เปิดขนส่งน้ำมันทางท่อยาวสุดในไทย สร้างมั่นคงพลังงาน-ลดเหลื่อมล้ำราคา

นายพลากร สุวรรณรัฐ ประธานกรรมการ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BAFS) กล่าวว่า โครงการระบบท่อขนส่งน้ำมันสายเหนือเป็นโครงการที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล โดยกระทรวงพลังงาน ที่มอบหมายให้บริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการในโครงการนี้ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมันและเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากรถบรรทุกน้ำมัน ลดมลพิษ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งยังเป็นการรองรับการเจริญเติบโตของการเปิดท่าอากาศยานแห่งใหม่ทางภาคเหนือ และการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆ โดยล่าสุดโครงการระบบท่อขนส่งน้ำมัน สายเหนือระยะที่ 2 (กำแพง เพชร-ลำปาง) ณ คลังน้ำมันนครลำปาง ตั้งอยู่ในแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) เชื่อมโยงประเทศจีน-พม่า-ลาว-ไทย สามารถขนส่งน้ำมันอากาศยาน น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน น้ำมันเบนซินพื้นฐานออกเทน 91 และ 95 ในท่อเดียวกัน ช่วยส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ส่งเสริมนโยบายการค้าเสรี ที่ผู้ค้าทุกรายสามารถเข้าถึงการขนส่งน้ำมันทางท่อได้ รวมถึงยังเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานของอาเซียน เพิ่มศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
ที่มา : https://www.thansettakij.com/economy/507710

การสำรวจสำมะโนเกษตรกร เปิดเผยเกษตรกรเข้าถึงการศึกษาในระดับต่ำ

การสำรวจสำมะโนเกษตรกรครั้งที่ 3 พบว่าการเข้าถึงการศึกษาของเกษตรกรมีน้อยลง โดยร้อยละ 28 ของเกษตรกรไม่เคยเข้าเรียนในโรงเรียน ร้อยละ 31 เรียนจบแค่ชั้นประถมศึกษา ร้อยละ 14 จบมัธยมศึกษาตอนต้น และเพียงร้อยละ 6 จบมัธยมศึกษาตอนปลายด้านผู้หญิงยังมีการศึกษาน้อยกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยผู้หญิงร้อยละ 32 ไม่เคยไปโรงเรียน สำมะโนเกษตรกรดังกล่าวดำเนินการโดยสำนักสถิติลาวและกระทรวงการวางแผนและการลงทุนโดยความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและป่าไม้ และได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของผู้เชี่ยวชาญหลายคนในด้านสถิติและการเกษตร เพื่อรับประกันความเกี่ยวข้องของข้อมูลที่ออกมา และยังเป็นการสำรวจสำมะโนการเกษตรแห่งแรกในสปป.ลาวที่ใช้โหมดการสัมภาษณ์ส่วนตัวโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้วิธีนี้แสดงถึงความพยายามของสำนักสถิติลาวและกระทรวงเกษตรและป่าไม้ในการเปลี่ยนไปใช้วิธีดิจิทัลในการรวบรวมข้อมูล ผลการสำรวจสำมะโนเบื้องต้นจะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับรัฐบาลในการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและชนบทอย่างมีประสิทธิผล เพื่อปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพในพื้นที่ชนบทข้อมูลที่ได้รับยังมีความสำคัญต่อความสำเร็จของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้วาระ 2030
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Farmers250.php

สนามบินเสียมราฐ เปิดรับเที่ยวบินต่างประเทศไฟท์แรกในรอบ 20 เดือน

สนามบินนานาชาติเสียมราฐของกัมพูชาได้ต้อนรับเที่ยวบินระหว่างประเทศครั้งแรกในรอบ 20 เดือน ซึ่งเป็นเที่ยวบินมาจากประเทศสิงคโปร์และลงจอดที่สนามบินเสียมเรียบเมื่อเวลา 9.45 น. ในวันศุกร์ (17 ธ.ค.) หลังจากท่าอากาศยานนานาชาติสิงคโปร์ได้เปิดให้บริการเที่ยวบินทุกวันระหว่างสิงคโปร์และเสียมราฐ โดยคาดว่าเที่ยวบิน Vaccinated Travel Lane (VTL) จะให้บริการ 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งมีรายงานว่าเที่ยวบินดังกล่าวจะให้บริการเข้าประเทศสิงคโปร์โดยปลอดการกักกันสำหรับนักเดินทางที่มีสิทธิ์ เที่ยวบิน VTL SQ163 ที่จะดำเนินการทุกวันจันทร์ วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ของทุกสัปดาห์ โดยทางการเสียมราฐคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น หลังจากเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศอีกครั้ง และคาดว่าจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการพักผ่อนของกัมพูชาต่อมุมมองของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50992298/cambodia-welcomes-its-first-international-flight-for-the-first-time-in-20-months/

