‘เวียดนาม’ มองสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. การประชุม Business Summit สหรัฐฯ-เวียดนาม ครั้งที่ 5 นาย ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามถือว่าสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดเสมอมา รวมถึงร้องขอให้ภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศทำการกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี ทั้งนี้ ตามตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ พบว่ามูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐฯ อยู่ที่ 111 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 โดยสหรัฐฯ เป็นผู้ซื้อสินค้าจากเวียดนามรายใหญ่ที่สุด ในขณะที่เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 9 ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังเป็นหนึ่งในนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยจำนวนโครงการในปัจจุบัน 1,150 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 10.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-always-regards-u-s-as-leading-partner/

เกษตรกรตำบลโหโป๊ง ปลื้ม! ราคากล้วยไม้ดินพุ่ง

เกษตรกรจากหมู่บ้านนองสน ตำบลโหโป๊ง เขตปกครองตนเองปะโอ ของรัฐฉาน (ใต้) ประสบผลสำเร็จจากการปลูกกล้วยไม้ดิน ซึ่งแต่ก่อนปลูกตามวิธีธรรมชาติ แต่ต่อมาได้เริ่มเรียนรู้จากการปลูกบนแปลงทดลองจนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยกล้วยไม้ดินจะใช้เวลาปลูกและออกดอกผลิบานได้ภายในหนึ่งปี ซึ่งกล้วยไม้ดินเป็นพืชที่ระบายน้ำได้ดีและชอบอากาศที่เปียกชื้น ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวเกี่ยหรือตัดขายจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,000 จัตต่อต้น แต่เมื่อได้รับออเดอร์จากเมื่องอื่นๆ  ราคาจะพุ่งไปถึง 1,500 จัตต่อต้น ทั้งนี้แหล่งเพาะปลูกสำคัญจะมาจาก หมู่บ้านนองสน ตำบลโฮปง และจะส่งออกไปขายยังส่งงตลาดโฮปง ตลาดน้ำโกด และตลาดบ้านยินในรัฐฉาน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/growing-of-ground-orchid-in-hopong-township-succeeds/

รัฐบาล สปป.ลาว ตั้งเป้าเกินดุลการค้า

รัฐบาลตั้งเป้าที่จะเกินดุลการค้าอย่างน้อย 1.55 พันล้านดอลลาร์ฯ ในปีนี้ แม้จะมีปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 รัฐบาลสปป.ลาวคาดว่ามูลค่าการส่งออกจะสูงถึง 7.6 พันล้านดอลลาร์ฯ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าคาดว่าจะอยู่ที่ 6.05 พันล้านดอลลาร์ฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ รัฐบาลได้ให้คำมั่นที่จะส่งเสริมการผลิตทางการเกษตรและการแปรรูปสินค้าเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะไปยังจีน ซึ่งขณะนี้สามารถเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้นผ่านทางรถไฟลาว-จีน รัฐบาลจะเน้นไปที่การเพิ่มการผลิตในจังหวัดทางภาคเหนือที่ทางรถไฟและทางด่วนผ่าน โดยการเพิ่มผลผลิตพืชผลและการเลี้ยงโคเพื่อส่งออกไปยังจีน ความท้าทายหลักประการหนึ่งคือราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในตลาดโลก ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อดัชนีราคาผู้บริโภค เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งสูงขึ้น

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govtsets48.php

NBC ผลักดันการใช้เงินสกุลเรียลภายในกัมพูชา

Dr Chea Serey รองผู้ว่าการและผู้อำนวยการด้านเทคนิคของธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) กล่าวว่าปัจจุบันกำลังพยายามส่งเสริมการใช้สกุลเงินเรียล ซึ่งเป็นสกุลเงินของประเทศกัมพูชา เพื่อให้สามารถใช้เงินเรียลได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่าหากในอนาคตสกุลเงินเรียลถูกใช้กันมากขึ้นในการทำธุรกรรม จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวมของกัมพูชาในระยะยาว ซึ่งถือเป็นการช่วยลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์ที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายภายในประเทศกัมพูชา รวมถึงในแง่ของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นจากการใช้สกุลเงินท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้น

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501038340/use-riel-more-to-promote-national-currency-says-nbc-deputy-governor/

การค้าระหว่าง กัมพูชา-ญี่ปุ่น แตะ 180 ล้านดอลลาร์ ในเดือน ม.ค.

