‘เวียดนาม’ ส่งออกกาแฟพุ่ง ทำสถิตินิวไฮ

กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการส่งออกกาแฟของเวียดนามอยู่ที่ราว 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 37.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ราคาส่งออกกาแฟเวียดนามเฉลี่ยที่ 2,280 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 22% และจากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าตลาดสหภาพยุโรป (EU) ยังคงเป็นตลาดที่มีการบริโภคกาแฟของเวียดนามมากที่สุด ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 39% ทั้งนี้ จากข้อมูลของสถาบันนโยบายและยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาเกษตรกรรมและชนบท (IPSARD) ชี้ว่าการส่งออกกาแฟของเวียดนามในตลาดยุโรป อาทิเช่น เบลเยียม สเปน เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศสและโปรตุเกส เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี แต่การส่งออกกาแฟไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปยังคงเติบโตได้ดี ซึ่งในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญมองว่าการส่งออกกาแฟของเวียดนามในปีนี้ มีแนวโน้มสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1372810/vietnamese-coffee-exports-set-a-new-record.html

‘เวียดนาม-กัมพูชา’ ส่งเสริมความร่วมมือโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัล

นายเหงวียน แมง ฮุ่ง (Nguyen Manh Hung) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของเวียดนาม และนายเจีย วันเดค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมหารือส่งเสริมความร่ววมือด้านไปรษณีย์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศและการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล โดยภายใต้กรอบการประชุมนายกรัฐมนตรีเวียดนาม นายฝ่าม มิงห์ จิ๋ง และหน่วยงานกระทรวงของทั้งสองประเทศได้บรรยายถึงสถานการณ์ นโยบายการบริหาร แนวคิดเชิงกลยุทธ์ โอกาสและความท้าทายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของทั้งสองประเทศเห็นด้วยที่จะแชร์มุมมองหรือความคิดริเริ่มในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังมองว่าควรสร้างบรรยากาศการดำเนินธุรกิจที่อำนวยความสะดวกในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของทั้งสองประเทศ เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนและมิตรภาพระหว่างประเทศทั้งสอง

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-cambodia-foster-partnership-in-post-telecoms-digital-transformation/243531.vnp

เมียนมา ผลักดันบริษัทมากกว่า 600 แห่ง ยื่นจดทะเบียนกับ GACC เพื่อส่งออกสินค้าเกษตรไปจีน

บริษัทและวิสาหกิจในเมียนมามากกว่า 600 แห่ง รวมถึงบริษัทส่งที่ออกข้าว ข้าวหัก ข้าวโพด และกล้วย กำลังพยายามยื่นนจดทะเบียนกับกรมศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) เพื่อส่งออกสินค้ามากกว่า 1,600 รายการ โดยหน่วยงานของภาครัฐต่างๆ เช่น กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์ กรมประมง และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กำลังยื่นมือเข้าช่วยเหลือบริษัท วิสาหกิจ องค์กร และนิติบุคคล ที่กำลังขึ้นทะเบียนกับ GACC สำหรับสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ข้าวหัก ข้าวโพด และกล้วย ซึ่งสินค้าเกษตรของเมียนมาที่มีข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล (G2G) นั้นมีส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งนี้บริษัทหรือวิสาหกิจที่จะทำการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวกับ น้ำมันเพื่อการบริโภค เมล็ดพืชน้ำมัน ขนมยัดไส้ รังนกและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ธัญพืชและมอลต์ ผักสดและแห้ง ถั่วแห้ง พันธุ์พืช ถั่วและเมล็ดพืช ผลไม้แห้ง กาแฟที่ยังไม่ได้คั่วและเมล็ดโกโก้ อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และอาหารสัตว์ จำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาตจาก GACC เพื่อวางขายสินค้าในตลาดจีน

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/over-600-local-companies-eye-registering-with-gacc-to-export-agri-products/#article-title