สถาบันการเงินกัมพูชา รายงานถึงปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 23

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) กล่าวว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ภาคสถาบันการเงินภายในประเทศได้ทำการปล่อยสินเชื่อในระบบรวม 185.1 ล้านล้านเรียล หรือประมาณ 44.9 พันล้านดอลลาร์ แก่ภาคการเกษตร การก่อสร้าง การผลิต การบริการ การค้า และภาคครัวเรือน ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยภาคเกษตรมีสัดส่วนมากที่สุด ซึ่งโฆษกของสมาคมไมโครไฟแนนซ์กัมพูชา ระบุว่าภายในสิ้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ปริมาณสินเชื่อสำหรับไมโครไฟแนนซ์ได้เพิ่มขึ้น 8.218 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 600 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ในขณะที่จำนวนผู้กู้เพิ่มขึ้นเป็น 2,028,882 ราย เพิ่มขึ้น 51,116 ราย เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2021
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50992206/banking-and-financial-institutions-disbursed-44-9-billion-in-loans-an-increase-of-23-percent/

ตลาดเรียนออนไลน์เวียดนามโต 3 พันล้านดอลล์

เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ในเวียดนาม แถมเป็นการแพร่ระบาดในอัตราที่รวดเร็วขึ้น แต่กลับทำความต้องการเรียนหนังสือทางออนไลน์กับสถาบันการศึกษาชื่อดังเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้มูลค่าทางการตลาดของตลาดเทคโนโลยีด้านการศึกษาทะยานถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 2,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2562
ทั้งนี้ ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดเทคโนโลยีด้านการศึกษาของเวียดนามคือ “เอฟพีที” ผู้ให้บริการด้านไอทีในเวียดนาม โดยใช้เทคโนโลยี AI ในการส่งประสบกาณณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับจุดแข็งและจุดอ่อนของนักเรียนแต่ละคน
นอกจากนี้ ภายใต้แรงกดดันต้องมีการศึกษาที่ดีขึ้น แรงงานในเวียดนามจะได้รับการสนับสนุนให้ติดอาวุธทางปัญญารวมทั้งฝึกอบรมให้มีทักษะด้านดิจิทัล โดยเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามประกาศเป้าหมายเพื่อทำให้การศึกษาทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 90% สำหรับการเรียนระดับมหาวิทยาลัย และ 80% สำหรับการเรียนระดับมัธยม และการอบรมวิชาชีพ ภายในปี 2573
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/world/978384

‘IFC’ ทุ่ม 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เหตุสร้างโรงงานผลิตพลังงานจากขยะในเวียดนาม

บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) อนุมัติเงินทุนกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อทำการก่อสร้างโรงงานผลิตพลังงานจากขยะในจังหวัดบั๊กนิญ (Bắc Ninh) ถือเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนเวียดนามเพื่อให้เวียดนามลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2050 โดยโรงงานแห่งนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2024 และจะเผาขยะ 500 ตันต่อวัน และเผาขยะอุตสาหกรรทุกวัน มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถในการบำบัดของเสียและลดผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ โรงงานเผาขยะจะสร้างพลังงานสะอาดได้ถึง 91,872 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมงในแต่ละปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 600,000 ตันในระยะเวลาเพียง 15 ปี ซึ่งพลังงานที่ผลิตได้นั้นจะขายให้กับบริษัท Vietnam Electricity Corporation ภายใต้โครงการซื้อไฟฟ้า Feed-in-Tariff (FiT) เป็นระยะเวลา 20 ปี
ที่มา : https://vietnamtimes.org.vn/vietnams-trade-revenue-to-surpass-us-660-billion-this-year-38697.html

