญาตเข้ามายังประเทศ นับตั้งแต่ปิดพรมแดนในเดือนมีนาคม ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 17,700 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.6 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม และลดลงร้อยละ 99 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาภูมิภาคของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากเอเชีย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 73.3 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม ด้วยจำนวนราว 2.8 ล้านคน ลดลงร้อยละ 78.4 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รองลงมายุโรป อเมริกา โอเชียเนียและแอฟริกา นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว กล่าวว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จำเป็นต้องดำเนินมาตรการเชิงรุก คิดค้นนวัตกรรมและสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและแนวโน้มการท่องเที่ยวในบริบทหลังวิกฤตการแพร่ระบาด COVID-19

ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnams-inbound-tourism-suffers-heavily-from-covid-19-315075.html

เยอรมนีสนับสนุนทุน 114 พันล้านกีบในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานทางใต้ของสปป.ลาว

กรมโยธาธิการและขนส่งจังหวัดอัตตะปือมอบสัญญา 3 ฉบับสำหรับการซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากน้ำท่วมภายใต้โครงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของสปป.ลาวใต้ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีผ่าน KfW Development Bank โดยให้ทุนประมาณ 114 พันล้านกีบ (มากกว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค วัตถุประสงค์ของโครงการคือ“ ให้ประชากรในชนบทที่ประสบอุทกภัยสามารถเข้าถึงตลาด โรงเรียน สถานีอนามัยและโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมอื่น ๆ ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพนำมาซึ่งการมีส่วนร่วมในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมเชิงบวกอย่างยั่งยืนของประชากรในชนบท” ผลกระทบจากการพัฒนาระยะกลางถึงระยะยาวคาดว่าจะส่งผลให้การผลิตสินค้าเกษตรและร้านค้าปลีกที่มุ่งเน้นตลาดเพิ่มขึ้นพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของความพร้อมของไฟฟ้าในพื้นที่เป้าหมายอีกด้วย โครงการคาดการณ์จะก่อสร้างแล้วเสร็จใน 18 เดือนสำหรับแต่ละสัญญา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Germany_234.php

รัฐบาลกัมพูชาเร่งพิจารณาการจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศ

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่ากระทรวงกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อหรือยกเลิกงานแสดงสินค้าที่จะจัดขึ้นในกัมพูชา จากสถานการณ์การแพรระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงไม่แน่นอน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าหากมีการจัดงานแสดงสินค้าขึ้นจะมีกำหนดอยู่ระหว่างวันที่ 24 ถึง 27 ธันวาคม ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อนงานแสดงสินค้าได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากหน่วยงานในพื้นที่ บริษัท ผู้ผลิต ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องได้เดินทางมายังงาน “Buy Cambodian Campaign” ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นการส่งเสริมการใช้สินค้าในท้องถิ่นและช่วยลดการไหลเข้าของสินค้าจากต่างประเทศเข้าสู่กัมพูชา ทั้งยังเป็นการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ผลิตในพื้นที่เพื่อช่วยในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพถูกสุขอนามัยและความปลอดภัย รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดใจ ด้วยต้นทุนที่ต่ำทำให้สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าได้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50788020/local-goods-exhibition-hangs-in-the-balance/

สนามบินภายในประเทศกัมพูชาได้รับรางวัลความปลอดภัยทางสุขภาพ

สนามบินนานาชาติสามแห่งของกัมพูชาได้รับรางวัล Airport Health Accreditation (AHA) ที่ออกโดย Airports Council International (ACI) ซึ่งรับรองสนามบินนานาชาติของประเทศของกัมพูชา (Phnom Penh International, Siem Reap International และ Sihanouk International) ตามการตรวจสอบที่ดำเนินการในเดือนพฤศจิกายนโดย ACI โดยการตรวจสอบมุ่งเน้นไปที่มาตรการด้านสุขภาพและสุขอนามัยที่กำหนดขึ้นที่สนามบินทั้งสามแห่งเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งสนามบินทั้งสามแห่งของกัมพูชาได้สอดรับกับแนวทางปฏิบัติอย่างเต็มที่ภายใต้มาตรการด้านสุขภาพของรัฐบาลกัมพูชาและมาตรการที่เป็นไปตามคำแนะนำด้านสุขอนามัยที่ออกโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) รวมถึงองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการของสายการบินอีกครั้ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50787907/kingdoms-airports-awarded-prestigious-accreditation/

ท่าเรือติวาลาพร้อมรับเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่

การท่าเรือของเมียนมา (Myanmar Port Authority: MPA) อนุญาตให้เรือขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 10 เมตรเข้าเทียบได้ที่ท่าเรือติวาลาของย่างกุ้งในเดือนนี้ คาดว่าจะช่วยให้มีปริมาณการขนส่งสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์มากและสามารถกระตุ้นให้มีปริมาณการค้าที่สูงขึ้น ซึ่งการค้าของเมียนมาประมาณ 95% เป็นการค้าทางทะเล ในปีงบประมาณที่แล้วมีการส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 10.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและนำเข้า 15.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐผ่านเส้นทางเดินเรือ ท่าเรือ Thilawa ซึ่งมีความยาว 10 เมตรสามารถรองรับเรือได้ถึง 20,000 ตันหรือ 2,000 TEU (Twenty foot Equivalent Unit : ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต) จนถึงต้นปีนี้มีเพียงเรือที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตรเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เทียบที่ท่าเรือ สามารถรองรับเรือได้ถึง 15,000 ตันหรือ 1,500 TEU

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/yangons-thilawa-port-receive-larger-ships.html

INFOGRAPHIC : เวียดนามดึงดูด FDI ถึง 26.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้

กระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนาม (MPI) เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 ระบุว่าเวียดนามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) 26.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้

โดยเงินลงทุนจากโครงการใหม่จำนวน 2,313 โครงการ รวมมูลค่า 13.559 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ, จำนวน 907 โครงการที่ปรับเพิ่มเงินทุนมูลค่าจำนวน 1,051 โครงการ  รวมมูลค่า 6.333 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และโครงการที่มีการซื้อหุ้นกิจการจากนักลงทุนต่างประเทศ จำนวน 5,812 โครงการ รวมมูลค่า 6.539 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูปยังคงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด ด้วยมูลค่าเม็ดเงิน 12.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 48.05 ของเงินลงทุนรวมจากต่างประเทศ รองลงมาการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ก๊าซ น้ำและระบบการปรับอากาศ มีมูลค่า 4.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (18.73%), อสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (14.38%), ค้าส่งค้าปลีก ซ่อมยานยนต์ มีมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.68%) และอื่นๆ ตามลำดับ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/fdi-attraction-hits-2643-bln-usd-in-11-months/191282.vnp