นายกฯ กัมพูชาคาดเศรษฐกิจภายในประเทศโต 5.6 ปีนี้

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน คาดเศรษฐกิจของกัมพูชาจะเติบโตร้อยละ 5.6 ในปีนี้ และขยายตัวอีกร้อยละ 6.6 ในปีหน้า แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มถดถอย โดยนายกฯ ได้กล่าวคำแถลงดังกล่าวในระหว่างการเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษแมนฮัตตัน ณ จังหวัดสวายเรียง แม้ว่าอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและรองเท้าจะมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมบันเทิงยังคงเติบโต ภายใต้การส่งออกในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ฮุน เซน กล่าวเสริมว่า แม้การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจจะอยู่ในทิศทางที่ดี แต่ถึงอย่างไรยังคงต้องคอยติดตามกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน อาทิเช่น สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นของชาติมหาอำนาจ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501313848/pm-hopes-for-5-6-percent-economic-growth-this-year-and-6-6-percent-next-year/

คาด GDP ต่อหัวภายในกัมพูชา ขยายตัว 8.3% ในช่วงปีนี้

Aun Pornmoniroth รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) คาดการณ์ว่าการเติบโตของ GDP ต่อหัว ภายในประเทศกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,932 ดอลลาร์ ภายในปี 2023 เพิ่มขึ้นจาก 1,784 ดอลลาร์ ในช่วงปีก่อน ภายใต้อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลง โดยทางการกัมพูชายังได้คาดการณ์ว่า GDP ของประเทศจะเติบโตร้อยละ 5.6 ในปีนี้ จากการพัฒนาในทุกภาคส่วน ซึ่งรายงานเศรษฐกิจและการเงินที่ออกโดยธนาคารกลางกัมพูชา (NBC) ยังชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงเหลือเพียงร้อยละ 0.47 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จากร้อยละ 0.66 ในเดือนก่อนหน้า ตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501312162/gdp-per-capita-to-swell-8-3-in-2023-pornmoniroth-says/

คาดปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังกัมพูชา จะกลับมาสู่ภาวะปกติภายในปี 2025

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนยังกัมพูชา คาดว่าจะเกินกว่าระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในปี 2025 กล่าวโดย Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยว ในระหว่างการประชุมประจำปีของกระทรวงการท่องเที่ยว ณ กรุงพนมเปญ ถึงการที่กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 2.16 ล้านคนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 530 เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยตั้งเป้าจะให้การรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ถึง 4.6 ล้านคนในปี 2023 และเพิ่มขึ้นไปถึง 7 ล้านคน ภายในปี 2025-2026 ซึ่งในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาด กัมพูชาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.6 ล้านคนในปี 2019 สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 4.92 พันล้านดอลลาร์ โดยถือได้ว่าภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในสี่เสาหลักที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา นอกเหนือจากการส่งออกเครื่องนุ่งห่ม การเกษตรและการก่อสร้าง รวมถึงอสังหาริมทรัพย์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501312540/international-tourists-to-cambodia-expected-to-surpass-pre-pandemic-level-in-2025/

กัมพูชาส่งออกยางพุ่ง 41% ในปีนี้

กัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์จากยางพารามูลค่ารวมแตะ 260 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี ขยายตัวกว่าร้อยละ 41.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิต (GDC) โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมเพียงเดือนเดียวกัมพูชาส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพารากว่า 53.5 ล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดปีนี้นับตั้งแต่เดือนมกราคม ด้านสมาคมประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติ (ANRPC) ซึ่งมีสำนักงานในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้รายงานสถานการณ์การผลิตยางธรรมชาติทั่วโลก (NR) ว่ามีการเติบโตลดลงที่ร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือคิดเป็นปริมาณ 896,000 ตัน ในช่วงเดือนเมษายน และด้วยการผลิตที่ลดลง แต่ความต้องการยางธรรมชาติทั่วโลกกลับเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 2.7 ส่งผลทำให้ราคายางพาราปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2022 ตลาดยางธรรมชาติทั่วโลก คาดว่าจะมีปริมาณการผลิตถึง 14.693 ล้านตัน ขณะที่การบริโภคคาดว่าจะอยู่ที่ 14.738 ล้านตัน ตลอดทั้งปี ซึ่งโดยเฉพาะในตลาดยางพาราอย่าง จีน เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย และสหภาพยุโรป

