ยอดขายรถยนต์ในเวียดนาม ดิ่งลง 14% “เดือนสารทจีน”

ตามรายงานของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม (VAMA) ในเดือนสิ.ค. ยอดขายรถยนต์ในเวียดนามลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้วยจำนวน 20,655 คัน ขณะที่ ในเดือนที่ 7 (ก.ค.) ตรงกับปฏิทินจันทรคติ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เดือนสารทจีน (Ghost Month) ทำให้คนในท้องถิ่นหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าใหม่ที่มีมูลค่าสูง ถือว่าพาโชคร้ายติดตัวมาด้วย ทั้งนี้ หากจำแรกประเภทรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรก พบว่ายอดขายขายรถยนต์นั่งอยู่ที่ 15,419 คัน ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ตามมาด้วยยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ 4,966 คัน ลดลงร้อยละ 20 และยานพาหนะเฉพาะกิจ 270 คัน ลดลงร้อยละ 19 อีกทั้ง โดยภาพรวมแล้ว ยอดขายรถยนต์ทุกประเภทในเดือนม.ค.-สิ.ค. 151,903 คัน ลดลงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ รัฐบาลได้ส่งเสริมนโยบายหลายประการ เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์ที่ผลิตในประเทศ ช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ รวมถึงการลดค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสำหรับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศลงร้อยละ 50 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. เป็นต้น

ที่มา : http://hanoitimes.vn/car-sales-in-vietnam-down-14-on-ghost-month-314199.html

‘Vinamilk’ ขยายฟาร์มโคนม

ผู้ผลิตนมรายใหญ่ในเวียดนาม “Vietnamilk” (วินนามิลค์) มีแผนที่จะขยายฟาร์มโคนมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ แผนที่วางไว้ข้างต้นนั้น ทางบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนแรก ฟาร์มเลี้ยงโคนมออร์แกนิคในจังหวัดเชียงขวาง สปป.ลาว ด้วยจำนวนโค 24,000 ตัว และในขั้นตอนที่สองจะเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ตัว โดยเฉพาะการเปิดตัวของศูนย์ถ่ายทอดผ่านทางเซลล์สืบพันธุ์จากเทคโนโลยีของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ในการคัดสรรยีนที่ดีที่สุดและนำไปพัฒนาฝูงวัวในประเทศต่อไป

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vinamilk-to-expand-milch-cow-farms/182927.vnp

อิออน ซูเปอร์มาร์เก็ต จัดงาน ‘Vietnam Fair’ ในญี่ปุ่น

งาน Vietnam Fair จัดแสดงสินค้าเวียดนามระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2563 ในอิออน ซูเปอร์มาร์เก็ต 40 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยงานแสดงสินค้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สินค้าเวียดนามเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นและขยายความสัมพันธ์ทางการค้ากับพาร์ทเนอร์ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะผู้นำเข้าของทางอิออน นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมทางธุรกิจของบริษัทเวียดนามเกี่ยวกับระบบการจัดจำหน่ายในปี 2563 และเปิดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามกับกลุ่มบริษัทอิออน เพื่อให้เวียดนามส่งออกไปยังอิออนเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-fair-underway-in-aeon-supermarkets-in-japan/182892.vnp

เวียดนามส่งออกหน้ากากอนามัยกว่า 900 ล้านชิ้น ในช่วง 8 เดือน

จากรายงานของกรมศุลกากรเวียดนาม (GDVC) เผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 ผู้ประกอบการเวียดนามส่งออกหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ทั้งหมด 846 ล้านชิ้น ขณะที่ ในเดือนสิงหาคม บริษัทกว่า 70 แห่งในเวียดนาม ส่งออกหน้ากากอนามัยไปยังประเทศต่างๆ ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป สิงคโปร์ หรือเกาหลีใต้ และอื่นๆ ด้วยจำนวนมากกว่า 135 ล้านชิ้น ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนก่อน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก อนุมัติการส่งออกหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันที่ใช้เกี่ยวกับการแพทย์ อย่างไรก็ตาม การส่งออกหน้ากากอนามัยลดลงในเดือนกรกฎาคม หลังจากหลายๆประเทศ ผ่อนคลายมาตรการจำกัดต่างๆ นอกจากนี้ ผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การผลิตหน้ากากอนามัยถือเป็นทางออกที่เหมาะสมแก่บริษัทเสื้อผ้าในเวียดนาม เพื่อดำเนินธุรกิจได้ต่อไปและชดเชยจากการขาดทุน เหตุความต้องการเสื้อผ้าน้อยลง

