ที่ปรึกษารัฐบาลเมียนมาพร้อมหนุนภาคการก่อสร้าง

นางอองซานซูจีที่ปรึกษาแห่งรัฐกล่าวว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการก่อสร้างโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างงานให้มากขึ้น ซึ่งการก่อสร้างมีบทบาทสำคัญในการจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับคนยากจนและในทางกลับกันก็ช่วยจัดการการแพร่ระบาดของโควิด -19 มีการเตรียมการเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และเนปยีดอด้วยการสร้างอพาร์ทเมนท์ประมาณ 10,000 ห้อง รัฐบาลมีแผนเชิญภาคเอกชนเข้าร่วมในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เช่ารวมถึงการสร้างตลาด โรงเรียน คลินิก สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะสำหรับผู้อยู่อาศัยภายใต้ระบบการลงทุนภาคเอกชน ภายใต้ระบบดังกล่าวรัฐบาลจะจ่ายซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 250 พันล้านจัตโดยใช้เงินส่วนเกินจากงบประมาณ จากข้อมูลในปี 2557 จำนวนคนที่อาศัยอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนในเมียนมาส่วนใหญ่ยังไม่มีที่อยู่อาศัย เป็นผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีการเปิดตัวอพาร์ทเมนท์ราคาประหยัดประมาณ 30,000 ห้อง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/state-counsellor-promises-continue-supporting-construction-sector.html

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาเผยการส่งออกข้าวโพดมีแนวโน้มดีขึ้น

ในขณะที่ความต้องการของต่างประเทศในนำสินค้าอุปโภคของเมียนมาบางส่วนในปีนี้ลดลงต่ำกว่าที่คาดไว้ในปีนี้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 แต่การส่งออกพืชผลหลายชนิดยังคงเพิ่มขึ้นและบางส่วนก็ดูมีแนวโน้มดี กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การส่งออกข้าวโพดเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 เมื่อเทียบเป็นรายปีในปีงบประมาณปัจจุบันและแนวโน้มการเติบโตดูสดใส การส่งออกในปีนี้อยู่ที่ 2.5 ล้านตันเทียบกับ 1.5 ล้านตันในปีที่แล้ว โดยปกติแล้วข้าวโพดจะส่งออกไปยังจีน แต่ความต้องการจากไทยเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่เริ่มปีงบประมาณ 2562-2563 กว่าร้อยละ 60 ของการส่งออกข้าวโพดในปีนี้ผ่านชายแดนท่าขี้เหล็กและเมียวดี ความต้องการจากประเทศอื่น ๆ เช่น เวียดนามและฟิลิปปินส์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน  ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมากำลังเชื่อมโยงเกษตรกรกับธนาคารเพื่อหาทุนในการปลูก ส่วนพืชอื่น ๆ ของที่มีความต้องการในต่างประเทศมากคืออะโวคาโด ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากสิงคโปร์และจีน โดยอะโวคาโดพันธุ์แฮส (Hass) เป็นอะโวคาโดที่ปลูกกันมากที่สุดในโลก ซึ่งมักจะพบทางตอนใต้ของรัฐฉาน และถือว่าอะโวคาโดพันธุ์แฮส (Hass) มีสัดส่วนร้อยละ 80 ของอะโวคาโดที่บริโภคกันทั่วโลก การปลูกอะโวคาโดในปีนี้ประสบความสำเร็จและล่าสุดจีนเสนอให้นำเข้า 500 ตันต่อปี และสิงคโปร์ 15 ตันต่อสัปดาห์เช่นกัน

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/commerce-ministry-myanmar-says-corn-exports-very-promising.html

แหล่งท่องเที่ยวเมียนมาพร้อมเปิดอีกครั้งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ COVID-19

การเปิดแหล่งท่องเที่ยวในประเทศอีกครั้งอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับการจัดการปัญหา COVID-19 ในประเทศและต่างประเทศ กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวชี้ว่าแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวของกระทรวงซึ่งรวมถึงข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้นอยู่กับการประเมินเกี่ยวกับภัยคุกคาม COVID-19 ซึ่งไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใดและสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากการกลับมาของการติดเชื้อในเมืองดานังของเวียดนามเมื่อเร็ว ๆ นี้ เมียนมาตัดสินใจที่ปิดชายหาดในอิระวดีอีกครั้ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเมืองโบราณพุกามซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศได้ปิดเจดีย์ 17 แห่งไม่ให้เข้าชมจนกว่าจะมีประกาศให้ทราบอีกครั้ง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/myanmar-tourist-spots-reopening-changes-depend-covid-19-situations.html

