‘เวียดนาม’ เผยช่วง 7 เดือนแรกปี 66 ส่งออกน้ำมันดิบ 1.76 ล้านตัน

กรมศุลกากรเวียดนาม เปิดเผยว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกน้ำมันดิบไปยังตลาดต่างประเทศ 1.76 ล้านตัน มูลค่ารวม 1.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.7% ในเชิงปริมาณ แต่ลดลง 10.4% ในเชิงมูลค่า เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามลำดับ ในขณะที่เดือน ก.ค. เพียงเดือนเดียว พบว่าเวียดนามทำรายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบ ปริมาณ 350,000 ตัน มูลค่า 224 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 52.2% และ 7.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน นอกจากนี้ เวียดนามนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. ปริมาณ 1.5 ล้านตัน มูลค่า 862 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 120.6% และ 49.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ดี ไทยและออสเตรเลียเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-exports-1-76-million-tonnes-of-crude-oil-in-seven-months-2174928.html

‘วงใน’ เผย ข้าวเวียดนาม รุกเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในสหราชอาณาจักร

นายเหงียน กั๋น เกื่อง ที่ปรึกษาการค้าของเวียดนาม ประจำสหราชอาณาจักร กล่าวว่าในปัจจุบัน โอกาศสำคัญของเวียดนามที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดข้าวเวียดนามในตลาดสหราชอาณาจักร (UK) หลังจากอินเดีย ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ธัญพืชรายใหญ่ที่สุดในตลาดแห่งนี้ มีคำสั่งห้ามส่งออกข้าว ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวเอเชียกว่า 5.5 ล้านคน และมีความพร้อมการข้าวสูง ในขณะที่ไม่มีการผลิตข้าวเลย โดยเมื่อปี 2565 ปริมาณการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปริมาณกว่า 678,000 ตัน อีกทั้ง การส่งออกข้าวของเวียดนามไปยังตลาดสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 3,400 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.5% และ 34% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตามลำดับ

ที่มา : https://en.nhandan.vn/vietnamese-rice-can-grow-larger-uk-market-share-insiders-post128237.html

‘เมียนมา’ เตรียมขายข้าว 170,000 กระสอบ ภายใต้โครงการเงินอุดหนุน

สหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) แจ้งเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่าจะขายข้าว 170,000 กระสอบในเดือน ส.ค. รวมถึงข้าวพันธุ์ ปอว์ซาน (Paw San) 20,000 กระสอบ และข้าวพันธุ์ Aemahta 50,000 กระสอบ และข้าวสุกเมล็ดสั้นพันธุ์ Aemahta (90 วัน) 100,000 กระสอบ และสหพันธ์ฯ จะเพิ่มโควตาการขาย หากมีความจำเป็น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mrf-to-sell-off-170000-rice-sacks-under-subsidy-scheme/#article-title

รัฐบาลท้องถิ่น สปป.ลาว เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

หลายร้อยหมู่บ้านในหลายจังหวัดในภาคกลางและภาคใต้ของ สปป.ลาว กำลังดิ้นรนเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมหลังจากฝนตกหนักมาในช่วงหลายวัน ส่งผลทำให้ฟาร์มจำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบ และประชาชนหลายพันคนในพื้นที่กำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ บอลิคำไซ คำม่วน และสะหวันนะเขต ได้รับผลกระทบเป็นอย่างหนัก ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่นและพันธมิตรอื่นๆ กำลังเร่งดำเนินการอย่างหนักเพื่อให้ทันต่อการตอบสนองสถานการณ์เร่งด่วน โดยล่าสุดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมได้จัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังหน่วยงานแรงงานและสวัสดิการสังคมในเขตพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมในการแก้ไขเหตุฉุกเฉินกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ เพิ่มเติม พร้อมกันนี้กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมจะประสานงานกับจังหวัดที่ประสบอุทกภัยต่อไปเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ด้านกระทรวงและคณะกรรมการป้องกันและควบคุมภัยพิบัติแห่งชาติ ซึ่งทำงานร่วมกับภาคีการพัฒนาได้ส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคมูลค่ารวมกว่า 573.93 ล้านกีบ ในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในแขวงบอลิคำไซ คำม่วน และแขวงสะหวันนะเขต

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_152_Local_y23.php

ในช่วงครึ่งแรกของปีจำนวนโรงงานในกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) รายงานสถานการณ์การจัดตั้งโรงงานใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แม้ว่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมจะลดลงเนื่องจากความต้องการที่ชะลอตัวจากตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป โดยจำนวนโรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 1,995 แห่ง ณ เดือนมิถุนายนปีนี้ สร้างการจ้างงานใหม่เกือบ 1 ล้านตำแหน่ง ซึ่งในช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการจดทะเบียนจัดตั้งโรงงานใหม่ที่ 1,974 แห่ง สำหรับการส่งออกของกัมพูชาลดลงเล็กกน้อยร้อยละ 2.1 หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 11,489 ล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ นับเป็นการส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องนุ่งห่มอยู่ที่ 3,654 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 19 การส่งออกรองเท้ามูลค่า 702 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 17.2 สินค้าเดินทางที่มูลค่า 999 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 17.1 การส่งออกจักรยานคิดเป็น 332 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 30.5 อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1.3 เท่าหรือคิดเป็นมูลค่ารวมกกว่า 1,440 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501338601/number-of-factories-in-kingdom-rises-in-h1/