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501311550/cambodias-rubber-exports-surge-by-over-41/

กัมพูชาส่งเสริมการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนระหว่าง เวียดนาม และสปป.ลาว

ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา (NBC) กำลังเตรียมลงนามข้อตกลงกับธนาคารแห่งรัฐเวียดนามและธนาคารแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อส่งเสริมการใช้สกุลเงินเรียลของกัมพูชาในกิจกรรมทางเศรษฐกิจระหว่างกันข้ามพรมแดน กล่าวโดย Chea Serey รองผู้ว่าการ NBC ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อของเวียดนามในกรุงพนมเปญ โดยเน้นย้ำว่าความคิดริเริ่มนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคใช้สกุลเงินเรียลในการซื้อสินค้า/บริการในประเทศมากขึ้น ผ่านการใช้งานบนระบบ QR Code ที่เชื่อมโยงกับบัญชีในประเทศของตน ซึ่งรองผู้ว่าการฯ สังเกตว่าความต้องการในการใช้เงินสกุลเรียลเพิ่มขึ้นทีละน้อยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การไหลเวียนของเงินเรียลในกัมพูชามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 16.6 หรือคิดเป็นประมาณ 14.1 ล้านล้านเรียล (เทียบเท่ากับ 3.4 พันล้านดอลลาร์) ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจาก 356 ล้านเรียลในปี 1998 โดยการใช้สกุลเงินดอลลาร์ในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกัมพูชา เนื่องจากปริมาณเงินเรียลในระบบมีการใช้อยู่ค่อนข้างน้อย จนทำให้ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา ใช้นโยบายทางการเงินได้ไม่เต็มที่ โดยปัจจุบันกลุ่ม ASEAN-5 ประกอบด้วยอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และสิงคโปร์ ได้ลงนามในข้อตกลงเมื่อปีที่แล้ว เพื่อจัดตั้งระบบการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนโดยใช้ QR Code ร่วมกันภายในสิ้นปีนี้

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501311878/cambodia-to-promote-cross-border-digital-payment-with-viet-nam-laos/

นายกฯ ฮุนเซน เรียกร้องเร่งศึกษาแหล่งน้ำมันดิบใต้ก้นทะเลกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน กล่าวว่า กัมพูชามีแหล่งน้ำมันที่มีศักยภาพใต้ก้นทะเลที่รอการสำรวจและการลงทุน ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวไว้ในระหว่างพิธีเปิดโรงงานบำบัดน้ำ Bakheng ในกรุงพนมเปญ โดยสนับสนุนให้ทำการศึกษาและสำรวจแหล่งน้ำมันใต้ก้นทะเลกัมพูชา เพื่อมองหาโอกาสในการลงทุน ซึ่งหวังว่าในอนาคตกัมพูชาอาจมีการลงทุนในอุตสาหกรรทการผลิตน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่ามีแหล่งน้ำมันอยู่ใต้พื้นที่โตนเลสาบที่ยังไม่ได้ศึกษาและสำรวจ ในอดีตกัมพูชาเคยมีการผลิตน้ำมันครั้งแรกดำเนินการโดย บริษัท KrisEnergy เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2020 และบริษัทได้ยื่นฟ้องล้มละลายประมาณหกเดือนหลังจากดำเนินการในช่วงเดือนมิถุนายน 2021 ส่งผลทำให้บริษัทต้องปิดกิจการลง แต่ในปัจจุบันกระทรวงและบริษัทพลังงานสัญชาติแคนาดา ได้ร่วมพูดคุยและหารือเกี่ยวกับการศึกษาร่วมกันเพื่อเริ่มต้นการทำงานใหม่ โดยอุปกรณ์ที่มีอยู่จะกลับมาทำงานในบล็อกน้ำมันในไม่ช้า ขณะที่การนำเข้าน้ำมันและก๊าซของกัมพูชาอยู่ที่ 1.15 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิต โดยความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของกัมพูชาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.8 ล้านตันในปี 2020 เป็น 4.8 ล้านตันในปี 2030 กล่าวโดยรัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501310756/pm-calls-for-study-on-cambodias-untapped-oil-reserves/

คาดความช่วยเหลือและการลงทุนของจีน มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาของกัมพูชา

