กัมพูชาทำลายสถิติส่งออกยางมูลค่าแตะ 77 ล้านดอลลาร์

ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2022 กัมพูชาส่งออกยางและไม้ยางพารามูลค่าสูงกว่า 77 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของกรมยางพารา ในด้านปริมาณการส่งออก ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2022 กัมพูชาส่งออกยาง 48,509 ตัน เพิ่มขึ้น 2,536 ตัน คิดเป็นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกไม้ยางพารามีปริมาณรวมอยู่ที่ 808 ลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 66 ซึ่งราคาขายยางเฉลี่ย ณ เดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ 1,585 ดอลลาร์ต่อตัน ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปี 2021 กัมพูชาทำรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางมากกว่า 611 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นปริมาณกว่า 366,300 ตัน และไม้ยางพารา 454 ลูกบาศก์เมตร

ที่มา :  https://www.khmertimeskh.com/501047046/cambodia-records-more-than-77-million-from-rubber-rubber-wood-exports/

คาด FTA-RCEP กระตุ้นการค้าและการลงทุนระหว่าง กัมพูชา-เกาหลี

คาดการณ์ข้อตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-เกาหลี (CKFTA) และความตกลงการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะส่งเสริมภาคการค้าและการลงทุนระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้ ด้านนายกรัฐมนตรีฮุนเซนกล่าวว่าการส่งออกสินค้าของกัมพูชาไปยังเกาหลีใต้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 33 ในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ โดยคาดว่ามูลค่าการค้าทวิภาคีจะเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ในแง่ของการลงทุน ปัจจุบันมีบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้มากกว่า 300 แห่ง ในกัมพูชา ซึ่งกระจายอยู่ในภาคส่วนต่างๆ เช่น เครื่องนุ่งห่ม การก่อสร้าง เกษตรกรรม และการเงิน โดยการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเกาหลีใต้มีมูลค่าสูงถึง 965 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกัมพูชาส่งออกรองเท้าและเครื่องแต่งกาย รวมถึงสินค้าเพื่อการเดินทาง เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยาง ยา และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเป็นหลักไปยังประเทศเกาหลี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501046838/bilateral-fta-rcep-to-boost-cambodia-korea-trade-and-investment/

“สายการบินแห่งชาติเวียดนาม” ระงับเที่ยวบินปกติไปรัสเซีย

สายการบินเวียดนามประกาศว่าจะระงับเที่ยวบินปกติในเส้นทางจากกรุงฮานอย-มอสโก ประเทศรัสเซีย (25 มี.ค.) เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น โดยผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วในเที่ยวบินดังกล่าวแล้วนั้น สายการบินจะดำเนินคืนเงินหรือเปลี่ยนตั๋วไปเที่ยวบินอื่น ทั้งนี้ ผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวมีจำนวนมาก เนื่องจากมีความต้องการที่จะเดินทางกลับไปยังรัสเซีย ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทท่องเที่ยวของเวียดนามได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่ขนส่งนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียไปยังเวียดนาม เนื่องจากรัฐบาลรัสเซียแนะให้บริษัทสายการบินคุมเข็มจำกัดเที่ยวบินไปยังประเทศอื่น หลังจากที่สหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-airlines-suspends-regular-flights-to-russia/

‘ยุทธศาสตร์การเงินเวียดนาม’ มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