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรในช่วง 7 เดือน แตะ 2.6 พันล้านดอลลาร์

ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรไปยัง 68 ประเทศทั่วโลก รวมกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นการส่งออกข้าวสารที่มูลค่า 504 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งหากนับเป็นปริมาณตันรวมทั้งสิ้น 4.5 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 19.20 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งออกเป็นข้าวสาร 3.63 แสนตัน, ข้าวเปลือก 1.51 ล้านตัน และสินค้าการเกษตรอื่นๆ 2.64 ล้านตัน แม้ว่าการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังตลาดต่างประเทศจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ยังคงมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอนาคต เนื่องจากการที่ประเทศอินเดียประกาศลดโควต้าการส่งออกข้าวเพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารในประเทศ ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ เป็นผลทำให้ปริมาณสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวในตลาดโลกอาจจะเกิดความต้องการเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณข้าวที่อาจน้อยลง ด้วยเหตุผลข้างต้นทำให้กัมพูชาต้องเร่งศึกษากลยุทธ์ในการตักตวงโอกาสดังกล่าวที่จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ โดยการเพิ่มขีดความสามารถของโรงสีในท้องถิ่นในการจัดเก็บสต๊อก และเพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูปเพื่อการส่งออก เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501339005/cambodias-agricultural-exports-reach-more-than-2-6-billion-in-seven-months/

เงินเฟ้อไทย ก.ค. 66 เพิ่ม 0.38% ยังต่ำสุดในอาเซียน

นายพูนพงษ์ นัยนาภาภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ทางการค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยเดือนกรกฎาคม 2566 อยู่ที่ 107.82 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2556 ที่อยู่ที่ 107.41 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นเพียง 0.38% ซึ่งสูงขึ้นจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากเทียบเงินเฟ้อไทยกับต่างประเทศ (ข้อมูลล่าสุดเดือน มิ.ย. 2566) พบว่าอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ และต่ำที่สุดในอาเซียน นอกจากนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในอีก 5 เดือนที่เหลือ เงินเฟ้อน่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกินเดือนละ 1%

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-1364174

‘เวียดนาม’ เผยรายได้อุตฯ ICT ลดลง 7%

กระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารของเวียดนาม (MIC) เปิดเผยว่าในเดือนที่แล้ว รายได้จากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มีมูลค่ากว่า 1.71 พันล้านล้านด่อง หรือประมาณ 72.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุมาจากเศรษฐกิจหลายๆประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอย และไม่เห็นสัญญาการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ตลาดไอซีที (ICT) ยังคงปรับตัวลดลง พร้อมกับศักยภาพการเติบโตอยู่ในระดับต่ำ เนื่องมาจากได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และอาฟเตอร์ช็อกทางเศรษฐกิจ หลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดส่งออกสินค้าและบริการของเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/ict-revenue-falls-by-more-than-7-over-last-year-2174502.html

‘นิ่งห์ถ่วน’ ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางพลังงานหมุนเวียนของประเทศ

จังหวัดนิ่งห์ถ่วน (Ninh Thuan) ตั้งเป้าผลักดันประเทศสู่ศูนย์กลางผลิตพลังงานหมุนเวียน โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 26,500 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 และเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวนั้น ทางจังหวัดมุ่งพัฒนาโซลาร์ฟาร์มและฟาร์มกังหันลม รวมถึงส่งเสริมให้ประเทศมีส่วนร่วมด้านความมั่งคงทางพลังงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2564-2573 ทางจังหวัดจะมุ่งพัฒนาพลังงานจากแสงอาทิตย์ ลม ไฟฟ้าพลังน้ำ และก๊าซธรรมชาติเหลว ซึ่งกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว คาดว่าจะมีสัดส่วน 16% ของ GDP จังหวัด ในปี 2573

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/ninh-thuan-looks-to-become-renewable-energy-hub/

‘เมียนมา’ เผยราคาหัวหอมในตลาดย่างกุ้ง พุ่ง 2,400 จ๊าตต่อวิสส์

The Global New Light of Myanmar สำนักข่าวท้องถิ่นเมียนมา รายงานว่าเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ราคาหัวหอมพุ่งแตะ 2,400 จ๊าตต่อวิสส์ นับเป็นครั้งแรกในปีนี้ของตลาดย่างกุ้ง ด้วยจำนวนหัวหอม 90,000 หัวต่อวิสส์ ราคาหัวหอมจะอยู่ที่ราว 1,800-2,400 จ๊าตต่อวิสส์ ทั้งนี้ เมียนมาได้ตั้งเป้าที่จะส่งออกหัวหอม 1 แสนตันในปีงบประมาณ 2566-2567 รวมไปถึงมีแผนที่จะส่งออกหัวหอมกว่า 20,000 ตัน และ 35,000 ตันในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/onion-price-rises-to-k2400-per-viss-in-yangon-market/