ฟิลิปปินส์ยกเลิกการนำเข้าข้าวเมียนมาท่ามกลางการประท้วงของเกษตรกร

สมาคมผู้ค้าข้าวแห่งเมียนมา(MRTA) เผยข้อตกลงการส่งออกข้าวระหว่างเมียนมาและฟิลิปปินส์ได้ลดลงหลังจากที่ได้รับแรงกดดันจากเกษตรกรในท้องถิ่นในท้องถิ่น เมื่อปีที่แล้วเมียนมาส่งออกข้าว 150,000 ตันไปยังฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เมียนมาร่วมประมูลเพื่อส่งออกข้าว 50,000 ตันไปยังฟิลิปปินส์ในปี 2560 แต่ในปีนั้นเวียดนามชนะการประมูลไป เมียนมาไม่สามารถส่งออกข้าวตามเป้าหมายที่คาดไว้คือ 2.4 ล้านตันในปีงบประมาณ 2562-2563 เนื่องจากความต้องการที่ลดลง ขณะนี้มีการส่งออกข้าวเพียง 2 ล้านตันและคาดว่าข้าวที่เหลืออีก 400,000 ตันจะถูกส่งออกในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2563 ณ วันที่ 17 กรกฎาคมการขาดดุลการค้าของเมียนมาในปี 2562-2563 เพิ่มขึ้นเป็น 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 718 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561-2562

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/philippines-cancels-myanmar-rice-consignment-amid-local-protests.html

อิรวดีและฉานมีแผนส่งเสริมการลงทุน

เมียนมากำลังขยายทางเลือกสำหรับธุรกิจที่จะลงทุนในประเทศ เมื่อไม่นานมานี้อนุญาตให้นักลงทุนขยายสาขาการลงทุนออกไปนอกกรุงย่างกุ้งและมัฑะเลย์และภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศแม้จะมีการระบาดของ COVID-19 คณะกรรมการการลงทุนของอิรวดี ได้อนุญาตให้ลงทุนในโรงแรมและการท่องเที่ยว การผลิต และการก่อสร้างมูลค่าประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐและ 3 พันล้านจัต คาดว่าจะสร้างงานได้มากกว่า 2,000 ตำแหน่ง โดยได้ให้การสนับสนุน 35 นักลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศลงทุนในภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันรัฐฉานเดินหน้าด้วยแผนการส่งเสริมการลงทุน 10 ปี สำหรับปีงบประมาณ 2562-2563 ถึงปีงบประมาณ  2573 – 2574 เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจโดยการจ้างแรงงานในสัดส่วนที่สูงขึ้น โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น และการให้บริการที่สามารถรองรับนักลงทุนและธุรกิจ แผนส่งเสริมการลงทุนของรัฐฉาน (SSIPP) มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเป็น 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 และ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2573 โดยรัฐฉานสามารถดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมูลค่า 780 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2561-2562 ส่วนใหญ่เป็นภาคพลังงานคิดเป็นร้อยละ 70 แม้ว่ารัฐฉานจะมีทรัพยากรธรรมชาติและแรงงานจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้เนื่องจากขาดทักษะ โครงสร้างพื้นฐาน และระบบตลาดที่ใช้ได้จริง ท่ามกลางความไม่แน่นอนในภูมิภาคและในพื้นที่แนวชายแดน

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/ayeyarwady-shan-advance-investment-promotion-plans.html

รัฐบาลเมียนมาไฟเขียว Ywama ปรับปรุงโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติ

กระทรวงพลังงานและพลังงาน (MOEE) ได้ยกระดับการสร้างโรงไฟฟ้าความร้อนร่วมก๊าซ – กังหันแบบที่เมือง Ywama และเมืองย่างกุ้ง โรงไฟฟ้าแห่งนี้ธนาคารโลกจัดหาเงินเพื่อสนับสนุนราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐสหรัฐเพื่อการปรับปรุง โดยใช้เวลา 36 เดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดยได้รับการพัฒนาภายใต้การร่วมทุนประกอบด้วยกลุ่มบริษัท Eden Group และรัฐบาลเมียนมา นักลงทุนยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 30 โครงการซึ่งสามารถผลิตได้มากกว่า 1,000 เมกะวัตต์ในเดือนพฤษภาคม โดยการกำหนดระยะการประกวดราคาได้ขยายจากวันที่ 17 มิถุนายน – 17 กรกฎาคม 2563

ที่มา : https://www.mmtimes.com/news/govt-greenlights-ywama-gas-plant-upgrade.html

