ไทย-กัมพูชา ลงนาม MoU ปราบแก๊ง Call Center

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงไปรษณีย์ และโทรคมนาคมของกัมพูชา ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เกี่ยวกับความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญทางเทคนิค รวมถึงวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทั้งสองประเทศได้แต่งตั้งผู้ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานระหว่างกัน ไปจนถึงการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานในประเทศไทยและกัมพูชา เพื่อให้สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้อย่างทันท่วงที ประสานงานและอำนวยความสะดวกในกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาระหว่างไทยและกัมพูชาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมทั้งกฎหมายและกฎระเบียบภายในประเทศของผู้เข้าร่วมทั้ง 2 ฝ่าย ไปจนถึงมีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องของทั้งไทยและกัมพูชา และ ความร่วมมือทางด้านอื่นๆ ตามที่ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501107583/thai-cambodian-mou-on-suppression-of-cyber-scams-approved/

สงครามยูเครน-เงินเฟ้อพุ่ง กับดักการเติบโตทางเศรษฐกิจอาเซียน+3

สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคอาเซียน+3 (AMRO) องค์กรระหว่างประเทศที่ติดตามเศรษฐกิจของ 10 ประเทศสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ปรับลดคาดการณ์การเติบโตประจำปีของภูมิภาคลงเหลือ 4.3% จาก 4.7% ในเดือนเมษายน โดยการปรับลดล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัวในช่วงครึ่งแรกของปีในประเทศจีนและฮ่องกง สำหรับจีนซึ่งกำหนดมาตรการล็อกดาวน์จากโควิด-19 เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัส AMRO ลดการคาดการณ์การเติบโตเป็น 4.8% จาก 5.2% ขณะที่แนวโน้มของฮ่องกงลดลงเหลือ 1.1% จาก 2.8% ด้าน AMRO ยังเพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสำหรับภูมิภาคเป็น 5.2% เพิ่มขึ้น 1.7 จุดจากเดือนเมษายน สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อความขัดแย้งในยูเครนทำให้การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกแย่ลง และราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นบีบผู้บริโภคทั่วเอเชีย สำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียนเพียงอย่างเดียว AMRO ยังคงคาดการณ์การเติบโตโดยรวมไว้ที่ 5.1% ในปีนี้ โดยเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว อย่างในประเทศ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม คาดว่าจะทำงานได้ดีขึ้นในปีนี้ ในขณะที่มองไปในอนาคต AMRO คาดว่าการเติบโตของกลุ่มอาเซียน+3 จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.9% ในปี 2566 ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะลดลงเหลือ 2.8%

ที่มา : https://moneyandbanking.co.th/article/news/ukraine-war-inflation-economic-asean3-060765

พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อมิ.ย.พุ่ง 7.66% เหตุน้ำมันแพง ส่วนทั้งปีคาด 4-5%

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาอยู่ที่ 7.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 2.51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 2.28%

ทั้งนี้ สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 3/65 ยังมีแนวโน้มขยายตัวในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อปีนี้ ยังคงกรอบเดิมที่ 4-5% โดยมีค่ากลางที่ 4.5%

ที่มา : http://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=enNGZ3FBSW1BTlU9

“เวียดนาม-เม็กซิโก” ส่งเสริมความร่วมมือเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน

นายโด๋ถางไห่ (Do Thang Hai) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม นำคณะผู้แทนผู้ประกอบการชาวเวียดนาม 23 ราย เข้าร่วมการประชุมฟอรั่มธุรกิจไทย-เวียดนาม เมื่อวันที่ 4 ก.ค. วัตถุประสงค์เพื่อดำเนินความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี นาง Luz Maria de la Mora ปลัดกระทรวงเศรษฐกิจเม็กซิโก กล่าวว่าในมุมมองของเม็กซิโกถือว่าตลาดเวียดนามเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและหวังว่าทั้งสองประเทศจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ตลอดจนใช้ประโยชน์จากการเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ตามตัวเลขสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม ชี้ว่าในปี 2564 การค้าของทั้งสองประเทศ อยู่ที่ 5.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 37.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเวียดนามสนใจที่จะลงทุนในเม็กซิโก อาทิ อุตสาหกรรมพลังงาน โทรคมนาคม การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง เป็นต้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-mexico-promote-economic-trade-investment-cooperation/232181.vnp

ราคาน้ำมันปาล์มในเมียนมาปรับตัวสูงขึ้น

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2565 ราคาน้ำมันปาล์มนอกเขตเมืองย่างกุ้ง ลดฮวบเหลือ 6,300 จัตต่อ viss จากราคาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2565 ที่ 8,000 จัตต่อ viss เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศมีความผันผวนอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 9 ถึง 30 มิ.ย ราคาน้ำมันลดลงประมาณ 1,000 จัตต่อ viss เนืองจากความต้องการของจีนที่มีแนวโน้มลดลง และผลผลิตน้ำมันปาล์มของมาเลเซียที่ออกมาล้นตลาด ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ความต้องการในประเทศมีแนวโน้มมากขึ้น เนื่องจากเรือบรรทุกน้ำมันจะเข้ามาในไม่ช้า และส่งผลให้ราคาในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ราคาน้ำมันปาล์มจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้น

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/palm-oil-prices-on-the-rise/