แผนยุทธศาสตร์ทางการเงินของเวียดนาม พ.ศ. 2564-2573 มีเป้าหมายเพื่อมุ่งเน้นการสร้างความเสถียรภาพทางการเงิน และเป้าหมายสำคัญคือ การสร้างความเข็มแข็งทางเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงได้ตั้งการระดมเงินเข้างบประมาณแผ่นดินในช่วงปี 2569-2573 เฉลี่ย 16-17% ของ GDP ซึ่งเม็ดเงินส่วนใหญ่ราว 85-87% มาจากรายได้ในประเทศ โดยข้อกำหนดของนายกรัฐมนตรีฉบับที่ 368/QD-TTg เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ได้ให้ความสำคัญกับงบประมาณแผ่นดินเป็นอันดับแรก ได้แก่ การปฏิรูปงบประมาณ การกระจายอำนาจมากขึ้นให้กับปกครองส่วนท้องถิ่นและความโปร่งใส รวมถึงการพัฒนาความยั่งยืนของตลาดเงิน นอกจากนี้ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะจำกัดเพดานหนี้ไว้ที่ 60% ของ GDP โดยหนี้ภาครัฐจะไม่เกิน 50% และหนี้ต่างประเทศไม่เกิน 50% ในช่วงปี 2564-2568 ในขณะที่มูลค่าของตลาดหลักทรัพย์ในปี 2568 จะสูงถึง 100% ของ GDP โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเป็น 120% ของ GDP ภายในสิ้นปี 2573

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-financial-strategy-aims-at-sustainable-development/223929.vnp

ราคาน้ำมันปาล์มเมียนมาลดฮวบ 7,000 จัตต่อ viss ผลจากราคานำเข้าดิ่งลง

สมาคมผู้ค้าน้ำมันพืชเมียนมา เผย ราคาน้ำมันปาล์มนำเข้าที่ลดลงทำให้ราคาในตลาดภายในประเทศปรับตัวลดลง ปัจจุบันราคานำเข้าอยู่ที่ 1,792 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ส่วนราคาขายในประเทศจะอยู่ที่ 7,000 จัตต่อ viss (viss เท่ากับ 1.6 กิโลกรัม) ซึ่งในช่วงต้นเดือนมี.ค. 2565 ราคานำเข้ายังอยู่ที่ 1,881 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน หนุนให้ราคาขายดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 8,000 จัตต่อ viss ซึ่งการบริโภคน้ำมันพืชในประเทศของเมียนมาอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี ส่วนการผลิตน้ำมันประกอบอาหารในท้องถิ่นมีประมาณ 400,000 ตัน และเพื่อความพอเพียงในประเทศ เมียนมาจึงต้องนำเข้าน้ำมันปรุงอาหารอีกประมาณ 700,000 ตันต่อปี

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/e-paper/

EDL จับมือ Huawei ศึกษาพลังงานแสงอาทิตย์

Electricite Du Laos (EDL) และ Huawei Technologies (Lao) Sole Co., Ltd. ได้ตกลงที่จะร่วมกันดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของพลังงานแสงอาทิตย์ บันทึกความเข้าใจ (MOU) ครอบคลุมความร่วมมือระหว่าง EDL และ Huawei สปป.ลาวในหัวข้อกว้าง ๆ ในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงมาตรฐานพลังงานแสงอาทิตย์แบบออนกริด มาตรฐานอินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์ การวิจัยตลาดร่วมกันสำหรับพลังงานหมุนเวียนในสปป.ลาว และการฝึกอบรมเกี่ยวกับโซลาร์ฟาร์มและการติดตั้งบนชั้นดาดฟ้า การเชื่อมต่อพลังงานแสงอาทิตย์กับกริดจะช่วยลดการสูญเสียของระบบและปรับปรุงแรงดันไฟฟ้าตกได้  ในขณะที่การทำงานร่วมกันเกี่ยวกับผลกระทบของการเชื่อมต่อพลังงานแสงอาทิตย์กับระบบไฟฟ้าและมาตรฐานของ On-Grid Solar และ Inverter จะปรับปรุงความเสถียรของระบบไฟฟ้าของเรา

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_EDL_58.php

เวียดนาม เล็งขยายเส้นทางเดินเรือไปยังกัมพูชาและไทย

ผู้ประกอบการเวียดนามร้องขอให้รัฐบาลช่วยขยายเส้นทางเดินเรือขนส่งระหว่างเกาะฟูโกว๊กของประเทศเวียดนาม ไปยังชายฝั่งประเทศกัมพูชาและไทย ซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงด้านความร่วมมือช่องทางการเดินเรือชายฝั่งทะเล ระหว่างเวียดนาม กัมพูชา และไทย ที่เคยมีการตกลงกันก่อนหน้านี้ ในปี 2014 โดยความร่วมมือด้านการขนส่งทางชายฝั่งคาดว่าจะเพิ่มโอกาสมากขึ้นสำหรับเรือบรรทุกสินค้าขนาดกลางและขนาดเล็กในเส้นทางระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มการลงทุนในสามประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501046123/vietnam-seeks-shipping-navigation-route-expansion-with-cambodia-thailand/