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 คิดเป็นมูลค่า 181 ล้านดอลลาร์ ในเดือนมกราคมปีนี้ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน รายงานโดยองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 142 ล้านดอลลาร์ ไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ในทางกลับกันกัมพูชานำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นมูลค่ารวม 39 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 โดยสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาที่ส่งออกไปยังญี่ปุ่น ได้แก่ เสื้อผ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกัมพูชานำเข้า เครื่องจักร สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ไฮเทคเป็นสินค้านำเข้าหลัก โดยในปีที่แล้ว ปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชาและญี่ปุ่นอยู่ที่ 2,332 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นกัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่า 1,752 ล้านดอลลาร์ไปยังญี่ปุ่นในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 8.4 เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501038181/cam bodia-japan-trade-tops-180-million-in-january/

จับตาน้ำมันพ่นพิษถล่ม “อีอีซี”

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ถึงกรณีการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนภายในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยโครงการลงทุนต่างๆ ที่ได้ทำเอาไว้เดิมก็ยังคงเดินต่อ ยังไม่มีนักลงทุนถอนการลงทุน และการลงทุนเทคโนโลยีทั้ง 5G หรือรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังเดินตามแผนอยู่ แต่ถ้าราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นมาจนกระทบกับเศรษฐกิจโลก ตอนนั้นก็คงเป็นผลที่จะเกิดขึ้นกับอีอีซี อาจต้องรอประเมินสถานการณ์ 1 เดือน ในเบื้องต้นยังคงเป้าหมายการลงทุนในอีอีซีไว้เหมือนเดิมคือเฉลี่ยปีละ 400,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ สกพอ.ร่วมกับกองทัพเรือ, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ จัดงานแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย (Thailand International Air Show) ที่สนามบินอู่ตะเภา โดยจะเปิดตัวอย่างในปี 2568 สอดคล้องกับระยะเวลาเปิดบริการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา คาดว่ามีผู้ร่วมงาน 5,425 คน และการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบในปี 2570 จะมีผู้เข้าร่วมงาน 36,300 คน มีผู้เข้าแสดงงาน 1,240 ราย และมีการจัดงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งงานใหม่และงานที่จัดต่อเนื่อง ในปี 2566-2570 จำนวน 28 งานในอีอีซี ซึ่งเมื่อรวมมูลค่าทางเศรษฐกิจของงาน Thailand International Air Show ทั้งหมด สามารถสร้างรายได้รวมให้แก่ประเทศ 8,200 ล้านบาท

ที่มา : https://www.thairath.co.th/business/oil/2337446

ทำไมเวียดนาม มีผู้หญิงเก่งจำนวนมาก | สัดส่วนผู้บริหารหญิง แซงหน้าไทยไปแล้ว

ข้อมูลจาก “CS Gender 300”  รายงานของ Credit Suisse ทำการสำรวจประเด็นเพศสภาพของผู้บริหารทั่วโลก เพื่อศึกษาดูว่า ในโลกธุรกิจมีความหลากหลายทางเพศ และได้สะท้อนภาพทางสังคม รวมถึงส่งผลต่อการดำเนินงานทางธุรกิจอย่างไร ในงานวิจัยพบว่าเวียดนามแซงไทยไปแล้วในทุกด้าน ทั้งตำแหน่งประธานบริหารสูงสุดหรือซีอีโอ (CEO), ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดด้านการเงินหรือซีเอฟโอ (CFO) และตำแหน่งผู้บริหารทั่วไป (Business Management)

ทั้งนี้ ดร.พิสิฐ อำนวยเงินตรา ผู้เชี่ยวชาญด้านเวียดนามศึกษา กล่าวว่าสังคมเวียดนามเชื่อมั่นว่าผู้หญิงทำมาค้าขายเก่งกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะเรื่องการเงิน และทุกวันนี้ มีกระแสสังคมในเวียดนาม ที่ต้องการผลักดันให้สัดส่วนของผู้หญิงมีมากขึ้นในทุกองค์กร ในทุกส่วนของสังคม ตลอดจนวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับผู้หญิงอย่างมาก บ่งชี้ได้จากมีวันสตรีสากลที่ทำการเฉลิมเฉลิงอย่างยิ่งใหญ่และซึมงึกข้าไปในวัฒนธรรม คนเวียดนามจะซื้อดอกไม้ไปให้เพื่อนร่วมงานหญิง เพื่อแสดงความชื่นชมยินดี

ที่มา : https://workpointtoday.com/women-vietnam-ceo/

อ้างอิง – Credit Suisse, BBC, Bloomberg, WorldBank, งานวิจัยผู้หญิงในเวียดนาม, VNexpress, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