กรมส่งเสริมการค้าเซี่ยงไฮ้ ตกลงร่วมมือทางเศรษฐกิจกับ สปป.ลาว

กรมส่งเสริมการค้า ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ร่วมกับทางการเซี่ยงไฮ้ของจีนเกี่ยวกับความร่วมมือทางการค้าและทางเศรษฐกิจ โดยข้อตกลงดังกล่าวได้ลงนามระหว่างงาน China International Import Expo ตั้งแต่ในช่วงวันที่ 5-11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งบันทึกความเข้าใจดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) โดยหวังว่าจะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงมีส่วนในการพัฒนาและการเปิดประเทศของจีน ผ่านโครงการ One Belt, One Road ในฐานะคู่ค้าสำคัญของจีน ซึ่ง สปป.ลาว เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ปัจจุบันได้มีการเปิดเส้นทางรถไฟสายใหม่ ส่งผลทำให้ สปป.ลาว เชื่อมต่อกับประเทศคู่ค้าในภูมิภาคได้กว้างมากขึ้น โดยเฉพาะกับจีนที่มีประชากรรวมกว่า 1.4 พันล้านคน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten218_Trade.php

ฮุนเซน หนุนนักลงทุนเวียดนาม เข้าลงทุนในกัมพูชา

นายกรัฐมนตรีฮุนเซนพร้อมสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนยังกัมพูชาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนชาวเวียดนาม ซึ่งทางการกัมพูชามีความพยายามเป็นอย่างมากในการพัฒนาภาคเกษตรกรรมให้มีความทันสมัย ร่วมกับการแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมเบาภายในประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีฮุนเซนได้กล่าวไว้ในระหว่างเยือนประเทศเวียดนามเพื่อเข้าร่วมประชุมการส่งเสริมการลงทุนและการค้ากัมพูชา-เวียดนาม ซึ่งมี Pham Minh Chinh นายกรัฐมนตรีเวียดนามเป็นประธานในการประชุม ด้านนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวเสริมว่าปัจจุบันกัมพูชามีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค รวมถึงมีกฎหมายส่งเสริมด้านการลงทุนฉบับใหม่ เพื่อเอื้อต่อการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ สอดคล้องกับข้อมูลของสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ถึงสถานการณ์ด้านการลงทุนภาคเอกชนในช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2022 มูลค่าการลงทุนรวมปรับตัวกลับมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501181265/pm-hun-sen-encourages-more-vietnamese-investors-to-invest-in-cambodia/

กัมพูชาหวังเปิดตลาดจีนด้วยมะพร้าวหอมพันธุ์ไทย

กัมพูชาเริ่มการเจรจากับจีนเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตร 7 รายการ โดยหนึ่งในนั้นมีมะพร้าวหอมรวมอยู่ด้วย ในขณะที่กัมพูชาได้เร่งสนับสนุนการปรับปรุงพันธุ์เพื่อส่งเสริมการส่งออกมะพร้าวในอนาคตไปยังประเทศจีน ซึ่งในบรรดาพันธุ์ต่างๆ มะพร้าวหอมของไทยค่อนข้างเป็นที่นิยมในตลาดและปัจจุบันมีการเพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายในกัมพูชา ส่งผลทำให้ทางการกัมพูชาคาดว่าจะใช้มะพร้าวหอมพันธุ์ไทยเป็นสินค้าเกษตรชนิดแรกๆ ในการเปิดตลาดจีน โดยลักษณะของมะพร้าวหอมไทยจะมีขนาดเล็กกว่ามะพร้าวทั่วไป และยังมีรสชาติที่เข้มข้น รสชาติหวานปานกลางและมักจะมีราคาแพงกว่ามะพร้าวทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามผลผลิตมะพร้าวของกัมพูชาในแต่ละปีมีเป็นจำนวนมาก รวมถึงยังมีความหลากหลายในส่วนของชนิดพันธุ์ ส่งผลทำให้ราคาโดยภาพรวมจึงยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501181326/cambodia-hopes-to-open-the-chinese-market-with-the-thai-fragrant-coconut-2/