กัมพูชาสนับสนุนการก่อสร้างท่าเทียบเรือและห้องเย็น สำหรับกิจกรรมทางการค้า

กระทรวงโยธาธิการและการขนส่งกัมพูชา สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าและห้องเย็นในบริเวณท่าเทียบเรือใกล้กับท่าเรือพนมเปญในจังหวัดกันดาล ซึ่งคาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการค้าระหว่างประเทศ ในส่วนของการก่อสร้างห้องเย็นจะทำการลงทุนโดย บริษัท InfraCo Asia ผ่านบริษัท Khmer Cold Chain Company โดยห้องเย็นแห่งนี้จะมีพื้นที่ให้บริการมากกว่า 36,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น และเพื่อตอบสนองต่อผู้ประกอบการในท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าโครงการลงทุนดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายแก่นักลงทุน ผู้ค้า นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไป ที่ต้องการใช้บริการของบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกและนำเข้าสินค้าต่อไป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501045913/cross-docking-and-cold-storage-facility-to-serve-export-import-activities/

จุรินทร์ รวมพลหามาตรการดูแลผลไม้ปี’65 รุกส่งออกดันให้โต 15%

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้ามาตรการแก้ไขปัญหาผลไม้ปี 2565 และการแก้ไขปัญหาการส่งออกผลไม้ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ว่าจากการประเมินผลผลิตผลไม้ทั่วประเทศปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 13% หรือมีปริมาณ 5.4 ล้านตัน โดยได้กำหนดมาตรการเชิงรุกในการผลักดันการส่งออกและดูแลผลไม้มี 17+1 ดูแลผลผลิตผลไม้และมีการเตรียมตลาดรองรับไว้แล้ว 450,000 ตัน ส่วนที่เหลือจะเป็นไปตามกลไกตลาด ที่เกษตรกรผลิตผลไม้ที่ได้คุณภาพ ล้งรับซื้อตามมาตรฐานและราคาที่เป็นธรรม ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกดำเนินการเตรียมการส่งออกต่อไป สำหรับผลไม้ไทย ตลาดใหญ่คือประเทศจีน ตลาดจีนส่งออกปี 2564 มีมูลค่า 163,000 ล้านบาท ปริมาณ 2,200,000 ตัน ซึ่งการส่งออกไปจีนทำได้ 3 เส้นทางหลักมีสัดส่วน คือ ทางเรือ 51% ทางบก 48% และทางอากาศ 0.54% ขณะที่เป้าหมายการส่งออกผลไม้ในปี 2565 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ 15% โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 287,500 ล้านบาท

ที่มา : https://www.prachachat.net/economy/news-893317

ต้นทุนขนส่งจุดเปลี่ยนส่งออก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่าจะยังสามารถขยายตัวได้ โดยตั้งเป้าหมายการส่งออกขยายตัว 4% เนื่องจากมองเห็นปัจจัย การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจึงต้องกำหนดตัวเลขด้วยความระมัดระวัง แต่ล่าสุดปัจจัยสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน จะเป็นปัจจัยหลักกดดันการส่งออกของประเทศ เพราะถึงแม้ว่าการส่งออกโดยตรงระหว่างไทยรัสเซียและยูเครนจะมีตัวเลขไม่มากนัก แต่ผลกระทบทางอ้อมต้องยอมรับว่าหนัก ปิดท่าเรือสำคัญ 2 แห่ง การขนถ่ายสินค้าล่าช้า ราคาน้ำมัน,ค่าระวางเรือพุ่งขึ้นไม่หยุด

ที่มา : https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_310036/