Pan Sorasak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา กล่าวเมื่อไม่นานว่า ความช่วยเหลือและการลงทุนเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการของจีน มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงกัมพูชา โดยรัฐมนตรีกล่าวเสริมว่าด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทั้งสองประเทศภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งปัจจุบันจีนเข้าลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ ทางด่วนพนมเปญ-สีหนุวิลล์ และเสียมราฐ-นครวัด สนามบินนานาชาติและอื่น ๆ ในขณะที่ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และความตกลงการค้าเสรีกัมพูชา-จีน ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2022 ได้เพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501311086/chinas-aid-investment-greatly-contribute-to-cambodias-development/

ในช่วง ม.ค.-พ.ค. มูลค่าการค้ากัมพูชาหดตัว 14% แตะ 19.2 พันล้านดอลลาร์

มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของกัมพูชาอยู่ที่ 19.2 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ตามรายงานของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง โดยกัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวมเกือบ 9.2 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 2.4 (YoY) ขณะที่การนำเข้าคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ปรับตัวลดลงเช่นกันที่ร้อยละ 22.6 (YoY) ด้าน Pan Sorasak รมว.พาณิชย์ ระบุว่าการส่งออกที่ลดลงมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่คาดว่าสถานการณ์โดยภาพรวมจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงปีนี้ โดยกัมพูชาเน้นการนำเข้าวัตถุดิบและวัสดุก่อสร้าง รถยนต์ ยา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปุ๋ย และยาฆ่าแมลงเป็นหลัก ขณะที่สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า สินค้าเดินทาง จักรยาน ข้าว เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางพารา เฟอร์นิเจอร์ และผัก สำหรับตลาดส่งออกสำคัญของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น แคนาดา เยอรมนี เวียดนาม ไทย และสิงคโปร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501310428/cambodias-trade-turnover-over-19-2-bn-in-jan-may-2023-14-yoy-drop/

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาคาด GDP ปีนี้ โต 5.6%

Aun Pornmoniroth รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) ได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2023 ไว้ที่ร้อยละ 5.6 จากที่ขยายตัวร้อยละ 5.3 ในปีที่แล้ว โดยได้กล่าวไว้ในระหว่างการประชุมร่วมครั้งที่ 35 ของคณะกรรมาธิการ UNWTO (35th CAP & CSA) และการประชุม WTO ว่าด้วยมาตรฐานสากลการคุ้มครองนักท่องเที่ยว (ICPT) ณ Sokha Phnom Penh Hotel & Residence โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลมีมุมมองในแง่ดีสำหรับภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนหลักเศรษฐกิจของกัมพูชาที่กำลังจะกลับเข้าสู่สถานการณ์ภาวะปกติ หลังประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในช่วงปี 2025 ทางการกัมพูชาคาดว่าจะกลับมาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวแตะ 7 ล้านคน และในปี 2026 คาดว่าจะให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวขึ้นไปถึงประมาณ 13 ล้านคน ใกล้เคียงกับจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2019 ภายใต้แนวคิด Public-Private Partnership (PPP) ผ่านความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501310040/pornmoniroth-puts-cambodias-2023-gdp-forecast-at-5-6/

นักท่องเที่ยว ไทย-เวียดนาม ยังคงเป็นกลุ่มสำคัญสำหรับภาคการท่องเที่ยวกัมพูชา

หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาเปิดเผยว่านักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงนักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญของกัมพูชา โดยในช่วงไตรมาสแรกมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมายังกัมพูชากว่า 570,000 คน นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม 285,000 คน และนักท่องเที่ยวชาวจีน 184,000 คน ซึ่งหากนับรวมกับนักท่องเที่ยวสัญชาติอื่นๆ จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 1.72 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 600 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน Thong Khon รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันคาดว่าจะมีเที่ยวบินตรงจากจีนมายังกัมพูชาเพิ่มขึ้น อีกทั้งทางการกัมพูชากำลังเร่งพัฒนาสนามบินใหม่สองแห่งที่มีระยะทางห่างจากเสียมราฐประมาณ 50 กม. ซึ่งมีกำหนดเปิดให้ใช้บริการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 และแห่งที่สองห่างจากกรุงพนมเปญประมาณ 20 กม. คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี 2024 ด้วยเหตุผลข้างต้นคาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังกัมพูชาอย่างน้อย 4 ล้านคนในปี 2023

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501309801/asean-neighbours-thailand-and-vietnam-the-largest-groups-of-tourists-entering-cambodia/