CDC อนุมัติการลงทุนในกัมพูชามูลค่ารวมกว่า 3 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา (CDC) ออกหนังสือรับรองการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในจังหวัดกำปงสปือ ตามข้อเสนอการลงทุนสำหรับโครงการโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าของ HAO JIA LI (CAMBODIA) GARMENT CO., LTD. โดยโครงการนี้ใช้เงินลงทุนประมาณ 3.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นประมาณ 700 ตำแหน่ง ถือเป็นโครงการล่าสุดที่ได้รับการอนุมัติจากสภาฯ หลังจากอนุมัติโครงการลงทุนไปแล้ว 47 โครงการ มูลค่าเม็ดเงินลงทุนรวมกันประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานทางสถิติเศรษฐกิจและการเงิน ไตรมาสแรกของปี 2022 โดยมีการลงทุนด้านในภาคเกษตรมากกว่า 60 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 108 การลงทุนในภาคพลังงานแตะระดับ 389 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 607 การลงทุนในอุตสาหกรรมมีมูลค่ารวม 200 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 65 ในขณะที่การลงทุนภาคการท่องเที่ยวมีมูลค่ารวม 129 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501106853/cdc-approves-factory-investment-worth-over-3-million/

จีนให้คำมั่นกัมพูชา สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจต่อเนื่อง

Wang Yi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ให้คำมั่นต่อกัมพูชาในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ ผ่านการส่งออกและการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังจีนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 6-10 ทุกปี ในด้านการลงทุน Wang Wentian เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา กล่าวว่า การลงทุนโดยตรงของจีนในกัมพูชาในปัจจุบันสูงถึง 206 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรกของปีนี้ ขณะที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่าง จีน-กัมพูชา ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและจีนมีมูลค่าถึง 4,990 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลจากกรมศุลกากรและสรรพสามิต ในขณะที่กัมพูชาส่งออกไปยังจีนมูลค่ารวมอยู่ที่ 519.8 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับการนำเข้าจากจีนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.5 หรือคิดเป็นมูลค่า 4,470 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501106399/china-pledges-continuous-support-for-cambodias-economic-development/

“กัมพูชา-สปป.ลาว” หารือทวิภาคี กระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีกัมพูชา-สปป.ลาว (JCBC) ครั้งที่ 14 ว่าด้วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยมีนายปรัก สุคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา และ นายสะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสปป.ลาว เป็นประธานร่วม ทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะยืนหยัดเสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์ โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน การศึกษา การท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ตลอดจนประเด็นข้อกังวลต่างๆ

ที่มา : https://www.phnompenhpost.com/national-politics/cambodia-laos-renew-pledge-strengthen-bilateral-cooperation

มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในกัมพูชาเพิ่มขึ้นเป็น 970 ล้านดอลลาร์

มูลค่าตลาดของอีคอมเมิร์ซในกัมพูชาเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 19 หรือคิดเป็นมูลค่า 970 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามการรายงานของ iTrade Bulletin ของกระทรวงพาณิชย์ โดยมูลค่าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ หรือเกือบสองเท่าภายในปี 2025 ซึ่งรายได้ของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่มาจากสินค้าแฟชั่น 263 ล้านดอลลาร์, สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 254 ล้านดอลลาร์ ,สินค้าความงาม สุขภาพ 230 ล้านดอลลาร์ และ สินค้าอื่นๆ ได้แก่ อาหาร 57.19 ล้านดอลลาร์, เครื่องดื่ม 44.29 ล้านดอลลาร์, เฟอร์นิเจอร์ 46.29 ล้านดอลลาร์, ของเล่น 62.94 ล้านดอลลาร์ และสื่อ 11.19 ล้านดอลลาร์ โดยในรายงานระบุว่าประมาณร้อยละ 54.9 ของธุรกรรมอีคอมเมิร์ซดำเนินการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตบนเดสก์ท็อปพีซี ในขณะที่ส่วนที่เหลือใช้งานบนแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501105754/e-commerce-market-value-rises-19-to-970-million/

หอการค้าไทยผลักดันการค้าชายแดน รวมถึงกัมพูชา

รัฐบาลไทยเร่งกระตุ้นการค้าชายแดน และจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยหอการค้าไทยกล่าวถึงความเสี่ยงในตลาดโลก อาทิเช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ วิกฤตด้านพลังงาน และการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบทางการเกษตร ซึ่งทั้งหมดนี้ จะทำให้ต้นทุนการผลิตในภาคการผลิตและราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ด้าน สุรงค์ บูลกุล รองประธานสภาฯ กล่าวเสริมว่า รัฐบาลไทยได้เสนอให้เร่งเปิดด่านพรมแดนระหว่างไทยกับ มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา เพื่อเพิ่มการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกัน ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์การค้าชายแดนขยายตัวร้อยละ 5 ในปีนี้ หรือคิดเป็น 1.08 ล้านล้านบาท แต่ในช่วง 4 เดือนแรกของปี การค้าชายแดนของไทยหดตัวร้อยละ 0.04 เมื่อเทียบเป็นรายปี คิดเป็นมูลค่า 314,000 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการปิดด่านชายแดนที่สำคัญของจีนเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 ภายใต้นโยบาย Zero-Covid

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501106160/thai-chamber-pushes-border-trade-including-with-cambodia/