“เวียดนาม” เผยราคารถยนต์แพง

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า เปิดเผยว่ารถยนต์ของเวียดนามมีราคาที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เนื่องจากอัตราภาษีสูงและผลผลิตที่อยู่ในระดับต่ำ โดยสาเหตุประการหลังนี้ ถือเป็นข้อบ่งชี้หลักที่มาจากผู้ผลิตในประเทศที่มีกำลังการผลิตที่ต่ำมากและผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีระบบการทำงานที่ไม่ซับซ้อน เน้นไปที่การเคลือบผิว การเชื่อม การประกอบและการทดสอบ เป็นต้น ในขณะเดียวกัน ความด้อยพัฒนาของอุตสาหกรรมยังเป็นข้อกังวลต่อกระทรวงฯ เนื่องจากผู้ผลิตชิ้นส่วนส่วนใหญ่มีขนาดเล็กและมีความสัมพันธ์ที่อ่อนแอต่อกัน รวมถึงส่วนประกอบบางส่วนเลิกผลิต ด้วยอัตราความผิดพลาดสูงและคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1495148/cars-in-viet-nam-not-coming-cheap.html

รัฐบาลสปป.ลาว มีแผนสร้างสะพานลอย 5 แห่งในเวียงจันทน์

นายสีพันธุ์ มณีวงศ์ รองหัวหน้าฝ่ายบริหารการขนส่งยานพาหนะ กระทรวงโยธาธิการและคมนาคม ของสปป.ลาว เผย  ความคืบหน้าของการก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนเกสรพรหมวิหาร ในแขวงสายเศรษฐา ของนครหลวงเวียงจันทน์ ที่เริ่มก่อสร้างเมื่อวันพุธที่ 8 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยใช้ประมาณเวลา 4 เดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์และยังมีแผนที่จะสร้างสะพานลอย 4-5 แห่งทั่วนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับประชาชน แต่ทั้งนี้ ยังรอการอนุมัติจากรัฐบาลสปป.ลาว ก่อน และยังต้องศึกษาก่อนว่าบริเวณที่จะมีการก่อสร้างมีความเหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้ยังได้กำชับผู้ใช้รถใช้ถนนให้ใช้ความระมัดระวังในการขับรถสัญจรในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างเพื่อไม่ให้กีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่อีกด้วย

ที่มา: https://laotiantimes.com/2023/03/10/govt-plans-to-build-around-five-overpasses-in-vientiane-capital/

กัมพูชาคาด “ซีเกมส์ 2023” ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ

กัมพูชากำลังผลักดันการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Visit Cambodia Year 2023 เนื่องจากทางการได้เตรียมตัวที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่กำลังจะมาถึง ด้าน Prak Vuthy ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและส่งเสริมการตลาดต่างประเทศ ของกระทรวงการท่องเที่ยว กล่าวเสริมว่า มหกรรมกีฬาดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว โดยในปีนี้กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ ซึ่งทั้งสองงานคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึงประมาณ 250,000-500,000 คน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501253326/cambodias-is-banking-on-series-of-major-sporting-activities-to-draw-tourists/

กัมพูชาตั้งเป้า GDP โต 6.6% ในปี 2023

นายกรัฐมนตรีฮุน เซน กล่าวถึงรัฐบาลได้ทำการคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ว่าจะเติบโตร้อยละ 6.6 ในปี 2023 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าการคาดการณ์ขององค์กรระหว่างประเทศหลัก 3 แห่ง ได้แก่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF), ธนาคารโลก (WB) และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) อย่างไรก็ตาม Meas Soksensan โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า ตัวเลขการเติบโตของ GDP เป็นผลมาจากรัฐบาลได้กำหนดมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปีนี้ เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของกัมพูชาและบรรเทาผลกระทบจากปัจจัยภายนอกหรือผลกระทบที่คาดว่าเกิดขึ้นในอนาคต ภายใต้ความเสี่ยงและความท้าทายที่ยังคงมีอยู่

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501252331/cambodia-to-achieve-6-6-gdp-growth-in-2023/

เปิดสถิตินักท่องเที่ยวเข้าไทย พบรัสเซียขึ้นอันดับ 2 เฟทโก้เร่งรัฐกระตุ้นก่อนเลือกตั้ง

กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาท่องเที่ยวในไทย พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนมกราคม 2566 เข้ามาทั้งสิ้น 2,144,948 คน เพิ่มขึ้น 1,502% โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากที่สุด คือ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 288,745 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26,390% อันดับที่ 2 นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 202,759 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 753% อันดับที่ 3 นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ 169,462 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7,781% อันดับที่ 4 นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย 103,316 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4,867% และอันดับที่ 5 นักท่องเที่ยวชาวจีน 91,841 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,853% ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ในปี 2565 จากเดิมที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 10 ล้านคน แต่ในความเป็นจริงมีเข้ามามากกว่า 11 ล้านคน ในขณะที่เดือน ม.ค. 66 ก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 2.2 ล้านคน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ผลกระทบจากการเลือกตั้ง เพราะในช่วงดังกล่าวนั้นรัฐบาลจะไม่สามารถทำมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นช่วงที่เปลี่ยนผ่าน ดังนั้นตัวช่วยที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวจะหายไป ดังนั้นภาครัฐควรพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย

ที่มา: https://www.thairath.co.th/business/feature/2650218

11 เดือนของปีงบฯ 65-66 เมียนมาส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบบ CMP โกยรายได้กว่า 4.7 พันล้านดอลลาร์ฯ

จากสถิติของสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้าเมียนมา เผย 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565-2566 (เดือนเมษายน 2565 ถึงกุมภาพันธ์ 2566) เมียนมาส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปแบบ CMP (Cut, manufacture and produce) สร้างรายได้กว่า 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มในเมียนมาดำเนินธุรกิจโดยผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศ เช่น  จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไทย ส่วนผู้นำเข้าหลักคือ จีน ไทย สิงคโปร์ รวมถึงประเทศในแถบยุโรป ถือได้ว่าอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มในเมียนมาเป็นแหล่งโอกาสในการทำงานที่สำคัญและเป็นอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตซึ่งจำเป็นต้องใช้แรงงานที่มีทักษะเป็นหลัก ปัจจุบันมีโรงงานทั้งหมด 738 แห่งทั่วประเทศ ประกอบไปด้วยโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า 505 แห่ง โรงงานผลิตรองเท้า 48 แห่ง โรงงานผลิตวิกผม 8 แห่ง รวมถึงโรงงานที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋า ชุดกีฬา รองเท้ากีฬา และถุงเท้า 117 แห่ง ฯลฯ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/cmp-garment-export-brings-in-over-4-7-bln-in-11-months-of-this-fy/#article-title

กสิกรไทย บุก เวียดนามเต็มขั้น ตั้งเป้าเป็น 1 ใน 20 ธนาคารใหญ่ที่สุด ภายในปี 2570

กสิกรไทยพร้อมขยายธุรกิจในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จอีกขั้น ด้วยการเติบโตเป็นธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่ติดอยู่ใน 20 อันดับแรกในประเทศเวียดนาม หวังเป็นธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ (Transactional Ecosystem) ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มองค์กร บริษัทขนาดกลาง กลุ่มค้าปลีก และลูกค้ารายย่อย ตั้งเป้าหมายรายได้สุทธิถึง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.32 หมื่นล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้างที่ 1.8 แสนล้านบาท และมีฐานลูกค้าเวียดนาม 8.4 ล้านรายภายในปี 2570

ที่มา : https://moneyandbanking.co.th/2023/27969/

“เวียดนาม” ทุ่มเงินนำเข้าน้ำมัน ทะลุ 1.7 พันล้านดอลลาร์

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) เปิดเผยว่าในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ การนำเข้าน้ำมันเบนซินของเวียดนามเพิ่มขึ้น 56.3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากข้อมูลของบริษัทจำหน่ายปิโตรเลียมชั้นนำของเวียดนาม “Petrolimex” ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. – 21 ก.พ. ระบุว่าบริษัทได้นำเข้าน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ 168,596 ลูกบาศก์เมตร, น้ำมันดีเซล 162,308 ลูกบาศก์เมตร และน้ำมันมาซูท (Mazut) 24,931 ลูกบาศก์เมตร เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดในประเทศ

นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ความต้องการของตลาดในปี 2566 กระทรวงฯ ได้จัดสรรโควตานำเข้าน้ำมันเบนซินและน้ำมันประเภทอื่นๆ ให้กับภาคธุรกิจที่ 27.34 ล้านล้านลูกบาศก์เมตรต่อตัน เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-spends-17-billion-usd-importing-petrol-in-two-months/249567.vnp

“บริษัทเทคจีนยักษ์ใหญ่” วางแผนลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเวียดนาม

บริษัทสัญชาติจีน “ซันนี ออปติคอล เทคโนโลยี กรุ๊ป” (Sunny Optical Technology Group) วางแผนที่จะลงทุนในเขตเศรษฐกิจเบน บิ่ญ จังหวัดท้ายเงวียน (Thai Nguyen) เป็นเงินทุนประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมพื้นที่ 26-40 เฮกตาร์ โดยการก่อสร้างโรงงานในเขตเศรษฐกิจแห่งนี้จะใช้ระยะเวลา 5 ปี หลังจากได้รับใบอนุญาตการลงทุนจากหน่วยงานท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน โรงงานใหม่แห่งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการจัดหาวัสดุการผลิตของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ นอกจากนี้ ในปัจจุบัน จังหวัดท้ายเงวียน (Thai Nguyen) ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุด “ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์” ในเวียดนาม

ที่มา : https://www.channelnewsasia.com/business/chinas-sunny-optical-technology-plans-us25-billion-investment-vietnam-3334711

เมียนมาตั้งเป้าส่งออกหัวหอม ปีงบฯ 66-67 ทะลุ 100,000 ตัน

กระทรวงพาณิชย์เมียนมาตั้งเป้าในปีงบประมาณ 2566-2567 จะส่งออกหัวหอม 100,000 ตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ โดยมีแผนในการส่งออก ดังนี้ เดือนเมษายน-มิถุนายน 2566 จำนวน 300,000 ตัน เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2566 จำนวน 15,000 ตัน เดือนตุลาคมและธันวาคม  2566 จำนวน 20,000 ตัน และเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 จำนวน 35,000 ตัน ซึ่งตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ เวียดนาม ไทย บังกลาเทศ และจีน ด้านราคาหัวหอมในประเทศจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,000 ถึง 1,750 จัตต่อ viss จากความต้องการในประเทศลดลงทำให้ราคาตลาดดิ่งลงอย่างมาก ทั้งนี้ จากสถิติของกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และชลประทาน ในปีงบประมาณ 2561-2562 การเพาะปลูกหัวหอมในเมียนมาครอบคลุมพื้นที่กว่า 170,000 เอเคอร์ มีผลผลิตเฉลี่ย 3,600 viss ต่อเอเคอร์ โดยภาคมัณฑะเลย์มีผลผลิตคิดเป็นร้อยละ 36 ของผลผลิตหัวหอมทั้งประเทศ รองลงมาคือภาคซะไกง์ ร้อยละ 32 และภาคมะกเว ร้อยละ 26

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/myanmar-to-export-100000-tonnes-of-onions-in-fy-2023-2024/#article-title