‘การรถไฟเวียดนาม’ ปักหมุดก้าวหน้าปี 65

การรถไฟเวียดนาม (VRN) ชี้เริ่มต้นปีมีสัญญาเขิงบวกหลายประการ เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่อย่างไรก็ดีการแพร่ระบาดเชื้อโรคยังคงทำให้ผู้คนวิตกกังวล ทั้งนี้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การรถไฟปรับลดราคา 40% สำหรับตั๋วรถไฟ 1 ท่านต่อ 1 คนในกรณีที่เดินทางไกล รวมถึงจองตู้โดยสารทั้งหมดหรืออาหารฟรีบนรถไฟ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริม การรถไฟฯ เร่งปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายและระงับเส้นทางที่มีผู้โดยสารน้อย ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้เปิดตัวการให้บริการตัวใหม่ เพื่อดึงดูดผู้โดยสารที่มีความต้องการทางด้านการท่องเที่ยวในระดับสูงและการขนส่งสินค้าทางไกล โดยการขนส่งสินค้าทางรถไฟครั้งแรกจากรุงดานังไปยังยุโรป จะเริ่มต้นในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ ตามตัวเลขสถิติของการรถไฟฯ ชี้ให้เห็นว่าในช่วง 4 เดือนนับตั้งแต่มีการเปิดตัวเมื่อเดือนก.ค.ในปีที่แล้ว การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด มีจำนวน 644 ตู้ ขนาด 40 ฟุตผ่านรถไฟ 28 ขบวนไปยังยุโรป หรือเฉลี่ย 3 รถไฟต่อสัปดาห์

ที่มา : https://hanoitimes.vn/vietnam-railway-set-for-breakthroughs-in-2022-320164.html

‘ADB’ ชี้ 3 ทางเลือกที่ยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการหญิงในเวียดนาม

นายโดนัลด์ แลมเบิร์ต ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาธุรกิจภาคเอกชนของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้เปิดเผย 3 ทางเลือกให้กับคณะกรรมการธนาคารเกี่ยวกับการส่งเสริมผู้ประกอบการหญิงในเวียดนาม ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของนั้นกลายมาเป็นตัวเร่งให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเวียดนามมีผู้หญิงเป็นเจ้าของธุรกิจกว่า 24% อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน ผู้ประกอบการ SMEs ที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของธุรกิจต้องเผชิญกับอุปสรรคทางการเงิน ถึงแม้ว่าผลการดำเนินงานจะคล้ายกับผู้ชายที่เป็นเจ้าของธุรกิจและมีโอกาสต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการชายที่ต้องการกู้เงินจากธนาคาร ข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงปัญหาสำหรับผู้ประกอบการหญิงเท่านั้น แต่สิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นปัญหาในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญของธนาคาร ADB ได้เสนอทางเลือก 3 ด้านในการส่งเสริมผู้ประกอบการหญิงในเวียดนาม ได้แก่ 1) กลยุทธ์ เจ้าหน้าที่ธนาคารต้องทำความเข้าใจถึงความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ประกอบการหญิง 2) กลยุทธ์ขององค์กรว่ามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ 3) ข้อมูลพื้นฐานของผลิตภัณฑ์ โครงสร้างลูกค้า ฯลฯ

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/adb-specialist-proposes-ways-to-empower-women-owned-firms-in-vietnam-post928967.vov

รัฐบาลตั้งเป้า GDP เติบโตอย่างน้อยร้อยละ 4

รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีอย่างน้อย 4% นับจากนี้จนถึงปี 2025 แม้ว่าจะไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจะควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เมื่อใด ภาครัฐตั้งเป้าภาคการเกษตรคาดว่าจะเติบโตที่อัตราเฉลี่ย 2.5 % ต่อปี คิดเป็น 15.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภายในปี 2568 ด้านอุตสาหกรรมคาดว่าจะเติบโตในอัตราร้อยละ 4.1 ต่อปี และจะประกอบด้วยร้อยละ 32.3 ของ GDP ภายในปี 2568 ในขณะที่ภาคบริการคาดว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 6 คิดเป็นร้อยละ 40.7 ของ GDP ใน อีก 3-4 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ภาคภาษีและภาษีคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 5.8 และควรคิดเป็นร้อยละ 11.7 ของ GDP ภายในปี 2568 รัฐบาลเชื่อว่ารายได้ GDP ต่อหัวต่อปีจะสูงถึง 2,880 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2568 ทั้งนี้สปป.ลาวสามารถบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจได้หากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่มีความคืบหน้าตามแผนที่วางไว้ โครงการเหล่านี้รวมถึงเมืองอัจฉริยะ ทางด่วน เขตเศรษฐกิจพิเศษ ไฟฟ้าพลังน้ำ เหมืองแร่ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรูปแบบอื่นๆ ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของ GDP ได้อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งก็คือความสามารถของรัฐบาลในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Govtaims_47_22.php