เศรษฐกิจภูมิภาคยังชะลอตัว ด้านสปป.ลาวเศรษฐกิจเริ่มมีฟื้นตัว

ธนาคารโลกระบุ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงในสปป.ลาว ซึ่งสร้างลกระทบให้กับบริษัทและภาคครัวเรือนยาวนานขึ้น ตามข้อมูลอัปเดตเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกในฤดูใบไม้ร่วงปี 2564 ของธนาคารโลกกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงในไตรมาสที่สองของปี 2564 และการคาดการณ์การเติบโตได้รับการปรับลด ในส่วนสปป.ลาวการเติบโตของ GDP ในสปป.ลาวคาดว่าจะฟื้นตัวเป็น 2.2% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 0.5% ในปี 2563 การคาดการณ์นี้ได้รับการแก้ไขลงจากการเติบโต 4% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคม 2564 เนื่องจากการระบาดของโควิดครั้งล่าสุดยังคงรุนแรงและควบคุมไม่ได้ ปัจจัยภาคเกษตรและอุตสาหกรรมคาดว่าจะขับเคลื่อนการเติบโตของสปป.ลาว จากการสนับสนุนจากอุปสงค์จากภายนอก เนื่องจากคู่ค้ารายสำคัญจะค่อยๆ ฟื้นตัว

ที่มา : เศhttps://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Economic_190.php

ธ.โลกหั่นคาดการณ์ศก.เอเชียตะวันออกเหตุโควิดสายพันธุ์เดลตาฉุดการเติบโต

ธนาคารโลกเปิดเผยรายงาน “East Asia and Pacific Fall 2021 Economic Update” โดยระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจอ่อนแรงลง และเพิ่มความไม่เท่าเทียมกันในภูมิภาคเหล่านี้ ทั้งนี้ ‘มานูเอลา เฟอร์โร’ ประธานธนาคารโลกฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกกล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกกำลังเผชิญกับความพลิกผันในอนาคต ในปี 2563 นั้น ภูมิภาคแห่งนี้สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ในขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ ยังไม่สามารถควบคุมได้ แต่ในปี 2564 นี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น ซึ่งส่งให้การเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคอ่อนแอลง

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/news/962527

‘นครโฮจิมินห์’ เรียกร้องให้ปรับลดภาษีแก่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

คณะกรรมการประชาชนของเมืองโฮจิมินห์ ให้คำแนะนำหลายประการสำหรับพระราชกฤษฎีกาของกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยเหลือธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 2% โดยในเอกสารที่ส่งไปยังรัฐบาลนั้น ยังเสนอเพิ่มเติมให้ทำการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าเช่าที่ดิน ตลอดจนขยายเวลาชำระภาษีและเงินอุดหนุนดอกเบี้ย อีกทั้ง เรียกร้องให้ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลง 50% แก่ธุรกิจที่มีรายได้ต่อปีน้อยกว่า 2 แสนล้านล้านดอง (8.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในปีนี้ นอกจากนี้ สำหรับประเด็นการยื่นภาษี ควรขยายออกไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า โดยไม่มีการปรับการชำระเงินที่ล่าช้า

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1049629/hcm-city-wants-tax-reduction-for-covid-affected-businesses.html

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าอีก 5 ปีข้างหน้า ยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ 710,000 ราย

กระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) ได้ประสานงานกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังร่างประกาศการสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจปี 2564-2568 ตั้งเป้าการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีจำนวนทั้งสิ้น 710,000 ราย ซึ่งภายใต้เอกสารดังกล่าว วัตถุประสงค์ของนโยบายเพื่อช่วยเหลือธุรกิจในการฟื้นฟู ขยายธุรกิจและพัฒนาความสามารถทางการแข่งขัน และในปี 2568 เวียดนามคาดว่าจะมีบริษัทกว่า 2.1 ล้านราย ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะผลักดันโซลูชั่น 8 กลุ่ม มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการลงทุนและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ตลอดจนขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังได้เสนอให้มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างองค์กรต่างๆ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-expects-710000-newlyestablished-enterprises-in-next-five-years/208759.vnp

ราคายาง รัฐมอญ พุ่งทะลุ 1,150 จัต สูงกว่าปีที่แล้ว ผลจากค่าเงินจัตอ่อนค่า

ปัจจุบันรัฐมอญ ราคายาง 1 ปอนด์มีราคา 1,150 จัต เพิ่มขึ้นจาก 700 จัตในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ผลจากการอ่อนค่าของเงินจัตและการซื้อยางทางเลือก แม้การส่งออกที่ชายแดนจีนปิดตัวลง สถานการณ์ปัจจุบันคือเมื่อเงินอ่อนค่าลง ผู้ที่ถือเงินจัตมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้ามากขึ้น จึงทำให้คนเมียนมาเลือกที่จะถือเงินสกุลอื่นหรือสิ่งอื่นเพื่อซื้อสินค้าแทน ส่งผลให้ปัจจุบันราคายางต่อปอนด์จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,150 / 1,200 จัต