‘เวียดนาม’ เล็งเห็นศักยภาพของตลาดฮาลาลโลก

นาย Nguyen Quoc Dung รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม กล่าวว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้และประเทศในแถบแปซิฟิกใต้ ถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพด้วยจำนวนผู้บริโภคชาวมุสลิมมากเกือบ 860 ล้านคน (66% ของประชากรมุสลิมทั่วโลก) โดยเวียดนามมีจุดแข็งและสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเศรษฐกิจฮาลาลโลก รวมถึงอาหาร การท่องเที่ยว สิ่งทอ เภสัชกรรมและสื่อ
อีกทั้ง เวียดนามยังมีบทบาทสำคัญที่สามารถเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับประเทศในระดับภูมิภาคและข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) 17 ฉบับ ตลอดจนข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ เช่น EVFTA และ RCEP โดยเฉพาะสินค้าที่มีข้อได้เปรียบ ได้แก่ ข้าว พริกไทย เม็ดมะม่วงหิมพานต์และเมล็ดกาแฟ
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาถึงการใช้จ่ายสำหรับอาหารฮาลาล คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.1% จาก 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 63 มาอยู่ที่ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2567 นอกจากนี้ ความต้องการสินค้าฮาลาลยังเพิ่มขึ้นจากตลาดในประเทศ เนื่องจากชาวมุสลิมต่างชาติเดินทางมาเวียดนาม เพื่อมาทำงานและศึกษาเพิ่มขึ้น ทำให้ชุมชนชาวมุสลิมในเวียดนามก็เพิ่มขึ้นสูงตามไปด้วย
ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1108848/viet-nam-sees-great-potential-in-global-halal-market.html

เมียนมาอนุญาตนำเข้ารถยนต์การพาณิชย์เพื่อจำหน่ายรถในโชว์รูมและศูนย์จำหน่ายในประเทศ

กระทรวงพาณิชย์เมียนมา ประกาศว่าจะเริ่มนำเข้ารถยนต์เพื่อการพาณิชย์สำหรับโชว์รูมรถยนต์และศูนย์จำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์ในประเทศ สำหรับปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ตัวแทนขายรถในกรุงย่างกุ้งคาดว่าการนำเข้ารถยนต์เพื่อการพาณิชย์จะลดลงตามไปด้วย แต่ทั้งนี้การนำเข้าต้องปฏิบัติตามระเบียบ ซึ่งเฉพาะรถยนต์พวงมาลัยซ้ายเท่านั้นที่จะสามารถนำเข้าได้เท่านั้น
ที่มา : https://news-eleven.com/article/222383

ญี่ปุน มอบเงิน 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับอุปกรณ์สนามบินสปป.ลาว

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีการลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับ “การจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน” และความช่วยเหลือแบบให้เปล่าที่กระทรวงการต่างประเทศในเวียงจันทน์โดยนาย Phoxay Khaykhamphithoune รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและนาย Kenichi Kobayashi เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำลาว ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นจะมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 8.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามรายงานของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น โครงการนี้จะจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน เช่น รถประจำทางเพื่อขนส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารกับเครื่องบิน ระบบปรับอากาศในสนามบิน และสะพานขึ้นเครื่อง เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการขนส่งและการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยการปรับปรุงคุณภาพการบริการสนามบินในประเทศสปป.ลาวและเสริมสร้างความสามารถในการตอบสนองแก่ผู้ใช้บริการ อีกทั้งความช่วยเหลือของญี่ปุ่นยังเป็นสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลลาวในการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนามบินนานาชาติและส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างลาวกับส่วนอื่น ๆ ในภูมิภาค
ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Japan_249.php

SSEZ กัมพูชา ส่งออก-นำเข้า แตะ 2 พันล้านดอลลาร์

ปริมาณการนำเข้าและส่งออกรวมของเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) มูลค่ารวมอยู่ที่ 2,001 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการนำเข้าและส่งออกรวมของวิสาหกิจทั้งหมดใน SSEZ เฉพาะในเดือน พ.ย. มีมูลค่าสูงถึง 233 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทำได้เกินเป้าหมายประจำปีที่ได้กำหนดไว้ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ โดยบรรลุผลสำเร็จก่อนกำหนดถึง 1 เดือน ซึ่งปัจจุบันเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ (SSEZ) ดึงดูดผู้ประกอบการและสถาบันภาคเอกชนกว่า 170 แห่ง ทั้งจากจีน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่น ๆ สร้างการจ้างงานเกือบ 30,000 ตำแหน่ง
ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/991393/ssezs-export-import-amounts-2-billion-in-eleven-months/