กัมพูชา-จีน พร้อมกระชับความสัมพันธ์ผ่านโครงการ BRI

Wang Wentian เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา กล่าวว่า โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ได้เปิดฉากทัศน์ใหม่ สำหรับการสารสัมพันธ์ความเป็นมิตรภาพระหว่าง จีน-กัมพูชา ซึ่งก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาลแก่ทั้งสองฝ่าย ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเน้นไปที่การก้าวข้ามอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ ด้วยการเชื่อมโครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทางและการขนส่งระหว่างประเทศสมาชิค โดยคาดว่าจะดำเนินการภายใต้กรอบระยะเวลา 10 ปี ซึ่งกัมพูชาถือเป็นหนึ่งในผู้ได้รับการสนับสนุนกลุ่มแรกๆ สำหรับในช่วงเริ่มของโครงการ

ด้านเอกอัครราชทูตจีนยังได้กล่าวเสริมว่าความคิดริเริ่มดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คน และเพิ่มความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในด้านกำลังการผลิต การค้า การลงทุน การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน สะท้อนจากความสำเร็จของโครงการสำคัญต่างๆ อาทิเช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ ทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ เสียมราฐ สนามบินนานาชาติอังกอร์ สนามกีฬาแห่งชาติโมโรดอกเตโช และสถานีไฟฟ้าพลังน้ำเซซัน 2 ในตอนล่าง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501376482/bri-strengthens-china-cambodia-ties/

กัมพูชา พร้อมเปิดท่าอากาศยานนานาชาติ เสียมเรียบ-อังกอร์

สนามบินนานาชาติ เสียมเรียบ-อังกอร์ (SAI) พร้อมเปิดดำเนินการเที่ยวบินเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการในวันนี้ (16 ต.ค.) หลังผ่านการทดสอบในขั้นตอนที่จำเป็นต่างๆ โดยสนามบินนานาชาติ SAI มีสะพานเทียบเครื่องบิน 38 แห่ง และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 7 ล้านคนต่อปี หรือคิดเป็น 65,800 เที่ยวบินต่อปี ซึ่งคาดว่าในปี 2040 เป็นต้นไปจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 12 ล้านคนต่อปี หรือเพิ่มขึ้นเป็น 112,700 เที่ยวบินต่อปี

นอกจากนี้ สนามบินสามารถรองรับการขนส่งสินค้าทางอากาศได้ถึง 10,000 ตันต่อปี และจะเพิ่มขึ้นเป็น 26,000 ตันต่อปีหลังปี 2040 สำหรับการก่อสร้างสนามบินดังกล่าวเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2020 ด้วยเม็ดเงินลงทุนประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์ โดย Angkor International Airport Investment (Cambodia) Co., Ltd.

ขณะที่สำนักเลขาธิการการบินพลเรือนแห่งรัฐบาลกัมพูชา ได้รายงานถึงปริมาณผู้โดยสารทางอากาศในช่วง 8 เดือนแรกของปีที่มีกว่า 3.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 180 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักที่สำคัญ ในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยกระทรวงการท่องเที่ยวได้ระบุว่าในช่วงปี 2019 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 6.61 ล้าน สร้างรายได้เข้าประเทศถึง 4.92 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501376475/siem-reap-angkor-intl-airport-to-start-official-commercial-operation-today/

‘การค้าเวียดนาม-กัมพูชา’ ช่วง 9 เดือนแรกปี 66 มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

จากข้อมูลทางสถิติของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา เปิดเผยว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามและกัมพูชามีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 4.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3% การส่งออกของกัมพูชาไปยังเวียดนาม มีมูลค่า 2.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 30.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 2.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 11% ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของกัมพูชา รองจากจีนและสหรัฐฯ และยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดในอาเซียนและเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐฯ

นอกจากนี้ สำนักงานการค้าเวียดนาม ประจำประเทศกัมพูชา รายงานว่าโครงสร้างการส่งออกสินค้าเวียดนามไปยังกัมพูชามีความหลากหลาย เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความเชื่อมโยงทางอุตสาหกรรมและธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-cambodia-trade-hits-nearly-us5-billion-over-nine-months-post1052529.vov

กัมพูชา-ตุรกี ตั้งเป้าดันการค้าระหว่างประเทศแตะ 1 พันล้านดอลลาร์

HE SOK Chenda Sophea รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ร่วมกับ Ms. Ülkü Kocaefe เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกี ประกาศกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน โดยมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มูลค่าการค้าระหว่าง กัมพูชา-ตรุกี ให้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ ด้านรองนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลตุรกีที่ให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่กัมพูชา ผ่านหน่วยงานความร่วมมือและประสานงานตุรกี (TIKA) ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว และการศึกษา รวมทั้งสนับสนุนทุนการศึกษาและการฝึกอบรมสำหรับนักการทูตและนักศึกษากัมพูชาต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501376155/cambodia-turkiye-aim-for-two-way-trade-goal-of-1-billion/

สหรัฐฯ ขึ้นแท่นจุดหมายปลายทางการส่งออกสำคัญของกัมพูชา

สหรัฐฯ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางด้านการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา โดยคิดเป็นร้อยละ 40 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมสูงถึง 6.8 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 2.1 จากมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ของกัมพูชาลดลงร้อยละ 27.8 มาอยู่ที่มูลค่า 181 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา (GDCE) แม้ปัจจุบันกัมพูชาจะถูกถอนถอนสิทธิพิเศษ GSP ของทางสหรัฐฯ โดยสินค้าหลักของกัมพูชาที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้แก่ เครื่องแต่งกาย อุปกรณ์เสื้อผ้า เครื่องหนัง สินค้าสำหรับเดินทาง กระเป๋าถือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า และรองเท้า ในขณะที่การนำเข้าของกัมพูชาจากสหรัฐฯ ได้แก่ ยานพาหนะ เครื่องจักรและเครื่องใช้เครื่องจักรกล เครื่องมือทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ยา เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501375662/united-states-remains-cambodias-biggest-export-destination/