ที่มา : https://news-eleven.com/article/216737

ในช่วง 8 เดือน เวียดนามส่งออกไปกัมพูชาเพิ่มขึ้น

เวียดนามส่งออกสินค้าไปยังกัมพูชามูลค่ารวม 3.15 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2021 คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม เวียดนามได้รายงานถึงการขาดดุลการค้ากับกัมพูชาอยู่ราว 354.4 ล้านดอลลาร์ ในช่วงดังกล่าว มีสาเหตุหลักจากการนำเข้าผลิตภัณฑ์หลัก 6 รายการ จากกัมพูชาเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการนำเข้า เม็ดมะม่วงหิมพานต์และยางพาราเพิ่มขึ้นสูงสุด ซึ่งเวียดนามนำเข้าเม็ดมะม่วงหิมพานต์จากกัมพูชาในช่วง 8 เดือนแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 เท่าเมื่อเทียบปีต่อปีคิดเป็นมูลค่า 1.83 พันล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน การนำเข้ายางของเวียดนามจากประเทศเพื่อนบ้านนั้นสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 5.3 เท่า ซึ่งอยู่ที่มูลค่า 821.8 ล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50942886/vietnams-exports-to-cambodia-up-16-7-percent-in-eight-months/

การค้า กัมพูชา-ไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในช่วง 8 เดือน

การค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.14 คิดเป็นมูลค่า 5,238 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ รายงานโดยกระทรวงพาณิชย์ของไทย แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวม 623 ล้านดอลลาร์ ไปยังประเทศไทย ลดลงร้อยละ 31.70 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้าของกัมพูชาจากประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าวกลับขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.76 คิดเป็นมูลค่า 4,614 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าภาคการเกษตรถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของกัมพูชาไปยังประเทศไทย ในขณะที่การส่งออกของไทยไปกัมพูชาส่วนใหญ่ประกอบด้วย ปุ๋ยทางการเกษตร อาหารและเครื่องสำอาง ซึ่งทั้งสองประเทศตั้งเป้าทำการค้าทวิภาคีร่วมกันสูงถึง 15 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2023 โดยเมื่อปีที่แล้วมูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศอยู่ที่ 7.236 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 23 จากปี 2019

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/50943079/cambodia-thailand-eight-month-trade-inches-up/

รัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างทางด่วนเวียงจันทน์-ฮานอย

รัฐบาลสปป.ลาวและเวียดนามกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างทางด่วนเชื่อมเวียงจันทน์กับฮานอย ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา 2 เส้นทาง โดยเส้นทางแรกจะวิ่งผ่านเวียงจันทน์-ปากซาน-เวียงทอง-Thanh Thuy-Hanoi เป็นระยะทาง 725 กิโลเมตร                    เป็นเส้นทางในประเทศลาว 355 กิโลเมตร ค่าใช้จ่ายโดยประมาณจะอยู่ที่ 5.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเส้นทางที่ 2 เป็นเส้นทางผ่านเวียงจันทน์-นาแพง-ไซสมบูรณ์-เชียงขวาง-ท่าลาว (จังหวัดหัวพัน)-ฮานอยระยะทาง 730 กม. เป็นเส้นทางในประเทศลาว 485 กม. ค่าใช้จ่ายโดยประมาณของเส้นทางนี้จะอยู่ที่ประมาณ 9.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสร้างทางด่วนแล้วเสร็จจะเป็นอีกก้าวหนึ่งในการเปลี่ยนประเทศสปป.ลาวจากการไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นทางเชื่อมทางบกภายในภูมิภาค

 ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten_Vientiane_Hanoi_189.php

นักลงทุนต่างชาติ เชื่อมั่นเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัว

หนังสือพิมพ์ Dau Tu (Viet Nam Investment Review) รายงานว่านักลงทุนต่างชาติเข้ามาขยายการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อขยายการผลิตในเวียดนาม สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนาม อีกทั้ง ทางฝั่งของบริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติสวิส “เนสท์เล่ (Nestle)” ชี้ว่ากำลังทุ่มเงินเพิ่มอีกกว่า 130 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มูลค่าการลงทุนในเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น 730 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากบริษัทอย่างเนสท์เล่แล้ว ยังมีบริษัทต่างชาติอื่นๆ ที่คงรักษาการดำเนินงานในเวียดนามต่อไป แม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) มองว่าถึงแม้เวียดนามจะเผชิญกับความท้าทายหลายอย่างในปัจจุบันที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส แต่ธุรกิจญี่ปุ่นในเวียดนามจะพยายามปรับตัวและพัฒนาระบบการผลิตในสถานการณ์ใหม่ นอกจากนี้ หอการค้ายุโรปในเวียดนาม ชี้ว่านักธุรกิจยุโรปยังคงเชื่อมั่นต่อรัฐบาลเวียดนามว่าจะประสบความสำเร็จในการควบคุมไวรัสโควิด-19 และตั้งใจที่จะรักษาการดำเนินงานในเวียดนามอีกต่อไป

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/foreign-investors-keep-trust-in-vietnams-recovery/208690.vnp

 

‘เวียดนาม’ เผย 8 เดือนแรกปีนี้ ยอดส่งออกไปยังกัมพูชา พุ่ง 16.7%

ตัวเลขการส่งออกของเวียดนามไปยังกัมพูชาในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 3.15 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เวียดนามขาดดุลการค้ากับกัมพูชา 354.4 ล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวียดนามขาดดุลการค้า คือการนำเข้าเพิ่มขึ้นของสินค้าสำคัญ 6 รายการจากกัมพูชา เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะเม็ดมะม่วงหิมพานต์และยางพาราที่มีมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นสูงสุด ทั้งนี้ ยอดเงินทุนจดทะเบียนของเวียดนามในกัมพูชานั้น มีมูลค่ากว่า 2.85 พันล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนส่วนใหญ่จะเข้าไปในภาคเกษตรกรรม ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเวียดนามเข้าไปลงทุนในกัมพูชา เนื่องจากค่าแรงงานถูก สภาพแวดล้อมที่ดินมีความเหมาะสม สภาพภูมิอากาศและแรงจูงใจ เป็นต้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-exports-to-cambodia-up-167-percent-in-eight-months/208682.vnp