กัมพูชารายงานถึงโครงการลงทุนมูลค่ารวม 1.716 พันล้านดอลลาร์

หลังจากทางการกัมพูชากำหนดกฎหมายด้านการลงทุนฉบับใหม่ ซึ่งถือเป็นสิ่งจูงใจสำคัญอย่างนึงให้กับนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนยังกัมพูชา รวมถึงปัจจุบันกัมพูชาได้เข้าร่วมกลุ่ม RCEP และได้ทำการลงนามข้อตกลงการค้า FTA ร่วมกับจีน ตลอดจนได้รับสิทธิพิเศษ EBA จากสหภาพยุโรป และ GSP จากสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่จะดึงดูดการลงทุนใหม่จากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น โดยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา พบว่าปัจจุบันมีโครงการลงทุนนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้งหมด 107 โครงการ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2021 ลดลง 34 โครงการเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการลงทุนทั้งหมดมีมูลค่า 1.716 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 72.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างงานใหม่ให้กับคนในประเทศประมาณ 89,000 ตำแหน่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501004396/investment-projects-worth-1-716-billion-registered-in-january-november/

การมาถึงของนักเรียนเกาหลี ส่งสัญญาณการกลับมาของการท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวและสมาชิกขององค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เริ่มเดินทางถึงสปป.ลาวแล้วหลังจากที่รัฐบาลได้เปิดประเทศให้ชาวต่างชาติในเดือนนี้ โดยกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงในวันจันทร์นี้คือกลุ่มนี้มีนักเรียน 17 คนและครู 6 คนจากโรงเรียนมัธยมอิโปในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี มีนายคิม แดซอง ตัวแทนของโรงเรียนมัธยมปลายฟ้าสีคัม อำเภอนาไซทอง เวียงจันทน์ ให้การต้อนรับคณะซึ่งจัดการมีเดินทางในเวียงจันทน์โดย Family Tour Co., Ltd. ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม ถึง 20 กุมภาพันธ์  นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ของการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งของสปป.ลาว เจ้าหน้าที่จากองค์กรรถโดยสารเวียงจันทน์กำลังให้บริการสำหรับผู้มาเยือนที่เดินทางไปยังสถานที่กักกัน ทั่วประเทศ ประชาชนในท้องถิ่นกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของนักท่องเที่ยว ซึ่งในขั้นต้นการทัศนศึกษาจะจำกัดอยู่ที่เวียงจันทน์ หลวงพระบาง และอำเภอวังเวียงในแขวงเวียงจันทน์ ทั้งสามสถานที่นี้ถูกกำหนดให้เป็นโซนท่องเที่ยวสีเขียว และจะเปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึงวันที่ 30 มีนาคม ภายใต้โครงการเริ่มต้นการท่องเที่ยวแบบสามขั้นตอนแรกในเฟสแรก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Arrival_6.php

ภาคการท่องเที่ยวกัมพูชาเติบโตต่อเนื่อง แม้มีการแพร่ระบาดของ Omicron

รมว.ท่องเที่ยวกัมพูชา เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.-9 ม.ค. มีนักท่องเที่ยวเกือบ 460,000 คน เดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยคิดเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาจำนวน 443,378 คน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12,956 คน เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสถานที่ที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในประเทศ ได้แก่ จังหวัดพนมเปญ มีนักท่องเที่ยวมาเยือน 85,458 คน รองลงมาจังหวัดพระสีหนุจำนวน 70,648 คน เสียมราฐ จำนวน 50,455 คน โพธิสัตว์ 44,291 คน พระตะบอง 35,952 คน และจังหวัดกำปอต มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจำนวน 32,042 คน จากตัวเลขข้างต้นคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 185.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะมีรายงานถึงการแพร่เชื้อของเชื้อไวรัส Omicron ในกัมพูชาเป็นรายแรกในประเทศแล้วก็ตาม โดยปัจจุบันทางการกัมพูชายังไม่มีการประกาศล็อกดาวน์ และธุรกิจต่างๆ

ที่มา: https://www.khmertimeskh.com/501004082/tourism-sector-growth-steamrolls-unhindered-by-omicron/

กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่าแตะ 8 พันล้านดอลลาร์

ตัวเลขการค้าที่รายงานโดยสำนักสำรวจสำมะโนของสหรัฐฯ ซึ่งออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่ากัมพูชานำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย. 2021 มูลค่ารวม 378.1 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่ารวมกว่า 8,018.2 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 32.7 ส่งผลให้กัมพูชาเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ที่ 7,640 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3 ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนเพียงเดือนเดียวกัมพูชาการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ มีมูลค่ารวม 794.2 ล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 24.2 เมื่อเทียบกับการส่งออกในเดือนตุลาคม ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่ารวมอยู่ที่ 31.5 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกของกัมพูชาไปยังสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้า รวมถึงสินค้า เช่น รองเท้า จักรยาน และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกส่งออกภายใต้ GSP ในทางกลับกันกัมพูชานำเข้ารถยนต์ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ จากสหรัฐฯ เป็นสำคัญ

ที่มา:https://www.khmertimeskh.com/501003607/cambodias-exports-to-us-nets-8-billion-in-january-november/

รถโมบายขายสินค้าราคาถูก ช่วย ชาวเมียนมา ช่วงโควิด-19 ระบาด

สมาพันธ์การค้าและอุตสาหกรรมแห่งเมียนมา (UMFCCI) เผย รถโมบายขายสินค้าสำหรับตลาดเคลื่อนที่ราคาได้กลับมาให้บริการอีกครั้ง ในวันที่ 7 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ในห้าเขต อาทิ ดาลา เซอิคยี คะนองโต ทวันไต ไคเมียนดีน และคามายุต เพื่อลดความแออัดในการไปซื้อสินค้าที่ตลาดในช่วงการระบาดของ COVID-19 และลดค่าครองชีพของชาวเมียนมา โดยผู้บริโภคสามารถซื้อข้าวสารได้ในราคา 1,000 จัต (สำหรับข้าวคุณภาพต่ำ) และ 1,700 จัต (สำหรับพันธุ์ ปาว ซาน) และน้ำมันพืชอยู่ที่ 1,850 จัตต่อขวด เป็นต้น แผนการตลาดเคลื่อนจะดำเนินการที่ไปสี่เขตของย่างกุ้ง โดยจะอัปเดตการขายรายวันผ่านเพจ Facebook และแผ่นป้ายไวนิลในเขตเมืองย่างกุ้งเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/mobile-market-trucks-offer-food-at-fair-prices/#article-title

‘ข้าวเวียดนาม’ ได้รับความนิยมพุ่งในตลาดยุโรป

กรมศุลกากรเวียดนาม รายงานทางสถิติพบว่าในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามส่งออกข้าว จำนวน 53,910 ตัน เป็นมูลค่า 38.07 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.8% ในแง่ของปริมาณ และ 21.6% ในแง่ของมูลค่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 63 แสดงให้เห็นว่าธุรกิจในประเทศได้ใช้ประโยชน์จากข้อตกลง EVFTA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และต้นทุนค่าขนส่งทางทะเลที่สูงขึ้น ทั้งนี้ คุณ Nguyen Thi Hoang Thuy ที่ปรึกษาการค้าเวียดนามประจำประเทศสวีเดนและตลาดนอร์ดิก กล่าวว่านับตั้งแต่มีการบังคับใช้ข้อตกลง EVFTA ยอดการส่งออกในช่วง 9 เดือนของปีก่อน สูงถึง 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเป็นรายปี โดยเฉพาะราคาส่งออกข้าวอยู่ที่ 781 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 20.3%

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnamese-rice-becomes-increasingly-popular-in-eu-market-post917338.vov

 

เวียดนาม’ เผยปี 64 ยอดการส่งออก พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

นาย เหงวียน ฮ่ง เญียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่าแม้จะเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่รายได้จากการส่งออกและนำเช้าของเวียดนามยังคงทำสถิติใหม่ราว 670 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาจากการส่งออกประมาณ 336.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเวียดนามยังคงรักษาให้เกินดุลการค้าเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ด้วยมูลค่ากว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังตลาดพัฒนาแล้วและมีความต้องการสูง ได้แก่ สหรัฐฯ (เกินดุลราว 80.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และยุโรป (23.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ทั้งนี้ นายเจิ่น ก๊วก แคก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าวว่าการเติบโตของการส่งออกทะลุเป้าหมายที่รัฐบาลและรัฐสภากำหนดไว้ที่ 4-5%