ราคาน้ำมันเบนซินในกัมพูชาลดลง 250 เรียลต่อลิตร

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา (MoC) ประกาศราคาน้ำมันเบนซินในช่วงสัปดาห์นี้ ลดลง 250 เรียลต่อลิตร อยู่ที่มูลค่า 4,300 เรียลต่อลิตร ขณะที่น้ำมันดีเซล ลดลง 200 เรียลต่อลิตร อยู่ที่ 4,650 เรียลต่อลิตร ซึ่งได้ประกาศราคาไว้สำหรับช่วงวันที่ 11-21 ตุลาคม 2023 ด้าน Pen Sovicheat โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า พลังงานเชื้อเพลิงโดยส่วนใหญ่ของกัมพูชานำเข้ามาจากสิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม สำหรับผู้ประกอบการค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในกัมพูชา ได้แก่ Tela Sokimex, Papa Savimex, Lim Long และบริษัทต่างชาติอื่นๆ ด้านผู้นำเข้าเชื้อเพลิงรายสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ Total, Caltex และ PTT โดยกระทรวงพาณิชย์จะประกาศราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในทุกๆ 10 วัน เพื่อให้ทันต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501374895/gasoline-prices-down-250-riel-per-litre/

มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาแตะ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วง 9 เดือน

กรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา (GDCE) รายงานถึงสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของกัมพูชา ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 35,160 ล้านดอลลาร์ สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศมูลค่ารวม 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่การนำเข้าลดลงร้อยละ 5.9 เหลือมูลค่า 1.82 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐฯ จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น จีน เยอรมนี แคนาดา และสหราชอาณาจักร สำหรับสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์รองเท้า เครื่องหนัง ธัญพืช เฟอร์นิเจอร์ ยาง ผลไม้ และสิ่งทอ ขณะในปี 2022 กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวม 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 และการนำเข้าสินค้ามูลค่า 2.99 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501374641/cambodias-international-trade-reaches-35-billion-in-nine-months/

กัมพูชาพร้อมดึงนักท่องเที่ยวจีนมายังประเทศมากขึ้น

Top Sopheak โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา รายงานว่าในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคมปีนี้ กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 364,844 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 611 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10.4 ของปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จำนวน 3.5 ล้านคน ที่ได้เดินทางมามายังกัมพูชา โดยทางการยังวางแผนที่จะดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนมายังกัมพูชามากขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างน้อย 600,000 คน ด้วยการส่งเสริมความสะดวกในการเดินทางอย่างการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ รวมถึงเดินทางมายังชายแดน ภายใต้ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งทางการกัมพูชายังพร้อมที่จะสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอันเนื่องมาจากสถานที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก สำหรับภาคการท่องเที่ยวในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิดกัมพูชาได้ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกว่า 6.61 ล้านคน ภายในปี 2019 สร้างรายได้เข้าประเทศรวมกว่า 4.92 พันล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501373964/cambodia-is-eager-to-invite-more-chinese-tourists/

กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรไปยังต่างประเทศมูลค่ารวมกว่า 3.2 ล้านดอลลาร์

ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรปริมาณรวมกว่า 5.5 ล้านตัน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง (MAFF) แต่ด้วยสถานการณ์การส่งออกโดยรวมที่ชะลอตัวลง ส่งผลทำให้ปริมาณการส่งออกสินค้าเกษตรลดลงร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับสินค้าส่งออกหลักของกัมพูชา ได้แก่ ข้าว กล้วย มะม่วง มันสำปะหลัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าวโพด น้ำมันปาล์ม พริกไทย และยาสูบ เป็นสำคัญ โดยเฉพาะการส่งออกข้าวสารที่มูลค่า 395 ล้านดอลลาร์ และข้าวเปลือกมูลค่ารวมกว่า 658 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรัฐบาลมีความพยายามเป็นอย่างมากในการขยายตลาดส่งออก สำหรับภาคเกษตรกรรมถือเป็นหนึ่งใน 4 เสาหลัก ที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจของกัมพูชาเกิดการเติบโต คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 24.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เมื่อเทียบกับปี 2021

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501373714/agri-product-exports-earn-3-2b/

“จีน” ยังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของกัมพูชา

นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายนปีนี้ สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนไปแล้ว 191 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ โดยจีนยังคงรักษาตำแหน่งผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในกัมพูชา สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ CDC อนุมัติโครงการลงทุนใหม่เพิ่มขึ้น 41 โครงการ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนับเป็นเม็ดเงินลงทุนของจีนในกัมพูชามากกว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76 ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด รองลงมาเป็นการลงทุนจากนักลงทุนในท้องถิ่นชาวกัมพูชาอยู่ที่สัดส่วนร้อยละ 12 โดยในเดือนกันยายน CDC อนุมัติโครงการใหม่ 27 โครงการด้วยเงินลงทุนรวม 1.6 พันล้านดอลลาร์ สร้างโอกาสในการจ้างานให้กับคนในท้องถิ่นมากกว่า 30,000 ตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่เน้นการลงทุนเกี่ยวกับระบบการขนส่ง การผลิตไฟฟ้า ผลิตเหล็ก และภาคส่วนอื่นๆ ด้านกัมพูชากำลังเร่งจัดทำกลยุทธ์เพื่อหวังดึงดูดนักลงทุนชาวจีนผ่านการเข้าร่วมโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ด้วยการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501373387/china-remains-largest-investor-in-cambodia/