‘จุรินทร์’ เดินหน้าขยายความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าไทย-จีน ในโอกาสเจ้าภาพจัดประชุม APEC 2022

“จุรินทร์” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ชี้คำกล่าว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จากประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ครั้งที่ 20 ที่ผ่านมา โดยประกาศขยายความร่วมมือกับนานาประเทศ จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกหลังโควิด-19 คลี่คลาย ขณะที่ไทยได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพในดารจัดประชุม APEC 2022 พร้อมผนึกกำลังจีน เดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ การค้า และรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ จากนโยบายเปิดกว้างสู่ภายนอกของจีน โดยผลักดันความร่วมมือภายใต้โครงการ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” การเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับนานาประเทศตามรูปแบบการพัฒนาของจีน และส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง ทำให้ทั่วโลกได้ตระหนักว่าจีนมีขีดความสามารถและศักยภาพที่จะดำเนินความร่วมมือกับทั่วโลก เพื่อเพื่อเสริมสร้างประโยชน์ระหว่างกัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง

ที่มา : https://www.naewna.com/relation/691045

‘นายกฯ’ เตรียมเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนที่กัมพูชา 10-13 พ.ย.นี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเยือนกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 10-13 พฤศจิกายน 2565 โดยนายกรัฐมนตรีของไทยมุ่งมั่นที่จะผลักดันความร่วมมือใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ ความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางสาธารณสุข ความร่วมมือเพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความร่วมมือเพื่อพัฒนาดิจิทัลในภูมิภาค

ที่มา : https://www.thebangkokinsight.com/news/politics-general/politics/982961/

‘เวียดนาม’ ชงแผนสร้างทางรถไฟความเร็วสูง

กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) และกระทรวงคมนาคม ยื่นขอเสนอพิจารณาสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายเหนือและสายใต้กับทางรัฐบาลเพื่อรับทราบ รวมถึงชี้แจงความเป็นไปได้ของโครงการ รถไฟทางคู่จะอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ เนื่องจากทางรถไฟในปัจจุบันสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพียง 6% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด และ 1.4% ของปริมาณขนส่งสินค้า

ทั้งนี้ เมื่อก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว รถไฟความเร็วสูงดังกล่าวจะรองรับสินค้าได้จำนวนมากและยังช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในส่วนท้องถิ่นตามเส้นทางรถไฟและทั่วประเทศ โดยจะมีการจัดตั้งสถานีขนส่งผู้โดยสาร 50 แห่ง และสถานีขนส่งสินค้า 20 แห่งตลอดเส้นทาง

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-considers-high-speed-rail-line-2078259.html

‘ผู้ว่าแบงก์ชาติเวียดนาม’ เชื่อมั่นสภาพคล่องในระบบการเงินที่ดี

นาง เหงียน ถิ ห่ง (Nguyen Thi Hong) ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติเวียดนาม (SBV) กล่าวว่าสภาพคล่องของระบบสถาบันการเงินยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยังมีแนวโน้มที่จะจัดหาสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะในช่วงสิ้นปีจากความต้องการเงินทุนเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าในเดือนตุลาคม ตลาดได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางจิตวิทยาและความซับซ้อนทางเศรษฐกิจโลก ทำให้ธนาคารกลางเวียดนามจึงต้องเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับกับระบบสถาบันการเงิน และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางเวียดนามได้ประชุมฉุกเฉินกับสถาบันสินเชื่อ เพื่อหารือเกี่ยวกับสภาพคล่องของระบบธนาคาร โดยสถาบันสินเชื่อส่วนใหญ่เห็นด้วยกับสถานการณ์ในปัจจุบันและจำเป็นที่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อความปลอดภัยของทั้งระบบธนาคาร

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1352583/liquidity-of-whole-banking-system-remains-good-sbv-s-governor.html