 ที่มา : http://hanoitimes.vn/vietnam-exports-nearly-900-million-medical-face-masks-in-8-months-314190.html

INFOGRAPHIC : เวียดนามกระโดดอันดับทางเศรษฐกิจ แตะระดับสูงสุด

World Economic Forum (WEF) ได้จัดอันดับ Global Competitiveness Index ของประเทศเวียดนาม มีคะแนนดัชนีความสามารถทางการแข่งขันที่ดีขึ้นจาก 55 คะแนน ในช่วงปี 2017-2018 เป็น 67 คะแนน ในช่วงปี 2018-2019

World Intellectual Property Organisation (WIPO) ได้เปิดตัวรายงาน Global Innovation Index (GII) พบว่าประเทศเวียดนามขยับตัวดีขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 42 จากทั้งหมด 129 ประเทศ

World Bank ได้ประกาศผลการจัดอันดับความยากง่าย ในการประกอบธุรกิจ หรือ Doing Business พบว่าในปี 2020 ประเทศเวียดนามมีคะแนนสูงขึ้นจาก 69 ในปี 2019 เป็น 70 คะแนน ในปี 2020

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-economy-ranking-improves-reaches-new-heights/182491.vnp

เวียดนามเป็นหนึ่งในฐานการผลิตโทรทัศน์ใหม่ของซัมซุง

บริษัท Samsung Electronics จะย้ายฐานการผลิตโทรทัศน์บางส่วนไปยังเวียดนาม หลังการปิดตัวของโรงงานผลิตโทรทัศน์เพียงแห่งเดียวในเมืองเทียนจิน ช่วงปลายเดือนพ.ค. เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจที่หันมาย้ายห่วงโซ่อุปทานออกจากประเทศจีน ทั้งนี้ ตามรายงานของ Nikkei Asia Review ระบุว่าซัมซุงเป็นผู้ขายโทรทัศน์จอแบนในระดับโลก ที่กำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในประเทศจีน เนื่องจากการแข่งขันในประเทศที่สูงขึ้น รวมถึงมาตรการคล่ำบาตรและต้นทุนแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ ในช่วงปี 2551-2561 ซัมซุงเข้ามาลงทุนในเวียดนามทั้งหมดอยู่ที่ 670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยับมาเป็น 17.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 26 เท่า โดยในเดือนมี.ค. ซัมซุงเวียดนามได้เริ่มก่อสร้างศูนย์ R&D ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ฮานอย) ด้วยมูลค่า 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทคาดว่าเวียดนามจะไม่เพียงแค่เป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุด แต่ยังเป็นฐานกลยุทธ์ในแง่ของการวิจัยและพัฒนา

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/vietnam-among-samsungs-new-tv-production-sites-24288.html

เวียดนามนำเข้ารถยนต์ CBU จำนวน 53,000 คัน ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้

ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป (CBU) 53,000 คัน ด้วยมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในเดือนที่แล้ว จำนวนนำเข้ารถยนต์ CBU อยู่ที่ 8,000 คัน คิดเป็นมูลค่า 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยและอินโดนีเซียยังคงเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุด สำหรับการนำเข้ารถยนต์จากเวียดนาม เนื่องจากความได้เปรียบทางด้านภาษี นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศดังกล่าวถือว่าเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ สาเหตุมาจากภาษีนำเข้าที่ร้อยละ 0 ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ อินโดนีเซียส่งออกรถยนต์ไปเวียดนาม จำนวน 17,723 คัน ในขณะเดียวกัน เวียดนามนำเข้ารถยนต์จากไทย จำนวน 19,944 คัน นอกจากนี้ รถยนต์ยอดนิยมในเวียดนาม คือ รถยนต์ที่ประกอบขึ้นในประเทศ เพราะฉะนั้นอุปทานและราคาขายอยู่ในระดับคงที่ ในเดือนที่เหลือของปี

 ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/772157/viet-nam-imported-53000-cbu-cars-in-8-months.html

เวียดนามคาดส่งออกข้าว 100,000 ตันไปอียู

จากการหารือของกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ในประเด็น ‘การส่งออกข้าวไปยังสหภาพยุโรป’ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา คุณ Le Quoc Doanh รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ระบุว่าข้อตกลงการค้าเสรี EVFTA จะก่อให้เกิดประโยชน์มากมายต่อผลผลิตทางการเกษตร การส่งออกข้าวจะมีศักยภาพสูงขึ้นภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ประกอบกับอียูจะให้โควตาข้าวของเวียดนาม 80,000 ตันต่อปี และเปิดเสรีการค้าข้าวหักอย่างสมบูรณ์ หมายความว่าเวียดนามสามารถส่งออกข้าวได้ถึง 100,000 ตันต่อปี ไปยังอียู ทั้งนี้ กรมการผลิต ระบุว่าอียูจะยกเว้นภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์ข้าวจากเวียดนาม หลังจาก 3-5 ปี ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงมีความได้เปรียบการค้าเมื่อเทียบกับกัมพูชาและเมียนมา ที่ต้องจ่ายภาษี 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในปี 2563 และ 123 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในปี 2564

ที่มา : http://dtinews.vn/en/news/018/69841/vietnam-hopes-to-export-100-000-tonnes-of-rice

นักลงทุนญี่ปุ่นย้ายฐานเข้าสู่เวียดนาม เหตุห่วงโซ่อุปทาน

การลงทุนของญี่ปุ่นในเวียดนามนั้น มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังคงดำเนินต่อไปอีก เนื่องจากนักลงทุนญี่ปุ่นมองว่าเวียดนามมีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดี โดยบริษัทญี่ปุ่น 15 รายที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อกระจายห่วงโซ่อุปทานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ คุณ Watanabe Nobuhiro กล่าวว่าบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งเข้าร่วมกับทาง HCMC Japanese Friendship Club (JCCH) แสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจของผู้ประกอบการญี่ปุ่นต่อการทำธุรกิจในนครโฮจิมินห์ อีกทั้ง สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ระบุว่าสาเหตุดังกล่าวมาจากการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ ทำให้ธุรกิจญี่ปุ่นในโฮจิมินห์สามารถจัดการกับปัญหาในการทำธุรกิจได้

ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/japanese-investors-shifting-to-vietnam-to-diversify-supply-chain-24249.html

‘บั๊กนิญ’ มีรายได้จากการส่งออกกว่า 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ถึงแม้ว่าจะเผชิญกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ว่ามูลค่าการส่งออกของจังหวัดบั๊กนิญ (Bac Ninh) มากกว่า 20.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค. ปี 2563 ในขณะที่ ยอดการพัฒนาและเงินลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ สำนักงานรัฐบาลเพิ่งประกาศข้อสรุปจากรองนายกรัฐมนตรีจากการประชุมผู้นำในจังหวัด โดยเป้าหมายเพื่อหาแนวทางในการส่งเสริมการผลิตและธุรกิจที่นำเข้า-ส่งออก อำนวยความสะดวกให้กับคนในท้องถิ่นและการเข้าถึงเงินทุนของผู้ประกอบการ รวมถึงเครดิต การเงิน ภาษี การดำเนินธุรกิจและการชำระเงินออนไลน์ เป็นต้น การเบิกจ่ายการลงทุนของภาครัฐฯ สูงถึงร้อยละ 68 ลงไปยังจ.บั๊กนิญ ถือว่ามีอัตราการเบิกจ่ายสูงที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดดังกล่าวยังมีข้อบกพร้องอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคม, สภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษ โดยเฉพาะทางน้ำที่ยังไม่ได้รับการปรับปรุง, การขาดแคลนแรงงานทักษะขั้นสูง การท่องเที่ยวและงานบริการที่ยังคงชะลอตัว

ที่มา : https://vnexplorer.net/bac-ninh-earns-over-usd20-billion-from-exports-a202091702.html