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-exports-rise-sharply-in-2021/220449.vnp

‘จุรินทร์’รุกค้าชายแดน รับรถไฟ’จีน-ลาว’เปิดวิ่ง

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์  ได้นำคณะจากกระทรวงพาณิชย์มาประชุมร่วมกับภาคเอกชนจากส่วนกลางคือผู้แทนหอการค้า และภาคเอกชนในภาคอีสานโดยเฉพาะจังหวัดหนองคายและใกล้เคียง ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์รถไฟจีน-ลาวเพื่อใช้ขนส่งสินค้าของไทยไปยังลาวและจีนเพื่อเพิ่มการส่งออก และตัวเลขการค้าชายแดนไทย-ลาว โดยปีที่ผ่านมาการค้าชายแดนไทย-ลาว มีมูลค่าการค้าระหว่างกันเกือบ 200,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.58% ไทยส่งออกไปลาว 112,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.13% ประเทศไทยได้ดุลประมาณ 31,000 ล้านบาท และหวังว่าจะใช้เส้นทางรถไฟจีน-ลาว ส่งสินค้าต่างๆไปยังจีนได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเส้นทางรถไฟนี้อนุญาตให้ส่งสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสินแร่ ยางพาราและมันสำปะหลัง ไปยังจีนได้ แต่ผลไม้ต้องเจรจากันต่อไป

ที่มา: https://www.naewna.com/business/627734

เมียนมาส่งออกน้ำผึ้ง บุกตลาดต่างประเทศกว่า 4,000 ตันต่อปี

คนเลี้ยงผึ้งและธุรกิจเลี้ยงผึ้งรายย่อยของเมียนมา ภายใต้การดูแลของกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และชลประทาน สามารถผลิตน้ำผึ้งได้ปีละกว่า 6,000 ตัน เป็นบริโภคภายในประเทศ 2,000 ตัน และส่งออก 4,000 ตัน ซึ่งกระทรวงฯ กำลังเตรียมพื้นที่ 1.5 ล้านเอเคอร์เพื่อให้ผึ้งผสมเกสร โดยเขตซะไกง์เป็นผู้ผลิตน้ำผึ้งรายใหญ่ อีกทั้งรัฐมอญก็เริ่มทำการผลิตน้ำผึ้งเช่นกัน ธุรกิจการเลี้ยงผึ้งในเมียนมาเริ่มขึ้นในปี 2522 เริ่มส่งออกตลาดต่างประเทศในปี 2528 ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และไทย ซึ่งน้ำผึ้งดอกทานตะวัน น้ำผึ้งปาล์ม และน้ำผึ้งดอกงาเป็นที่ต้องการของตลาด โดยจีนและเวียดนามเป็นผู้ส่งออกน้ำผึ้งรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่เมียนมาและไทยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในบรรดาประเทศในภูมิภาค

ที่มา: https://www.gnlm.com.mm/myanmar-ships-about-4000-tonnes-of-honey-yearly/#article-title

Ford วางแผนเริ่มสายการผลิตรถยนต์ ในกัมพูชาช่วง เม.ย. 2022

Ford ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสหรัฐฯ ตัดสินใจลงทุนเปิดสายการผลิตการผลิตรถยนต์ Ford Ranger และ Ford Everest มูลค่าโครงการรวม 21 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเริ่มผลิตในช่วงเดือนเมษายน 2022 โดยโครงการตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Krakor จังหวัดโพธิสัตว์ บนพื้นที่กว่า 4 เฮกตาร์ ในหมู่บ้าน Savon ชุมชน Sna Ansa อำเภอ Krakor จังหวัดโพธิสัตว์ ห่างจากกรุงพนมเปญ 159 กิโลเมตร ลงทุนภายใต้บริษัท RMA AUTOMOTIVE (CAMBODIA) CO., LTD. โดยบริษัทวางแผนที่จะประกอบรถยนต์ทั้งหมด 4,500 คันในปีแรก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดกัมพูชาเพียงอย่างเดียว ซึ่งคาดว่าโรงงานดังกล่าวจะช่วยสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นมากถึง 500 ตำแหน่ง สำหรับสายการผลิต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501003438/cambodias-21-million-ford-assembly-plant-to-start-production-line-in-april/