สนามบินเจาะพยูได้รับการซ่อมแซมซ่อมพร้อมยกระดับ

รัฐบาลเมียนมาได้จัดสรรเงินทุนเพื่อซ่อมแซมและยกระดับสนามบินเจาะพยู มากกว่า 500,000 ล้านจัต ในปีงบประมาณ 2563-2564 โดยมีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงการท่องเที่ยวในภูมิภาคอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ สำหรับผลิตภัณฑ์ประมงของยะไข่ และเพื่อเป็นการดึงดูดการลงทุนระหว่างประเทศมากขึ้น ซึ่งสนามบินในสถานะปัจจุบันไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ทันสมัยสำหรับการเดินทางของผู้โดยสาร โดยงบประมาณ 400 ล้านจัตจะใช้เพื่อซ่อมแซมและขยายรันเวย์สนามบินจาก 2,500 ฟุตเป็น 7500 ฟุต นอกจากนี้ยังมีการเสนอเพิ่มอีก 100,000 ล้านจัต เพื่อขยายอาคารผู้โดยสารที่สนามบินทำให้สามารถรองรับเครื่องบิน ART-72 สองเครื่องในเวลาเดียวกัน หากได้รับการอนุมัติสนามบินจะได้รับการพัฒนาก่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเจาะพยู (SEZ) ซึ่งจะประกอบด้วยเขตอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกเมื่อเสร็จสมบูรณ์ SEZ เป็นส่วนสำคัญในทางเดินระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ One Belt One Road ของจีนซึ่งครอบคลุมหลายประเทศในเอเชีย นอกจากนี้ยังจะเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง คุนหมิง-มูเซ-มัณฑะเลย์ -เจาะพยู ทั้งหมดนี้คาดว่าจะเพิ่มจำนวนนักเดินทางไปและกลับจากเจาะพยูในปีต่อ ๆ ไป ด้วยเหตุนี้การมีสนามบินที่ทันสมัยและใช้งานได้จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/kyaukphyu-airport-receive-funds-repairs-upgrades.html

CHID Bank พักชำระหนี้เงินกู้จากภาวะ COVID-19

ธนาคารเพื่อการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐาน (CHID) ประกาศว่าพักชำระหนี้เพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ธนาคาร CHID เป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐบาลจัดตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2556 ภายใต้กระทรวงการก่อสร้างเพื่อมุ่งเน้นการจัดหาที่อยู่อาศัยราคาถูกและราคาไม่แพงให้กับประชาชนทั่วไป แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินกู้และประวัติการชำระหนี้ของลูกค้าด้วย ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามคำแนะนำของธนาคารกลางของเมียนมา ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ธนาคารคิดค่าปรับสำหรับการชำระหนี้ล่าช้า 15 วันต่อมานับจากวันสุดท้ายของเดือนสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ต้องชำระในเดือนพฤษภาค มมิถุนายน และกรกฎาคม ก่อนหน้านี้ธนาคารคิดค่าปรับร้อยละ 0.01 ต่อวันสำหรับการชำระเงินล่าช้า ธนาคารยังลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 0.50 เป็นร้อยละ 1.50 ขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อ

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/chid-bank-delays-loan-repayment-period-clients-amid-covid-19.html

รัฐบาลเมียนมาเผยแผนสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ (SEZ) ในรัฐมอญ

เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ (SEZ) จะดำเนินการในรัฐมอญโดยเชื่อมโยงเมียนมากับแนวพื้นที่เศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำตะวันออก-ตะวันตก โดย SEZ แห่งใหม่มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อกับดานังของเวียดนามและจะเป็น SEZ ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมาหากได้รับการอนุมัติ คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย 117 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการพัฒนาและใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีจึงจะแล้วเสร็จ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับประเทศที่อยู่บนทางเดินเศรษฐกิจโดยมีการสร้างท่าเรือน้ำลึกและการเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา (Thilawa SEZ) ผ่านเครือข่ายการขนส่งท้องถิ่น ในการเลือกที่ตั้ง การศึกษาความเป็นไปได้และจัดทำแผนแม่บทโดยได้รับความช่วยเหลือจากทีมที่ปรึกษาระหว่างประเทศ จุดประสงค์ในการเชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ (SEZ) ของรัฐมอญกับเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา (Thilawa SEZ) เพื่อให้ทั้งสองพื้นที่เป็นเขตอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐาน มีความโปร่งใส และมีคุณภาพระดับโลก โครงการนี้จะรวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารเมืองเพื่อพัฒนาอย่างเมืองเมาะลำเลิงในรัฐมอญ เมืองพะอานและเมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยง

ที่มา: https://www.mmtimes.com/news/govt-reveals-plans-build-new-sez-mon-state.html

สนามบินนานาชาติย่างกุ้งขยายการระงับการให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ

รัฐบาลย่างกุ้งขยายการระงับการให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้งจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เพื่อป้องกันและควบคุมไวรัส COVID-19 ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาและกรมการบินพลเรือนได้สั่งห้ามทำการบินขาเข้าระหว่างประเทศชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2563 เนื่องจากร้านค้าทั้งหมดในสนามบินนานาชาติย่างกุ้งถูกปิดในช่วงการระบาดของ COVID-19 รัฐบาลจึงได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการเช่าของร้านค้า นอกจากนี้ยังตัดเงินเดือนพนักงานสนามบินเพื่อความอยู่รอดในระยะยาว จากเที่ยวบินผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ระหว่างประเทศถูกห้ามจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 จำนวนผู้ใช้เที่ยวบินลดลงเป็นสองเท่าตั้งแต่ต้นกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมา

ที่มา : https://elevenmyanmar.com/news/ygn-airport-extends-suspension-on-operation-of-international-flights